ในโลกยุคดิจิทัลในปัจจุบัน การมีทักษะเฉพาะด้านในการทำงานเพียงอย่างเดียวก็คงไม่พอ ด้วยโลกการทำงานที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไป การมีทักษะที่สามารถยืดหยุ่นได้ก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ และหากพูดถึง Soft Skills หลายคนคงคุ้นหูหรือเคยผ่านตามาบ้าง แต่ก็คงมีบางคนที่อยากมาหาคำตอบว่าทักษะที่ว่านี้คืออะไรกันแน่และจะใช้ทักษะดังกล่าวในหน้าที่การงานได้ยังไง?

ในบทความนี้ เราจะมาหาคำตอบว่า Soft Skills คืออะไร พร้อมอธิบายความสำคัญของทักษะดังกล่าวในโลกยุคดิจิทัลแบบนี้กัน

Soft Skills

Soft Skills คืออะไร?

Soft Skills คือทักษะความสามารถที่ข้องเกี่ยวกับการปฏิบัติงานและสมรรถนะที่ไม่ต้องใช้ความรู้ทางเทคนิคเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น ทักษะในการสื่อสาร ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ความสามารถในการเจรจา หรือการบริหารจัดการเวลานั่นเอง ซึ่งจะมีความแตกต่างยากมากกับ Hard Skills ที่เราจะอธิบายเพิ่มเติมในส่วนถัดไป

ตัวอย่างของ Soft Skills

นี่เป็นตัวอย่างของทักษะที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางในการทำงานหรือการมีส่วนร่วมในงานดังกล่าว อาทิเช่น: 

  • การปรับตัว
  • การทำงานร่วมกัน
  • การคิดอย่างมีวิจารณญาณ
  • การคิดเชิงกลยุทธ์
  • ความเข้าใจ
  • การจัดการ
  • การแก้ปัญหา

ตัวอย่างของ Soft Skills

โดยทักษะดังกล่าวถือเป็นส่วนสำคัญในโลกยุคนี้ และแม้แต่ยุคก่อนหน้าทั้งในด้านการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวันของพวกเรา เพราะนี่เป็นทักษะที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานเป็นทีม ทั้งยังอาจจะได้สร้างมิตรภาพ หรือความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้อีกด้วย ทำให้หลายๆ บริษัทเลือกที่จะคัดเลือกพนักงานที่มาพร้อมกับทักษะดังกล่าว โดยเฉพาะงานที่จำเป็นต้องพูดคุยหรือเจรจากับลูกค้าเข้ามาในองค์กรมากยิ่งขึ้น

Soft Skills ยังมีความสำคัญต่อความสำเร็จของนายจ้างอีกด้วย เพราะอาชีพที่ต้องใช้ทักษะดังกล่าวจะต้องการให้พนักงานมีส่วนร่วมกับองค์กรไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และความสำคัญอีกอย่างที่ทำให้องค์กรต่างเฟ้นหาพนักงานที่มีทักษะดังกล่าวก็เพราะนี่เป็นความสามารถยืดหยุ่นได้ตลอดเวลาไม่ว่าพนักงานจะอยู่ในสายอาชีพใด ทำให้พนักงานที่มีทักษะดังกล่าวสามารถปรับตัวและยืดหยุ่นกับหน้าที่การงาน (หรือการใช้ชีวิต) ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

Hard Skills คืออะไร?

Hard Skills คือทักษะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของวิธีการทำงานหรือการทำเป้าหมายต่างๆ ให้สำเร็จ ตัวอย่างเช่น การที่นางพยาบาลเข้าใจถึงวิธีการฉีดวัคซีน การที่กราฟิกดีไซน์เข้าใจว่าควรใช้โปรแกรมตัวไหนในการทำงานให้ออกมาดี ทั้งหมดนี้สามารถนับได้ตั้งแต่การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศไปจนถึงการวิเคราะห์คาดการณ์เพื่อคาดเดาแนวโน้มของตลาดคริปโตเลยทีเดียว

ตัวอย่างของ Hard Skills

​​Hard Skills คือทักษะที่เกี่ยวข้องกับความเข้าใจในการทำงานนั้นๆ ให้สำเร็จลุล่วง อาทิเช่น: 

  • ภาษาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์
  • การวิเคราะห์ข้อมูล
  • งานวิศวกรรม
  • การบริหารการเงิน
  • การพูดภาษาต่างประเทศ
  • การออกแบบ UX 
  • การออกแบบเว็บไซต์
  • การเขียนและเรียบเรียง

เห็นได้ชัดว่าสกิลการทำงานทั้งสองแบบนั้นมีความสำคัญแตกต่างกันไป และมีความสอดคล้องกันอย่างลึกซึ้ง หากนางพยาบาลหรือกราฟิกดีไซน์ในตัวอย่างขาดทักษะอย่างใดอย่างหนึ่งก็อาจไม่สามารถทำงานให้ลุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีทักษะทั้งสองด้านควบคู่กันไปจึงเป็นเรื่องสำคัญในการทำงานนั่นเอง ความสามารถในส่วนของ Hard Skills จะเป็นความรู้และความเชี่ยวชาญในหน้าที่การงานของตัวคุณ ช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยเพิ่มความไว้วางใจให้กับเพื่อนร่วมงานหรือองค์กรได้

Hard Skills

ในทางเดียวกัน หากขาดทักษะในด้าน Soft Skills ก็อาจเกิดปัญหาในด้านการสื่อสารที่ไร้ประสิทธิภาพ อาจทำให้เกิดความแคลงใจต่อเพื่อนร่วมงาน หรืออย่างร้ายแรงที่สุดก็คืออาจก่อให้เกิดความขุ่นเคืองภายในองค์กรได้นั่นเอง

การแก้ปัญหาและการสร้างความเข้าใจให้กับองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพจึงถือเป็นสิ่งสำคัญเมื่อพูดถึงเรื่องของ Soft Skills เพื่อความยืดหยุ่นในการทำงานและได้ปัญหาที่ไม่คาดคิดถือเป็นเรื่องสำคัญและอาจส่งผลให้คุณไม่สามารถใช้ Hard Skills ที่คุณมีได้อย่างเต็ม

ดังนั้น การมีทักษะทั้งสองอย่างควบคู่กันจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายในงานต่างๆ ได้อย่างราบรื่น พร้อมกันนั้น ก็ยังสามารถเพิ่มความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานหรือคนรอบตัวได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้คุณประสบความสำเร็จทั้งในด้านการเงินและการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี

Soft Skills vs Hard Skills ต่างกันอย่างไร?

Hard Skills และ Soft Skills ถือเป็นความสามารถที่มีลักษณะและการเรียนรู้ที่แตกต่างกันไป โดยเราก็ได้อธิบายข้อแตกต่างสำคัญของทั้งสองทักษะเอาไว้ ดังนี้:

soft skill vs hard skill

ลักษณะของ Hard Skills

  • เป็นทักษะที่มีความเฉพาะลงหรือไป หรืออาจเป็นความรู้ความสามารถที่สามารถวัดและประเมินเป็นตัวเลขได้ เช่น การสอบวัดคะแนน เทคนิคการนับเงิน-บัญชี เป็นต้น
  • สามารถเรียนรู้ได้ด้วยการฝึกฝนและการศึกษาตามคอร์สเรียนต่างๆ เช่น การเรียนในมหาลัยในภาคสาขาวิชาที่เฉพาะลงไป หรือการเรียนรู้จากประสบการณ์ทำงานก็ได้เช่นกัน

ลักษณะของ Soft Skills

  • เป็นทักษะที่เกี่ยวข้องกับบุคลิกภาพและเป็นความสามารถที่สามารถนำไปปรับใช้ได้หลากหลายสถานการณ์มากกว่า แต่ไม่สามารถนำมาวัดและประเมินเป็นตัวเลขได้ เช่น การเจรจาต่อรอง การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การบริหารเวลา การคิดอย่างสร้างสรรค์ หรือการพูดคุยต่อยอดในเรื่องต่างๆ เป็นต้น
  • สามารถพัฒนาและเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต และการพูดคุยกับผู้อ่าน การอ่านหนังสือ หรือการใช้ประสบการณ์ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เคยเรียนรู้มาก่อน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีพัฒนา Soft Skills และยังสามารถพัฒนาต่อยอดได้ผ่านการฝึกฝนและการสังเกตผู้อื่นได้อีกด้วย

ในโลกยุคใหม่แบบนี้ ความสอดคล้องกันระหว่างทักษะทั้งสองได้กลายเป็นปัจจัยที่สำคัญมากขึ้นที่จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน Hard Skills มีส่วนสำคัญเพื่อให้ได้มาซึ่งโอกาสในการทำงาน และการมี Soft Skills ติดตัวก็จะช่วยให้หน้าที่การงานเติบโตขึ้นไปอีกระดับ

ตัวอย่างเช่น ผู้จัดการโปรเจกต์จะไม่ได้มีเพียงทักษะความชำนาญในด้านเทคนิคเพียงอย่างเดียว แต่หน้าที่การจัดการในรูปแบบดังกล่าวจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีทักษะในการสื่อสารที่ดี ที่ช่วยให้พวกเขาสามารถสื่อสารไอเดียที่ซับซ้อนออกมา พร้อมกระตุ้นให้ทีมของตนสามารถบรรลุเป้าหมายของงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาในปัจจุบันก็ยังจำเป็นที่ต้องใช้พนักงานที่สามารถปรับตัวและเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่อง และนั่นคือหน้าที่ของทักษะ Soft Skills ที่เน้นไปในเรื่องของการปรับตัว การแก้ไขปัญหา และการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้พนักงานสามารถปรับตัวได้กับความไม่แน่นอน

หลายๆ องค์กรจึงต้องการพนักงานที่มีทักษะความสามารถทั้งสองอย่างที่สมบูรณ์และเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน เช่นเดียวกับกระบวนการจ้างงานที่เริ่มมุ่งเน้นไปที่การสังเกตลึกลงไปในซอฟต์สกิลของผู้สมัครงานมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการประเมินว่าผู้สมัครสามารถร่วมงานกับทีมและองค์กรเพื่อทำงานให้สำเร็จได้หรือไม่

สุดท้ายนี้ การมุ่งเน้นพัฒนาทักษะใดทักษะหนึ่งมากกว่าจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป เพราะทั้งสองทักษะต้องสอดคล้องควบคู่กันไป ผู้ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะในสายงานใด ต่างก็สามารถที่จะปรับใช้ทักษะทั้งสองได้อย่างมีประสิทธิภาพ การมีทักษะและความสามารถรอบด้านจึงมีความสำคัญและเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นในโลกยุคใหม่ ที่จะปูทางให้สามารถทำงานได้อย่างมีความเข้าใจและมีความยืดหยุ่นเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นคง

ทำไม Soft Skills ถึงสำคัญในยุคนี้?

ก่อนที่เราจะอธิบายถึงความสำคัญในยุคนี้ เราอยากให้ผู้อ่านได้เข้าใจว่าเราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า Soft Skills นั้นเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงานมากยิ่งขึ้น โดยงานวิจัยจากหลายๆ สถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงล้วนชี้ให้เห็นว่า 85% ของความสำเร็จในด้านหน้าที่การงานเป็นผลลัพธ์ที่มาจากทักษะ Soft Skills ซึ่งถือเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงอย่างมีนัยสำคัญ และยังเป็นทักษะที่เป็นส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตในสังคมอีกด้วย

ทำไม Soft Skills ถึงสำคัญในยุคนี้?

โดยเราสามารถแยกทักษะดังกล่าวออกเป็น 4 ด้านได้ ดังนี้:

  • EQ (Emotional Quotient): หรือความฉลาดทางอารมณ์ที่เป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถยับยั้งหรือความคุมการแสดงออกได้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ และตระหนักได้ถึงความรู้สึกของคนอื่นและของตัวเองได้เป็นอย่างดี
  • AQ (Adversity Quotient): หรือความฉลาดในการแก้ไขปัญหา เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณสามารถเผชิญหน้ากับปัญหาและมีแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างไรเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างลุล่วง และคุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ดีเพียงใด
  • CQ (Creativity Quotient): หรือความฉลาดในการริเริ่มสร้างสรรค์ การมีจินตนาการที่ยืดหยุ่น สามารถปรับใช้ประยุกต์แนวคิดเข้าด้วยกัน หรือการเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อใช้เป็นวิธีแก้ปัญหา และเพื่อเสนอแนวทางอื่นได้อย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพก็เกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน 
  • SQ (Social Quotient): หรือความฉลาดทางสังคม ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวหรือทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงาน เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และสามารถเห็นต่างกับผู้อื่นได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการไม่เปรียบเทียบหรือมีความพยายามกดคนอื่นให้ต่ำลง

ในระหว่างการสัมภาษณ์งาน คุณอาจเคยถูกถามว่า ‘คุณคิดว่าตัวเองมีความสามารถแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่นยังไง’ แน่นอนว่าคำตอบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคำตอบที่ ‘ดี’ หรือคำตอบที่ ‘แย่’ ทั้งหมดล้วนถูกกลั่นกรองออกมาจากทักษะดังกล่าวทั้งสิ้น 

เช่นเดียวกับการใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน Soft Skills เป็นทักษะที่มีความจำเป็นอย่างมากในการดำเนินชีวิต เพราะถือเป็นทักษะที่ต้องใช้อยู่ตลอดเวลา ทั้งในกระบวนการพัฒนาตนเอง การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม รวมถึงในโลกออนไลน์  ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม

และในส่วนด้านล่าง เราจะมาอธิบายถึงความสำคัญหลักๆ ของซอฟต์สกิลในยุคปัจจุบันกันบ้าง

หากมีแค่ Hard Skills อาจยากที่จะประสบความสำเร็จในการทำงาน

แน่นอนว่าทุกคนต่างก็อยากประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานของตน หลายคนจึงมุ่งเน้นไปที่การฝึกพัฒนาทักษะ Hard Skills ของตนเพียงอย่างเดียว แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด แต่ในยุคปัจจุบันนั้น การอาศัยเพียงความชำนาญด้านเทคนิคอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น Soft Skills มีส่วนสำคัญและมีความสัมพันธ์กับการใช้ชีวิตในทุกส่วน และทุกอาชีพล้วนจำเป็นต้องใช้ทักษะดังกล่าวร่วมด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น อาชีพนักเขียนที่แม้ว่าจะสามารถใช้ถ้อยคำเรียงร้อยข้อความได้สละสลวยแค่ไหน หากขาด Soft Skills ไปก็คงไม่อาจที่จะสื่อใจความถึงผู้อ่านได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือแม้กระทั่งพนักงานขายที่แม้จะรู้เรื่องสินค้าเป็นอย่างดี แต่กลับไม่รู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ก็คงไม่สามารถที่จะปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอาจเสียลูกค้าไปตลอดกาล 

ด้วยรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้ที่มัวแต่ยึดติดอยู่แค่เพียงความสามารถทางเทคนิคเพียงอย่างเดียวก็คงไม่พอ เด็ดรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ หากเก่งเพียงแค่เรื่องงาน แต่ไม่เก่งเรื่องคนก็คงยากที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

ผู้ที่อยากประสบความสำเร็จในสายอาชีพจึงจำเป็นต้องมีทักษะดังกล่าวติดตัว สามารถฟังและสื่อสารข้อความได้เป็นอย่างดี และต้องมีความสามารถในการปรับใช้ความคิดของตนในสถานการณ์จริงได้อย่างเหมาะสม นี่จึงเป็นทักษะสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามไปแต่อย่างใด

ทักษะ Soft Skills สามารถเพิ่มมูลค่าของงานที่คุณทำได้

โลกเราเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับการทำงาน ในปัจจุบัน เทคโนโลยีต่างๆ เริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในด้านการทำงาน เช่น การใช้ AI เพื่อช่วยในการเขียนบทความ หรือการใช้แอพพลิเคชันในการอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ 

ทั้งหมดเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลให้ทักษะ Hard Skills ไม่สามารถใช้ได้อย่างเหมาะสมในปัจจุบัน หรือเรียกอีกอย่างว่าทักษะทางเทคนิคบางอย่างอาจถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องในตอนนี้ ดังที่เห็นได้จากการใช้ ChatGPT เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลหรือเขียนบทความที่มากขึ้น หรือการใช้ AI ต่างๆ เพื่อสร้างรูปภาพที่สวยงามเหมือนถูกสร้างสรรค์โดยจิตรกรฝีมือดี 

แต่ข่าวร้ายของเรื่องนี้ก็คือ อัตราการจ้างบุคลากรเข้ามาในองค์กรก็อาจลดลงเช่นกัน และยังมีรายงานจาก Goldman Sachs Research ที่คาดการณ์เอาไว้ว่าอาชีพกว่า 300 อาชีพทั่วโลกอาจถูก Dirsupt โดย AI อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต 

ใครที่มัวแต่ยึดติดอยู่กับทักษะที่ตนมีและไม่มีการพัฒนาหรือเรียนรู้สิ่งใหม่เพิ่มเติม ก็อาจจะถูกเทคโนโลยีก้าวนำไปอย่างน่าเสียดาย ดังนั้น ยิ่งมีความต้องการเรียนที่จะศึกษาเรื่องใหม่ๆ อยู่อย่างเสมอโดยเฉพาะในด้าน Soft Skills จึงมีความสำคัญชัดเจนมากยิ่งขึ้น 

หลายๆ องค์กรเข้าใจดีว่าทักษะดังกล่าวคือสิ่งที่พนักงานทุกคนต้องมีและไม่สามารถขาดไปได้ อย่างที่เราบอกไปว่าทักษะที่ว่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อนายจ้างได้ด้วย เพราะเมื่อถึงเวลาที่จำเป็นในการประชุม หรือการเจรจาในด้านต่างๆ การมีพนักงานที่มีความสามารถรอบด้านจะช่วยทำให้ธุรกิจเติบโตในอนาคตได้อย่างมั่นคง

ตัวอย่างที่ว่านี้สามารถเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นในบริษัทใหญ่ๆ เช่น Google หรือ Amazon ที่ต่างมีแนวทางในการมองหาและคัดเลือกคนที่มีความสามารถรอบด้าน และพร้อมที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเพื่อพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา มากกว่าคนที่ยึดติดอยู่กับแค่ทักษะด้านเทคนิคที่ไม่สามารถเสนอไอเดียหรือแนวทางการแก้ปัญหาใดๆ ให้กับองค์กรได้นั่นเอง

AI ยังไม่สามารถทดแทนงานที่ต้องใช้ Soft Skills ได้ในปัจจุบัน

เป็นเรื่องที่ที่ AI ตอนนี้สามารถใช้ทดแทนอาชีพที่จำเป็นต้องใช้ Hard Skill ได้แล้ว แต่อย่างที่เราอธิบายไปว่า Soft Skills นั้นไม่ใช่ทักษะที่สามารถประเมินได้เป็นตัวเลข หรือใช้คะแนนในการวัดค่าได้ว่าแต่ละคนมีทักษะในด้านนี้มากน้อยเพียงใด

แน่นอนว่าปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถเข้าใจหรือสามารถเรียนรู้บริบทที่ซับซ้อนมากไปกว่าการเปลี่ยนตัวเลขให้เป็นข้อมูลเหมือนที่ AI ทำได้ในปัจจุบัน และนี่คือสิ่งที่ทำให้ทักษะยิ่งมีความจำเป็นอย่างมากในตอนนี้

ai กับยุคปัจจุบัน

ในระบบการผลิตแบบอุตสาหกรรม หรือการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะต่างๆ ก็มีการใช้งาน AI กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น แม้ว่าอาจจะยังไม่ได้เต็มที่แบบ 100% แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนาต่อไป เราก็ไม่มีทางรู้เลยว่าโมเดล AI ต่างๆ จะสามารถทำอะไรได้อีกบ้าง

แต่ในทางกลับกัน ก็ยังมีงานอีกจำนวนมากที่ AI ในปัจจุบันยังไม่สามารถทดแทนได้ ปัญญาประดิษฐ์ในตอนนี้ยังไม่สามารถพัฒนาหรือเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกได้เหมือนกับมนุษย์ (อาจเป็นเรื่องของจริยธรรมที่จำเป็นต้องใช้ความรอบคอบมากขึ้น) โดยทักษะที่ AI ไม่สามารถทดแทนได้เลยก็คือ การรับฟังผู้อื่น การเข้าใจความรู้และความต้องการของผู้อื่น การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รวมไปถึงการตัดสินใจที่ต้องใช้ความซับซ้อนมากขึ้น เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ จึงเป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ Soft Skills มีความจำเป็นมากๆ ในยุคที่ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้แบบนี้ การพึ่งอาศัยเพียงทักษะเฉพาะอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว ทั้งในด้านการงานและด้านการใช้ชีวิตในสังคม แต่สิ่งจำเป็นที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเลยก็คือความสามารถในการปรับตัวที่จำเป็นต้องมีซอฟต์สกิลนั่นเอง

Soft Skills ที่ควรมี มีอะไรบ้าง?

1. ทักษะการสื่อสาร

ทักษะการสื่อสารถือเป็น Soft Skills ขั้นพื้นฐานที่จะว่าฝึกง่ายก็ง่าย จะว่าฝึกยากก็ยาก และยังเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ไม่ว่าจะยุคไหน แน่นอนว่าการสื่อสารนั้นไม่ได้มีเฉพาะแค่การพูดเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการฟัง อ่าน และการเขียนอีกด้วย คนที่ไม่ได้จดจ่อกับทักษะในการสื่อสารมากเท่าที่ควร ก็อาจพลาดสาระสำคัญในบทสนทนานั้นๆ ได้นั่นเอง

ทักษะดังกล่าวยังไม่ได้จำกัดแค่เพียงอาชีพที่อาศัยความสามารถในการพูดคุยเท่านั้น แต่ถ้าเราลองดูดีๆ จะเห็นว่านี่เป็นทักษะที่ต้องใช้อยู่แทบจะตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาต่อรอง การตอบข้อความหรืออีเมล การนำเสนองาน การประชุม หรือแม้กระทั่งการพูดคุยกับเพื่อนสนิท

2. ทักษะการบริหารจัดการเวลา

คนเรามีเวลา 24 เท่ากัน แต่บางคนอาจใช้เวลาดังกล่าวแตกต่างกันไป บางคนอาจมองว่า 24 ชั่วโมงนั้นก็เหลือเฟือที่จะทำสิ่งที่อยากทำได้จนหมด แต่บางคนก็อาจจะมองว่า 24 ชั่วโมงนั้นแทบไม่พอที่จะใช้ชีวิตได้เลย นี่คือสิ่งสำคัญของการมี Soft Skills ในด้านการบริหารจัดการเวลา

เวลาเป็นสิ่งที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน โดยเฉพาะในสายอาชีพที่มีคำว่า ‘เดดไลน์’ มาเป็นตัวกำหนดในการส่งงานให้ทัน หากคุณขาดทักษะในการบริหารจัดการเวลาที่ดีล่ะก็ ก็คงไม่มีทางเลี่ยงได้ที่จะไม่ให้เกิดผลกระทบต่องานที่คุณทำ และอาจทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นต้องเสียเวลามากขึ้นไปอีก ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่

ทักษะการบริหารจัดการเวลา

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งทักษะที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เป้าหมายสำเร็จตามระยะเวลาที่กำหนดและมีผลลัพธ์ออกมาน่าพึงพอใจ เริ่มจากการวางแผนจัดการเวลาให้ดี ผลลัพธ์ที่ดีก็จะตามมาให้เห็นอย่างแน่นอน

3. ทักษะในการปรับตัว

ยิ่งเทคโนลยีมีความสำคัญมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็ต้องยิ่งก้าวให้ทันมากขึ้นเท่านั้น การรู้จักปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดหรือการปรับตัวเข้ากับสังคม จึงเป็นอีกหนึ่ง Soft Skills ที่ไม่ควรละเลย เพราะนอกจากจะทำให้เราก้าวทันเหตุการณ์ทั้งในสังคมและในโลกได้แล้ว ยังสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ใหม่ไปต่อยอดเพิ่มเติมได้อีกด้วยนั่นเอง

4. ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น

แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกอย่างจะสามารถทำสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว การทำงานร่วมกับผู้อื่นจึงเป็นหนึ่งใน Soft Skills สำคัญที่ควรมี ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในโครงงานเดียวกันหรือการทำงานเป็นกลุ่ม การรู้จักทำงานกันเป็นทีมและทำให้ทีมมองเห็นภาพรวมของงานมากยิ่งขึ้น จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการทำงานให้ลุล่วง

5. ทักษะการเป็นผู้นำ

ผู้นำที่ดีควรมีวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและสามารถทำได้จริง เพื่อให้เป้าหมายในการทำงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี หากขาด Soft Skills ในส่วนนี้ไปก็อาจทำให้ทีมต้องประสบปัญหาระหว่างทางได้ หากขาดผู้มีทักษะในการเป็นผู้นำไป โดยการเป็นผู้นำที่ดีนั้นจะต้องมีความรับผิดชอบ สามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงาน และรับฟังความเห็นของผู้อื่นได้เป็นอย่างดี 

บทสรุป

Soft Skills ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างมากเพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในการทำงาน พร้อมเสริมความยั่งยืนและความยืดหยุ่นให้กับการทำงานนั้นๆ และนอกจากจะหางานได้ง่ายขึ้นแล้ว Soft Skills ยังช่วยให้สามารถปรับตัวในตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้อีกด้วย

เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ทักษะที่เป็นเอกลักษณ์ของเราก็จะยิ่งมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นสกิลการทำงานที่ช่วยเสริมความสำคัญในเรื่องความฉลาดทางอารมณ์ การสื่อสาร และการทำงานร่วมกันเพื่อให้ประสบความสำเร็จในด้านการทำงานและด้านการใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืน

อ้างอิง

คำถามที่พบบ่อย

Soft Skills กับ Hard Skills แตกต่างกันยังไง?

Soft Skills ที่ควรมีในปี 2024 คืออะไร?