LinkedIn เริ่มต้นจากการเป็นแพลตฟอร์มเครือข่ายเพื่อธุรกิจและอาชีพเมื่อ 20 ปีที่แล้ว และพัฒนาจนกลายเป็นรูปแบบธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ผ่านค่าสมาชิก ค่าโฆษณา การขาย และค่าคอมมิชชันจากจัดหาบุคคลเข้าทำงานให้กับองค์กรต่างๆ โดยมีสมาชิกกว่า 930 ล้านคนใน 200 ประเทศ LinkedIn จึงถือเป็นเครือข่ายสำหรับเปิดโอกาสทางธุรกิจและอาชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ที่ผ่านมา มีเรื่องราวน่าสนใจอัปเดตใหม่มากมาย ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ใช้งานและด้านอื่นๆ วันนี้เราจึงรวบรวมสถิติบน LinkedIn และข้อมูลเชิงลึกกว่า 90 รายการที่คุณควรรู้มาแชร์ให้เห็นภาพกันชัด ๆ มาดูกันว่าเครือข่ายยักษ์ใหญ่ระดับท็อปของโลก จะมีบทบาทอะไรในปี 2023

สถิติสำคัญบน LinkedIn

  • LinkedIn เป็นเครือข่ายเพื่ออาชีพที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ใช้กว่า 900 ล้านคนจาก 200 ประเทศ
  • มีอัตราส่งใบสมัครงาน 117 รายการทุกๆ 1 วินาทีบน LinkedIn
  • มีผู้ใช้ LinkedIn ในการหางานมากกว่า 61 ล้านคนต่อสัปดาห์
  • นักการตลาด B2B 97% ใช้ LinkedIn เพื่อหาไอเดียคอนเทนต์การตลาด
  • มีโปรไฟล์บน LinkedIn ในนามบริษัทกว่า 59 ล้านแอคเคาท์

ข้อมูลเกี่ยวกับ LinkedIn

ข้อมูลการลงทุนของ LinkedIn

LinkedIn ได้รับเงินทุนสนับสนุนหลักล้านจากหลายช่องทาง อย่างในปี 2011 การเสนอขายหุ้น IPO ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และปี 2016 ทางบริษัท Microsoft ก็ได้เข้าซื้อกิจการ LinkedIn ในที่สุด นับว่าเป็นหนึ่งในดีลประวัติศาตร์ของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ปี 2003 LinkedIn ได้เงินทุน 4.7 ล้านดอลลาร์จากการระดมทุน Series A

โดยมีบริษัท Sequoia Capital, Greylock Partners และนักลงทุนรายอื่นๆ เข้าร่วม การระดมทุนครั้งนี้ ช่วยพัฒนาแพลตฟอร์มและขยายฐานผู้ใช้ LinkedIn ให้เพิ่มมากขึ้น

ปี 2004 LinkedIn ได้เงินทุน 10 ล้านดอลลาร์จากการระดมทุน Series B

การระดมทุนรอบนี้ นำทีมโดยบริษัทชั้นนำ Greylock Partners, Sequoia Capital และอื่นๆ ทำให้ LinkedIn สามารถขยายการดำเนินงานและพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ บนแพลตฟอร์มได้มากขึ้น

ปี 2007 LinkedIn ได้เงินทุน 27 ล้านดอลลาร์จากการระดมทุน Series C

สำหรับทุนระดับ Series C มีผู้สนับสนุนหลัก คือ Bessemer Venture Partners, European Founders Fund, Sequoia Capital, และ Greylock Partners ท่ามกลางนักลงทุนอื่น ๆ อีกมากมาย ทุนก้อนใหญ่นี้ เพื่อให้ LinkedIn ต่อยอดขยายและพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ต่อไปอีกระดับ

ปี 2011 LinkedIn เปิดตัวสู่สาธารณะและระดุมทุนได้มากกว่า 350 ล้านดอลลาร์

LinkedIn ยื่นคำขอเสนอขายหุ้น IPO ในเดือนมกราคม 2011 และจดทะเบียนครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมภายใต้ชื่อ “LNKD” ด้วยราคา 45 ดอลลาร์ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) โดยราคาเปิดหุ้นอยู่ที่ 83 ดอลลาร์และไต่ราคาขึ้นไปที่ 90 ดอลลาร์จนแตะเพดานมูลค่าหุ้นสูงถึง 122.70 ดอลลาร์อย่างรวดเร็ว ราคาปิดอยู่ที่ 94.25 ดอลลาร์ต่อหุ้น ประเมินมูลค่าของ LinkedIn ได้ราว ๆ 9 พันล้านดอลลาร์ สรุปได้ว่า LinkedIn สามารถระดมทุนได้มากกว่า 350 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ ทำให้เป็นหนึ่งในหุ้น IPO ด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดหลังจาก Google ในปี 2004

ในปี 2012 ราคาหุ้นโพสต์ IPO ของ LinkedIn ทะลุ 100 ดอลลาร์

ปี 2012 ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์หลังเปิดตัวของ LinkedIn ทะลุ 100 ดอลลาร์

หลังจากลงขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ 1 ปี ราคาเทรดหุ้นของ LinkedIn อยู่ที่ 100 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่า Strike Price ที่ 32 ดอลลาร์ถึง 137% ช่วงต้นปีราคาหุ้นของ LinkedIn อยู่ที่ประมาณ 77 ดอลลาร์และมีความผันผวนตลอดทั้งปี แตะ ATH ที่ 127 ดอลลาร์ในเดือนกันยายน ปี 2012 และราคาตกช่วงปลายปีอยู่ราว ๆ 112 ดอลลาร์ ซึ่งการแตะเป้า 100 ดอลลาร์ต่อหุ้นถือเป็นก้าวสำคัญและสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของ LinkedIn ในฐานะผู้นำในด้านเครือข่ายธุรกิจและการจัดหางานอย่างแท้จริง

ปี 2016 ราคาหุ้น LinkedIn ลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์

ราคาหุ้น LinkedIn ลดลงกว่า 40% ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบ 3 ปีกว่า มูลค่าตลาดหายไปกว่าพันล้านดอลลาร์ สาเหตุราคาหุ้นร่วงรอบนี้มาจากรายได้ของบริษัทต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสแรกของปี 2016 จึงเกิดความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัท

มีการซื้อขายหุ้น LinkedIn ครั้งสุดท้ายในเดือนธันวาคม 2016

หลังจากบริษัท Microsoft ซื้อกิจการ LinkedIn ด้วยมูลค่า 26.2 ล้านดอลลาร์ เป็นการซื้อขายหุ้น LinkedIn ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2016 ด้วยราคาปิดที่ 195.96 ดอลลาร์ และซึ่งการควบรวมกิจการครั้งนี้ บริษัท Microsoft เข้าซื้อหุ้น Class A ด้วยเงินสดในราคาหุ้นละ 196 ดอลลาร์ ทำให้ LinkedIn กลายเป็นบริษัทในเครือของ Microsoft แบบเต็มตัวและถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ไปในที่สุด

ข้อมูลทางธุรกิจของ LinkedIn

LinkedIn มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเครือข่ายทางธุรกิจและจัดหาบุคลากรให้กับองค์กร อีกทั้งยังช่วยเสริมการเชื่อมต่อระหว่างกลุ่มคนและสถาบันชั้นนำทั่วโลกให้ทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ พร้อมกับขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงมีอิทธิพลต่อรูปแบบการจ้างงานของบริษัทต่าง ๆ รวมถึงการตลาด และการขายที่ยังคงเติบโตเรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุด

ปี 2016 บริษัท Microsoft เข้าซื้อ LinkedIn ด้วยมูลค่า 26.2 พันล้านดอลลาร์

Microsoft ทุ่มเงินสด 26.2 พันล้านดอลลาร์ กวาดซื้อหุ้น LinkedIn ในราคาหุ้นละ 196 ดอลลาร์ เพื่อเร่งพัฒนาการเติบโตของ LinkedIn และเพื่อผนวกข้อเสนอบริการต่างๆ ของ Microsoft เข้าด้วยกัน ซึ่งการยื่นมือเข้ามาครั้งนี้ ทาง Microsoft สามารถเข้าถึงฐานผู้ใช้และฐานข้อมูลของ LinkedIn ได้จำนวนมหาศาล พร้อมนำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงการโฆษณาและเครือข่ายธุรกิจจัดหาบุคคลของ LinkedIn ได้ทั้งหมด

เดือนเมษายน ปี 2023 LinkedIn ทำงานภายใต้ส่วนการผลิตและกระบวนการทางธุรกิจ (Productivity and Business Processes) ของบริษัท Microsoft

บริษัท LinkedIn ทำงานควบคู่ไปกับซอฟต์แวร์ Office และเครื่องมือทางธุรกิจอื่นๆ ซึ่ง Microsoft ก็ไฟเขียวให้ทาง LinkedIn มีอิสระได้อย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องของการรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ และวัฒนธรรมในองค์กร

ในเดือนเมษายน 2023 LinkedIn ดำเนินงานภายใต้ส่วนการผลิตและกระบวนการทางธุรกิจของ Microsoft

CEO ของ LinkedIn คือ Ryan Roslansky

คุณ Ryan ทำงานกับ LinkedIn ในปี 2009 ในตำแหน่งหัวหน้าทีมหลายๆ ภาคส่วน และรับช่วงต่อจากคุณ Jeff Weiner ในปี 2020

LinkedIn มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองซันนีเวล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

LinkedIn มีสำนักงาน 36 แห่งทั่วโลก ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา 10 แห่ง และอีก 26 แห่งตั้งอยู่ในแถบยุโรป เอเชีย อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ และออสเตรเลีย

เดือนพฤษภาคม ปี 2023 จำนวนพนักงาน LinkedIn ต่ำกว่า 20,000 คน

LinkedIn มีการปลดพนักงาน 720 คน ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสการเปลี่ยนแปลงขององค์กรธุรกิจระดับโลก (GBO) และตลาดเศรษฐกิจของจีน

ปี 2021 มีผู้นำผิวดำและลาตินเพิ่มขึ้น 35% และ 20.3% ตามลำดับ

LinkedIn ยังคงโฟกัสไปยังความหลากหลายของกลุ่มคน ทำให้มีจำนวนผู้นำ ผู้จัดการ และพนักงานระดับซีเนียร์เป็นคนผิวดำ 35% และลาติน 20.3% ในปี 2021

ปี 2022 ผู้นำของ LinkedIn เป็นผู้หญิงเกือบ 42%

LinkedIn ให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมกันทางเพศ ซึ่งตัวเลข 42% นี้ ถือเป็นก้าวสำคัญเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ และเป็นเครื่องพิสูจน์ความมุ่งมั่นของบริษัทที่มีต่อความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก

ข้อมูลธุรกิจของ Linkedin

เดือนพฤษภาคม ปี 2023 LinkedIn เข้าซื้อกิจการอื่น ๆ ถึง 30 ครั้ง

เพื่อขยายตัวในส่วนของข้อเสนอผลิตภัณฑ์ ทาง LinkedIn ใช้เงินจำนวน 2.29 พันล้านดอลลาร์ ซื้อธุรกิจด้านระบบการขายอัตโนมัติ, เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ HR (HR Tech), เทคโนโลยีการตลาด และอื่นๆ อีกทั้งยังเข้าซื้อกิจการ Edubrite และ Oribi ในปี 2022 และยังมีรายการเข้าซื้ออื่นๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนี้:

  • Glint – ซื้อด้วยมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ ในเดือนตุลาคม 2018
  • Lynda.com – ซื้อด้วยมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนเมษายน 2015
  • Bizo – ซื้อด้วยมูลค่า 175 ล้านดอลลาร์ ในเดือนกรกฎาคม 2014
  • Bright – ซื้อด้วยมูลค่า 120 ล้านดอลลาร์ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2014
  • Pulse – ซื้อด้วยมูลค่า 90 ล้านดอลลาร์ ในเดือนเมษายน 2013

ปี 2023 พื้นที่ 80% ของสำนักงาน LinkedIn ใช้พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์

และพื้นที่ 70% ก็ได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียวเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทาง LinkedIn มีการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 55% (รวมถึงลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการเดินทางและซัพพลายเออร์) และชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ผ่านมา เพื่อมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นลบเพื่อสิ่งแวดล้อมภายในปี 2030

LinkedIn เชื่อมต่อสมาชิกกว่า 400,000 คนเพื่อให้คำปรึกษาตลอดปี 2022

LinkedIn มีการให้ข้อมูลการให้คำปรึกษาฟรีผ่านหน้าเพจ เพื่อให้ทั้งเมนเทอร์และผู้สมัครรายย่อยได้รับประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมตลอดการใช้งาน

LinkedIn บล็อกบัญชีปลอม 87.4% ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม ปี 2022

ส่วนรายชื่อบัญชีปลอมอีก 12.6% ที่เหลือ ทาง LinkedIn ลงมือใช้ทีมสืบสวนและใช้ข้อจำกัดเพื่อทำการระงับด้วยตนเอง แน่นอนว่าเครือข่ายระดับนี้ ยังคงมีการพัฒนาและปรับปรุงเพื่อป้องกันและลบบัญชีสแกมเมอร์อย่างต่อเนื่อง

ระบบป้องกันอัตโนมัติของ LinkedIn บล็อกข้อความสแปมและเนื้อหาหลอกหลวงได้ 99.3%

และใช้ทีมงานตามจัดการกับส่วนที่เหลือ ซึ่งทางบริษัท LinkedIn มีเป้าหมายในการจัดการพวกข้อความสแปมและเนื้อหาหลอกลวงให้เร็วที่สุด เพราะเป็นไปได้ว่าอาจรวมถึงการกระทำเชิงพาณิชย์ที่ไม่เหมาะสม เช่น มีการส่งแชทพูดคุยหรือการเชิญชวนซ้ำๆ

สมาชิกทั่วโลกของ Linkedin

มีการส่งใบสมัครงาน 117 รายการทุกๆ 1 วินาทีบน LinkedIn

อีกทั้งยังมีสถิติการจ้างงานจำนวน 8 คนและมีการเชื่อมต่อ 9,000 รายการบน LinkedIn ทุก 1 นาทีอีกด้วย

ปี 2022 มีประกาศรับสมัครงานโดยไม่ใช้วุฒิการศึกษา 4 ปีเพิ่มขึ้น 33%

จากข้อมูลเชิงลึกปี 2022 LinkedIn เปิดเผยว่า 1 ใน 5 ของประกาศรับสมัครงาน ไม่กำหนดคุณสมบัติว่าต้องมีวุฒิการศึกษาระดับวิทยาลัย เพิ่มขึ้น 15% ในปี 2021

มีรายชื่อโรงเรียนกว่า 131,000 แห่งบน LinkedIn

ในปี 2022 มีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มสำหรับการเรียนรู้ของ LinkedIn มากกว่า 100 ชั่วโมง

ไตรมาสที่ 1 ของปี 2023 มีการสมัครรับจดหมายข่าวบน LinkedIn มากกว่า 150 ล้านครั้ง

จดหมายข่าว LinkedIn มีจำนวน Subscriber เพิ่มขึ้น 37.5 ล้านคน หรือเพิ่มมากขึ้นกว่า 4 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้วในช่วงเวลาเดียวกัน

มีการตีพิมพ์จดหมายข่าวมากกว่า 36,000 ฉบับบน LinkedIn

จำนวนทั้งหมดนี้รวมถึงงานพิมพ์ของผู้ที่มีอิทธิพล เช่น Melinda Gates, Arianna Huffington และ Richard Branson รวมถึงผู้จัดทำหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์อย่าง The Economist

Web traffic ของ LinkedIn มาจากการเข้าเว็บไซต์โดยตรง คิดเป็น 73.92% ของการเข้าชมผ่านเดสก์ท็อป

จากข้อมูลของ Similar Web เดือนเมษายน ปี 2023 LinkedIn มี Direct Traffic หรือยอดเข้าชมเว็บไซต์โดยตรงมากเป็นอันดับ 1 และการค้นหาทั่วไปผ่าน Search Engine อยู่ที่ 20.10% ตามมาเป็นอันดับ 2

ช่องทางการจำหน่ายทางการตลาด

ไทม์ไลน์และประวัติของ LinkedIn

ในปี 2002 LinkedIn ก่อตั้งขึ้นในห้องนั่งเล่นของคุณ Reid Hoffman (เป็น Co-founder ของ LinkedIn) และเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2003 ตัวแพลตฟอร์มถูกพัฒนาเป็นเครือข่ายระดับโปรที่มีผลงานมากที่สุดในโลก มาติดตามเส้นทางการเดินทางตลอด 20 ปีของ LinkedIn กันด้านล่างนี้:

  • 2003 – LinkedIn เปิดตัวและจัดตั้งบริษัทภายใต้ชื่อ LinkedIn, Ltd. ในรัฐเดลาแวร์
  • 2004 – มีจำนวนผู้ใช้ LinkedIn 1 ล้านยูสเซอร์
  • 2005 – LinkedIn Ltd มีผู้ใช้งาน 10 ล้านคนและเปลี่ยนชื่อเป็น LinkedIn Corporation ในเดือนมกราคม ปี 2005 พร้อมการเปิดตัวฟีเจอร์ต่างๆ ตลอดทั้งปี เช่น LinkedIn Groups, ฟีเจอร์เช็กคนดูโปรไฟล์ (Profile Views) และการเปิดตัวโฆษณาชิ้นแรก
  • 2008 – LinkedIn เปิดตัวแอปมือถือและ LinkedIn Ads
  • 2009 – LinkedIn เปิดสำนักงานในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย
  • 2010 – LinkedIn จัดตั้งสำนักงานใหญ่ข้ามประเทศในเมืองดับลิน และเข้าซื้อ mSpoke เป็นครั้งแรก

ไทม์ไลน์และประวัติของ LinkedIn

  • 2011 – LinkedIn เพิ่มผู้ใช้ใหม่ 1 ยูสเซอร์ทุก 1 วินาทีและมียอดผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคน โดยจำนวนผู้ใช้ครึ่งหนึ่งมาจากนอกประเทศสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นปีที่บริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เปิดให้ซื้อขายหุ้นครั้งแรกและเปิดตัวฟีเจอร์ “สมัครงานบน LinkedIn”
  • 2012 – LinkedIn เข้าซื้อ SlideShare พร้อมเปิดตัวฟีเจอร์ Endorsements (ฟีเจอร์รับรองความสามารถของคุณจากผู้ใช้งานรายอื่น), โปรแกรม Influencer รวมถึงบล็อก LinkedIn Ads และปีนี้ก็มีผู้พยายามแฮ็กระบบ LinkedIn เป็นครั้งแรกด้วย
  • 2013 – LinkedIn เข้าซื้อกิจการ Pulse และการเปิดตัว Sponsored Content
  • 2014 – LinkedIn ขยายตัวสู่ตลาดจีน โดยการเข้าซื้อกิจการ Bright.com และ Bizo, ซึ่งให้บริการเทคโนโลยี Ad-targeting (รูปแบบโฆษณาที่ต้องการเจาะถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ)
  • 2015 – LinkedIn เข้าซื้อ Lynda.com และเปิดตัวแอปมือถือเวอร์ชันพัฒนาแล้ว รวมถึง LinkedIn Recruiter และ Newsfeed
  • 2016 – มีการจัดตั้ง LinkedIn Learning Solutions, เปิดตัว Account Targeting และในปีนี้เองที่บริษัท Microsoft เข้าซื้อกิจการ LinkedIn

timeline ของ linkedin

  • 2017 – LinkedIn เข้าถึงผู้ใช้ 500 ล้านคน, ปรับปรุงดีไซน์หน้าเว็บไซต์ใหม่ และมีการเปิดตัวแบบฟอร์ม Lead Gen
  • 2018 – เปิดตัววิดีโอโฆษณาครั้งแรก
  • 2019 – เปิดตัวฟีเจอร์ “Open for Business” สำหรับฟรีแลนซ์และ SMEs รวมถึงเปิดตัวสถาบัน B2B และ LinkedIn Events (ฟีเจอร์สำหรับสร้างกิจกรรมบน LinkedIn)
  • 2020 – มีการเผยแพร่บทความลงหน้าเพจเว็บไซต์และ “LinkedIn Events” / เปิดตัว Outlook งานการตลาดประจำปี และแตะรายได้สูงถึง 10 พันล้านดอลลาร์
  • 2021 – Microsoft ยุติการดำเนินงานของ LinkedIn ในประเทศจีน และอ้างว่าบัญชี LinkedIn 500 ล้านบัญชีที่รั่วไหลทางออนไลน์เป็นความเท็จ
  • 2022 – LinkedIn มีสมาชิกมากกว่า 830 ล้านยูสเซอร์ มีการเปิดตัว LinkedIn Collective Marketing Solutions สร้างรายได้สูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์, เปิดตัว Sales Navigator รุ่นใหม่, เข้าซื้อกิจการ Oribi และเปิดสำนักงานแห่งแรกในอิสราเอล
  • 2023 – LinkedIn มีสมาชิก 900 ล้านยูสเซอร์ และเปิดตัว LinkedIn Audio Events ซึ่งเป็นแนวทางใหม่สำหรับการเข้าถึงคนรู้จักในสายงานเดียวกัน เพื่อนร่วมงาน และลูกค้า

รวมสถิติข้อเสนอผลิตภัณฑ์ของ LinkedIn

จุดมุ่งหมายของ LinkedIn คือการเป็นโซลูชันช่วยเชื่อมต่อระหว่างเหล่าครีเอเตอร์กับคอมมูนิตี้, คนหางานทำกับตำแหน่งงานที่เหมาะสม, ผู้ที่ต้องการเรียนรู้กับความรู้พัฒนาทักษะต่างๆ และนักการตลาดกับผู้ซื้อ โดยแพลตฟอร์มมีการผสมผสานระหว่างโซลูชันฟรีและโซลูชันที่สามารถสร้างรายได้ให้กับองค์กร เพื่อช่วยให้สมาชิกและลูกค้าเชื่อมต่อถึงกันอย่างลื่นไหล ได้รับข้อมูลอย่างถูกต้อง สานต่อการพัฒนาอาชีพและทำงานให้ดียิ่งขึ้น

สมาชิก LinkedIn ประมาณ 39% จ่ายค่าบริการ Linkedin Premium ตามรายละเอียดดังนี้:

  • อาชีพ: $39.99 ต่อเดือน
  • ธุรกิจ: $59.99 ต่อเดือน
  • LinkedIn Sales Navigator (เครื่องมือหากลุ่มเป้าหมายด้วยข้อมูลเชิงลึก): $99.99 ต่อเดือน
  • Recruiter Lite (เครื่องมือค้นหาบุคคลที่มีความสามารถตรงกับลักษณะงาน): $199.95 ต่อเดือน
ข้อเสนอของ LinkedIn คุณสมบัติ & บริการ
โซลูชันฟรี
  • หน้า Feed, ประวัติส่วนตัว, กล่องข้อความ
  • My Network และการค้นหา
  • คนที่คุณอาจรู้จัก (People You May Know)
  • แอปอ่านข่าว (LinkedIn Pulse), อินฟลูเอนเซอร์, การสร้างกลุ่ม (LinkedIn Groups)
  • สไลด์แชร์
  • LinkedIn Lookup และ Address Book Importer
  • แพลตฟอร์มสำหรับตีพิมพ์ผลงาน
  • แอปหางานและรับสมัครงาน (Jobs & Job Search)
  • เพจบริษัทและสถาบันการศึกษา
  • ฟีเจอร์ตรวจสอบว่าใครเข้าชมโปรไฟล์ของคุณและการจัดอันดับ
  • คอนเทนต์ระดับพรีเมียม (Rich Media) / ทักษะต่างๆ / การรับรองความสามารถ (Linkedin Endorsements)
โซลูชันยูบิควิตัส
  • แอป LinkedIn บนมือถือ
  • ซอฟต์แวร์ APIs
ทาเลนท์โซลูชัน (Talent Solutions)
  • โซลูชัน LinkedIn Corporate (LinkedIn Recruiter, ผู้อ้างอิง, LinkedIn Jobs)
  • สล็อต, มีเดียสำหรับจัดหางาน
  • หน้าเพจข้อมูลบริษัท (LinkedIn Career Pages)
  • โพสต์ประกาศรับสมัครงาน (LinkedIn Job Postings)
  • บริการหางาน (Job Seeker)
  • เครื่องมือหาบุคคลที่เหมาะสมกับลักษณะงาน (Recruiter Lite)
  • ช่องทางการเรียนรู้ทักษะ (LinkedIn Learning)
โซลูชันการตลาด
  • อัปเดตสปอนเซอร์
  • โฆษณา LinkedIn
  • โซลูชัน LinkedIn Elevate (เครื่องมือคัดกรองและแชร์คอนเทนต์)
  • โซลูชัน LinkedIn Sponsored InMails (เครื่องมือช่วยส่งข้อความใน LinkedIn)
  • โฆษณา Display
  • โฆษณา API
สมาชิกพรีเมียม
  • บริการพรีเมียมระดับมืออาชีพ/รายบุคคล
  • การสมัครรับข้อมูลต่างๆ
  • โซลูชันการขาย (Sales Navigator)
  • โซลูชัน Profinder

ทาเลนท์โซลูชัน (Talent Solutions)

LinkedIn Talent Solutions เป็นบริการที่รวมโซลูชันเกี่ยวกับการจ้างงาน และการเรียนรู้ & การพัฒนา โดยโซลูชันคัดเลือกพนักงาน (Hiring) จะให้บริการเครื่องมือที่มาพร้อมนวัตกรรมช่วยให้ประสบความสำเร็จในการคัดสรรพนักงานที่มีศักยภาพมาอยู่ในองค์กรด้วยกลยุทธ์ต่างๆ (Talent Acquisition) และการพัฒนาทักษะใหม่ๆ ส่วนโซลูชันการเรียนรู้ & การพัฒนา (Learning & Developmen) เป็นเครื่องมือให้ความรู้ออนไลน์ช่วยพัฒนาทักษะใหม่ๆ และเร่งการเติบโตในสายอาชีพนั้นๆ

เดือนตุลาคม ปี 2022 บริษัทกว่า 700,000 แห่งใช้ LinkedIn ในการค้นหาและจ้างพนักงาน

อีกทั้งยังมีข้อมูลสถิติ LinkedIn ที่แสดงให้เห็นว่า Talent ในองค์กรต่างๆ กว่า 4.9 ล้านคน ใช้งานแพลตฟอร์ม LinkedIn ในการมองหาและคัดเลือกพนักงานที่ตรงกับความต้องการของบริษัทในปี 2023

Linkedin Global Talent Trends รายงานว่ามีการจ้างงานน้อยลงตั้งแต่ปี 2022

จากรายงาน LinkedIn Global Trends เดือนพฤษภาคม 2023 อิงข้อมูลจาก 17 ประเทศ เผยว่ามีอัตราการจ้างงานลดน้อยลง และประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ สิงคโปร์ แคนาดา และอินเดีย ที่อัตราการจ้างงานลดลงมากกว่า 40% ในสหราชอาณาจักรลดลง 34% และสหรัฐอเมริกาลดลง 28%

องค์กรธุรกิจใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจากทักษะ 60% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจ้างพนักงานให้ประสบความสำเร็จ

การจ้างงานโดยเน้นทักษะเป็นหลัก ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในปี 2023 โดยผู้เชี่ยวชาญฝ่าย Recruitment 75% ระบุว่าข้อมูลด้านทักษะจะเป็นส่วนหนึ่งของการจ้างงานในปีนี้

ข้อมูลสถิติ LinkedIn เผยว่าฝ่ายสรรหาบุคลากรที่ใช้ทักษะเพื่อหา Talent ได้รับการตอบรับจาก InMail ราว 22%

เพราะโซลูชัน InMails ของ LinkedIn ทำให้พวกเขาเข้าถึงกลุ่มผู้สมัครได้กว้างขึ้น ทาง Recruiter ที่กรองผลการค้นหาตามทักษะต่าง ๆ ใน LinkedIn มีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบกลับที่ดีขึ้น

โอกาสในการทำงานของ Linkedin

มีลิสต์ทักษะมากกว่า 40,000 รายการบน LinkedIn

Recruiter บน LinkedIn กว่า 45% ใช้ข้อมูลด้านทักษะในการทำงาน

In Q1, 2023, LinkedIn announced new integrations between Viva and LinkedIn Learning.

ไตรมาสที่ 1 ปี 2023 LinkedIn ประกาศร่วมงานกับ Viva และ LinkedIn Learning

การร่วมมือกันครั้งนี้ ช่วยให้บริษัทต่างๆ ลงทุนกับพนักงานที่มีอยู่ปัจจุบัน พัฒนาศักยภาพโดยการเข้าถึงคอร์สต่างๆ ได้โดยตรงเพื่อเสริมการทำงานให้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

กว่า 13,000 องค์กรทั่วโลกใช้ LinkedIn Learning

LinkedIn Learning เป็นบริการเพิ่มทักษะความรู้ใหม่ๆ ที่มีมากกว่า 20,000 หลักสูตรใน 7 ภาษา

โซลูชันการตลาด

LinkedIn Marketing Solutions ช่วยยกระดับให้ธุรกิจมียอดผู้พบเห็น ยอดเอนเกจ และขยายการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายให้ดีขึ้น ซึ่งเครือข่ายของ LinkedIn ถือเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมที่เหล่านักการตลาด B2B เลือกใช้เป็นอันดับ 2 รองจาก Facebook เท่านั้น

และนี่คือข้อมูลภายในของ LinkedIn ด้านการตลาดที่คุณควรรู้:

  • นักการตลาดสามารถเข้าถึง Touchpoint ได้มากกว่า 9 เท่าผ่าน LinkedIn ads
  • LinkedIn Conversation Ads เพิ่มยอดการเปิดอ่านข้อความและยอดเอนเกจสูงกว่าการส่งอีเมลแบบเดิม ๆ ถึง 4 เท่า และสามารถสร้าง Engagement ได้ถึง 2 เท่าผ่านทาง Message Ads.
  • LinkedIn Sponsored Messaging ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพยอดเอนเกจและการเปิดอ่านข้อความได้มากกว่าอีเมลทั่วไป 2 เท่า
  • แบรนด์ที่ลงโฆษณาบน LinkedIn สามารถเพิ่ม Performance ระยะสั้น เฉลี่ย 10-15%

เดือนมกราคม ปี 2023 LinkedIn มียอดผู้รับชมโฆษณาสูงถึง 102.4% ในเบอร์มิวดา

LinkedIn มีสถิติผู้เข้าชมสูงถึง 97% ในหมู่เกาะเคย์แมน, 75% ในสหรัฐอเมริกา และ 65% ในสหราชอาณาจักร

Linkedin: ผู้ชมโฆษณาระดับโลก

ปี 2022 – เมษายน 2023 มียอดผู้ชมโฆษณาของ LinkedIn เพิ่มขึ้น 11.4%

หมายความว่าผู้ที่ลงโฆษณาบนแพลตฟอร์มนี้ สามารถเข้าถึงสมาชิก LinkedIn ได้ถึง 94 ล้านคนในเดือนเมษายน 2023 มีการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Data Reportal ชี้ให้เห็นว่า โฆษณาบน LinkedIn มีการเติบโตรวดเร็วกว่า Facebook ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา

จากสถิติในเดือนเมษายน 2023 LinkedIn มียอดผู้รับชมโฆษณาทั่วโลก ดังนี้:

  • 200 ล้านยูสเซอร์ อยู่ในกลุ่มอายุ 18-24 ปี (คิดเป็น 21.1% ของทั้งหมด)
  • 520 ล้านยูสเซอร์ อยู่ในกลุ่มอายุ 25-34 ปี (คิดเป็น 55.8% ของทั้งหมด)
  • 170 ล้านยูสเซอร์ อยู่ในกลุ่มอายุ 35-54 ปี (คิดเป็น 20.1% ของทั้งหมด)
  • 23 ล้านยูสเซอร์ อยู่ในกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป (คิดเป็น 2.9% ของทั้งหมด)

นักการตลาด B2B 97% ใช้ LinkedIn ในการสร้าง Content Marketing

4 ใน 5 ของนักการตลาด B2B เผยว่า LinkedIn เป็นช่องทางช่วยขยายฐานกลุ่มเป้าหมายให้กลายมาเป็นลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

B2B linkedin

ผู้ที่รับชมเนื้อหาบน LinkedIn มีแนวโน้มรับข้อเสนอสูงถึง 6 เท่า

อิงจากข้อมูลสถิติ LinkedIn ชี้ให้เห็นว่าผู้ที่รับชมโฆษณามีการติดต่อไปยังแบรนด์และส่งข้อความผ่านแพลตฟอร์ม โดยมีแนวโน้มที่จะรับข้อเสนอมากขึ้น

การโฆษณาแบรนด์ธุรกิจแบบ B2B บน LinkedIn ช่วยเพิ่ม Brand Attributes เป็น 2 เท่า

สถิติบน LinkedIn แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจมีอัตรา Brand Attributes (รูปลักษณ์ภายนอกที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของแบรนด์) เพิ่มขึ้น และยอดขายสินค้าของทางแบรนด์เองก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น 33% เมื่อลงโฆษณาบน LinkedIn

สมาชิก LinkedIn 80% เป็นแรงขับเคลื่อนในการตัดสินใจทางธุรกิจ

เพราะการโฆษณาบน LinkedIn ช่วยให้ผู้ลงโฆษณาเข้าถึงกลุ่มคนที่มีอำนาจตัดสินใจทางธุรกิจได้มากกว่า 65 ล้านคน

นักการตลาดมองเห็นค่า Conversion Rate ที่สูงขึ้น 2 เท่าบนแพลตฟอร์ม LinkedIn

LinkedIn ช่วยให้นักการตลาดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายประสิทธิภาพสูงได้ในวงกว้าง ด้วยจำนวนผู้รับชมที่เป็นสมาชิกกว่า 900 ล้านยูสเซอร์และอีก 57 ล้านบริษัทใน 200 ประเทศทั่วโลก

การสมัครสมาชิกแบบพรีเมียม

การสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมของ LinkedIn จะช่วยให้คนทำงานด้านธุรกิจจัดการข้อมูลส่วนตัว ขยายเครือข่ายธุรกิจ และใช้บริการเพิ่มเติมอื่น ๆ อย่าง Premium Search ได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของบริการที่สมาชิกพรีเมียมจะได้รับ คือ เพิ่มอัตราผลการค้นหา, ส่งข้อความด้วยระบบ InMail, ติดต่อสมาชิกนอกเครือข่าย และดูข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามาดูโปรไฟล์ของตัวเองได้ง่าย ๆ

การสมัครสมาชิกแบบพรีเมียม

สมาชิกพรีเมียมมีโอกาสได้รับการจ้างงานบน LinkedIn เพิ่มขึ้น 2.6 เท่า

LinkedIn Premium ส่งต่อข้อมูลเชิงลึกกว่า 20 ล้านตำแหน่งที่เปิดรับสมัคร ช่วยให้สมาชิกพรีเมียมเข้าถึงลักษณะงานต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์กับเงื่อนไขของตัวเองมากขึ้น

บริการ LinkedIn InMail มีประสิทธิภาพมากกว่าอีเมลทั่วไป 2.6 เท่า

สมาชิกพรีเมียมสามารถพูดคุยติดต่อกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า และพาร์ทเนอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านระบบ InMail

โซลูชันการขาย

โซลูชันการขาย ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์ของแบรนด์และลูกค้า เพิ่มศักยภาพให้กับทีมด้วยเครื่องมือการขายแบบดิจิทัล พร้อมได้รับโอกาสใหม่ๆ มากขึ้น

ไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณของปี 2023 LinkedIn ได้เปิดตัว Sales Navigator รุ่นใหม่

ฟีเจอร์ใหม่ที่อัปเกรดรูปแบบการทำงาน ช่วยเพิ่ม Win Rate และเพิ่มการขายดีล ด้วยการทำความเข้าใจและประเมินความสนใจของลูกค้าให้ดีมากยิ่งขึ้น

ผู้ขายที่ใช้ Sales Navigator จะปิดข้อเสนอที่ใหญ่ขึ้นถึง 45%

จากสถิติเดือนธันวาคม ปี 2022 ของลูกค้าที่ซิงค์กับระบบ CRM (ระบบจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า) ทั่วโลก ผลวิเคราะห์ของ LinkedIn เผยว่าผู้ขายที่ใช้ Sales Navigator ปิดดีลที่ใหญ่กว่าเดิมได้มากขึ้น และอัตรา Win Rate เพิ่มขึ้น 4%

Sales Navigator ของ LinkedIn สามารถเพิ่ม Social Selling Index (SSI) ของบริษัทได้ 20% ใน 6 เดือน

Sales Navigator ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ได้รับประโยชน์จากข้อมูลอินไซด์แบบเรียลไทม์และข้อมูลสำหรับธุรกิจ B2B เพื่อเพิ่มคะแนน SSI (SSI คือ เมตริกวัดผลการขายทางโซเชียล) ให้ได้สูงที่สุด

สถิติรายได้ของ LinkedIn

หลังจากที่บริษัท Microsoft เข้าซื้อกิจการในปี 2016 การเงินของ LinkedIn ถูกรวมเข้ากับ Microsoft ไปโดยปริยาย ซึ่งรายได้หลักของ LinkedIn มาจากสิ่งเหล่านี้:

  • ทาเลนท์โซลูชัน (การบริการจัดหางาน)
  • โซลูชันการตลาด (การขายโฆษณา)
  • สมาชิกพรีเมียม (สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก)
ปี รายได้ LinkedIn (หน่วยพันล้านดอลลาร์) อัตราการเปลี่ยนแปลงต่อปี
2010 0.24 ดอลลาร์ N/A
2011 0.52 ดอลลาร์ 115%
2012 0.98 ดอลลาร์ 86%
2013 1.53 ดอลลาร์ 56%
2014 2.21 ดอลลาร์ 44%
2015 2.99 ดอลลาร์ 35%
2016 2.30 ดอลลาร์ -23%
2017 2.28 ดอลลาร์ -1%
2018 5.25 ดอลลาร์ 130%
2019 6.75 ดอลลาร์ 29%
2020 8.05 ดอลลาร์ 19%
2021 10.28 ดอลลาร์ 27%
2022 13.81 ดอลลาร์ 34%

ไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2023 รายได้ของ LinkedIn เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบจากปีก่อนๆ

จากข้อมูลสถิติของ LinkedIn ในระหว่างไตรมาสที่ 1 ถึงไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจาก Talent Solutions ซึ่งเป็นเครื่องมือเชื่อมต่อผู้จ้างงานกับผู้หางานให้ตอบโจทย์ซึ่งกันและกัน และช่วยให้ผู้ที่มีความสามารถสร้างทักษะที่จำเป็นเพื่อเข้าถึงโอกาสงานต่างๆ

ปีงบประมาณ 2022 LinkedIn สร้างรายได้เพิ่มขึ้น 34%

รายได้ของ LinkedIn สำหรับปีงบประมาณของปี 2022 อยู่ที่ 13.8 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 10.2 พันล้านดอลลาร์จากปี 2021 และ 8.07 พันล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับปี 2020

สถิติ linkedin การเติบโต

เนื่องจากโซลูชันของ LinkedIn ได้รับผลตอบรับที่ดีและมีความต้องการสูงขึ้น ทั้ง Talent Solutions และโซลูชันการตลาด

LinkedIn สร้างรายได้มากกว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์จากโฆษณาในปี 2021

มีตัวเลขคาดการณ์ว่าอาจจะสูงถึง 7.7 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2026

รายได้ของ LinkedIn คิดเป็น 7% ของรายได้ของ Microsoft ในปี 2022

รายได้ทั้งหมดของ LinkedIn ของปี 2022 อยู่ที่ 13.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 7% ของรายได้ทั้งหมดของ Microsoft และเมื่อเทียบกับปี 2021 LinkedIn มีรายได้เพิ่มขึ้น 6%

LinkedIn Marketing Solutions มีรายได้ 5 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2022

เนื่องจากโครงการ eMarketer LinkedIn จะเก็บค่าใช้จ่ายสำหรับโฆษณาแบบดิสเพลย์เกือบ 50% และค่าโฆษณาดิจิทัลทั้งหมด 25% ภายในปี 2024

ข้อมูลประชากร LinkedIn

แพลตฟอร์ม LinkedIn มีจำนวนสมาชิกกว่า 930 ล้านคน มากกว่า 200 ประเทศและพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลก

โดย Top 3 ภูมิภาคที่มีสมาชิกมากที่สุด ได้แก่ อันดับ 1 เอเชียแปซิฟิก จำนวน 261 ล้านคน อันดับ 2 ยุโรป จำนวน 242 ล้านคน และอันดับ 3 อเมริกาเหนือ จำนวน 224 ล้านคน

การขยายตัวของจำนวนสมาชิกแสดงให้เห็นการเติบโตในเชิงบวก 7 ไตรมาสติดต่อกัน

จากข้อมูลไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2023 ของ Microsoft แสดงให้เห็นถึงยอดจำนวนสมาชิกในอินเดียเพิ่มสูงขึ้น 100 ล้านคนหรือคิดเป็น 19% ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน ปี 2023

สถิติ linkedin ข้อมูลประชากร

LinkedIn มีฐานผู้ใช้ในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับฐานผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2023

LinkedIn ยังคงไม่หยุดขยายตัวเข้าสู่ตลาดโลก โดยในไตรมาสที่ 1 ของปี 2023 มียอดผู้ใช้งานในต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา

เดือนมกราคม ปี 2023 สมาชิก LinkedIn 60% จัดอยู่ในช่วงอายุระหว่าง 25-34 ปี

การจัดอันดับฐานผู้ใช้อิงจากช่วงอายุของ LinkedIn สามารถแบ่งได้อีก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มอายุ 18 ถึง 24 คิดเป็น 21.7% และกลุ่มอายุที่มากกว่า 55 ปี คิดเป็น 2.9%

LinkedIn มียอดสมัครสมาชิกจากนักเรียนเพิ่มขึ้น 73% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้ เป็นอิทธิพลจากการเข้าสู่ตลาดแรงงานของ Gen Z

สถิติ linkedin

LinkedIn มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา

ช่วงเดือนเมษายนถึงมกราคม 2023 LinkedIn มียอดผู้เข้าชมถึง 200 ล้านยูสเซอร์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นตลาดธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของ LinkedIn และประเทศอินเดีย ตามมาเป็นอันดับ 2 ด้วยจำนวนผู้เข้าชม 99 ล้านคน

ปี 2022 ยอดเข้าชมเว็บไซต์ LinkedIn จากผู้ใช้งานในประเทศสหรัฐอเมริกา คิดเป็น 31.2%

ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ LinkedIn อันดับ 1 คือประเทศสหรัฐอเมริกา 31.2% อันดับ 2 คือประเทศอินเดีย 7% และอันดับ 3 คือสหราชอาณาจักร 6%

ผู้ใช้ LinkedIn เป็นผู้ใหญ่ชาวอเมริกันกว่า 25% ตามข้อมูลของ Pew Research Center

การเข้าถึงของ LinkedIn ในสหรัฐอเมริการะดับนี้ ถือเป็นข้อพิสูจน์อิทธิพลในฐานะแพลตฟอร์มเครือข่ายสำหรับธุรกิจและการจัดหาบุคคลได้เป็นอย่างดี

ผู้ใช้ LinkedIn 56% เป็นเพศชาย

จากฐานข้อมูลผู้ใช้ LinkedIn พบว่ามียูสเซอร์เพศชายอายุ 25 ถึง 34 ปี ซึ่งมีแนวโน้มที่จะใช้ LinkedIn มากกว่าผู้หญิงถึง 30%

สถิติ linkedin ผู้ใช้

เดือนธันวาคม ปี 2022 1 ใน 3 ของสมาชิก LinkedIn จบการศึกษาระดับปริญญาตรี

และอีก 23% สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่า อีก 2% จบการศึกษาระดับมัธยม

44% ของผู้ใช้ LinkedIn มีรายได้มากกว่า 75,000 ดอลลาร์ต่อปี

จากข้อมูลของ US Census เป็นจำนวนรายได้ที่มากกว่ารายได้เฉลี่ยต่อปีของครัวเรือนที่ 70,784 ดอลลาร์ ในปี 2021 และ 71,186 ดอลลาร์ในปี 2020 หมายความว่าผู้ที่เข้าชมแพลตฟอร์ม LinkedIn มีกำลังซื้อมากกว่าจำนวนผู้ชมเว็บไซต์โดยเฉลี่ยถึง 2 เท่า

สถิติการใช้งาน LinkedIn

จากข้อมูลภายในสรุปสถิติการใช้งาน LinkedIn ได้ดังนี้ :

  • กว่า 61 ล้านคนใช้ LinkedIn เพื่อหางานต่อในแต่ละสัปดาห์
  • ผู้ใช้งาน LinkedIn 20 ล้านคนใช้แฮชแท็ก #OpentoWork บนโปรไฟล์
  • สมาชิก LinkedIn กว่า 11 ล้านคนเปิดใช้งานโหมด LinkedIn creator ตั้งแต่มีการเปิดตัวในปี 2021
  • ผู้ใช้ LinkedIn 22% ดูการอัปเดตฟีดเพิ่มขึ้น 22% ในปี 2022
  • ผู้ใช้ LinkedIn มีการพูดคุยบนเว็บไซต์มากขึ้น 25%
  • ผู้ใช้ LinkedIn แชร์ข้อมูลสาธารณะเพิ่มขึ้น 25% ทุกปี
  • ผู้ใช้ LinkedIn มีการกำหนดเวลา LinkedIn Live เพิ่มขึ้น 176% ทุกปี
  • กิจกรรม LinkedIn Live เพิ่มขึ้น 75% ทุกปี
  • ผู้ใช้ LinkedIn จัด Virtual Event ประจำปีมากกว่าปี 2021 ถึง 150% และในปี 2020 มีสมาชิกเข้าร่วมมากกว่า 231%
  • ผู้ใช้ LinkedIn มีการพูดคุยโต้ตอบผ่านหน้าเพจ LinkedIn มากกว่า 2 พันล้านครั้งต่อเดือน

ความผูกพันของสมาชิก Likedin

Amazon เป็นบริษัทที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบน LinkedIn

มีผู้ติดตาม Amazon กว่า 29 ล้านยูสเซอร์ และอันดับ 2 คือบริษัท Google มีจำนวนผู้ติดตาม 27.4 ล้านคน และอันดับ 3 คือ LinkedIn ด้วยจำนวนผู้ติดตาม 24 ล้านคน

ผู้ใช้ LinkedIn เพิ่มข้อมูลด้านทักษะกว่า 365 ล้านรายการบนโปรไฟล์ นับจากไตรมาสที่ 3 ปี 2022

คิดเป็น 43% ของปีที่แล้ว และด้วยการเข้าซื้อกิจการ EduBrite ทำให้สมาชิกทั่วโลกสามารถรับใบรับรองวิชาชีพจากพาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้โดยตรงบนแพลตฟอร์ม LinkedIn เร็วๆ นี้

ปี 2021 สมาชิก LinkedIn โพสต์เกี่ยวกับระบบการทำงานที่ยืดหยุ่นเพิ่มขึ้น 362%

จากรายงาน LinkedIn’s Global Trends เผยว่ามียอดโพสต์เกี่ยวกับความเป็นอยู่ในการทำงานที่ดีเพิ่มขึ้น 35% และโพสต์เนื้อหาเกี่ยวกับวัฒนธรรมของบริษัทเพิ่มขึ้น 15%

ปี 2022 ผู้ใช้ LinkedIn ในสหรัฐอเมริกา 13% ใช้แพลตฟอร์มเพื่อรับข่าวสาร

จาก Pew Research ตัวเลขนี้ลดระดับลง 2% จาก 15% ในปี 2020 นอกจากนี้ มียอดผู้ใช้งานที่มีอายุระหว่าง 30 ถึง 49 ปี เข้าอ่านข่าวโซเชียลมีเดียบน LinkedIn คิดเป็นจำนวนมากกว่า 40%

รายงาน Social Trends ปี 2022 ของ GWI เผยว่าผู้ใช้งานอายุระหว่าง 16 ถึง 64 ปี ใช้แพลตฟอร์ม LinkedIn ด้วยเหตุผลดังนี้:

  • ติดตามข่าวสารใหม่ๆ
  • ค้นหาข้อมูลของแบรนด์หรือบริษัทต่างๆ
  • โพสต์และแชร์รูปภาพและวิดีโอ

เดือนพฤษภาคม ปี 2023 ระยะเวลาใช้งานแพลตฟอร์ม LinkedIn เฉลี่ยอยู่ที่ 7 นาที 22 วินาที

ข้อมูลจาก Similar Web เผยว่า ผู้ใช้งาน LinkedIn ใช้เวลาบนแพลตฟอร์มราว ๆ 7 นาทีในการเข้าชมแต่ละครั้ง และยังมีตัวเลขเฉลี่ยการเข้าชมเนื้อหา 7 หน้าต่อการเข้าชม 1 ครั้งด้วย

เดือนเมษายน ปี 2023 บริษัท 59 ล้านแห่งมีหน้าเพจบนแพลตฟอร์ม LinkedIn

ตามข้อมูลภายในของ LinkedIn มี 2.7 ล้านเพจในนามบริษัทเหล่านี้ โพสต์อัปเดตอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง

สถิติ LinkedIn vs สถิติของคู่แข่ง

คู่แข่งคนสำคัญของ LinkedIn ที่อยู่ในเครือข่ายเพื่อธุรกิจและการจัดหาบุคลากรเหมือนกัน รวมถึงแพลตฟอร์มหางานออนไลน์และแพลตฟอร์มเครือข่ายสำหรับอาชีพอื่น ๆ เช่น:

  • Indeed
  • Glassdoor
  • Monster
  • ZipRecruiter
  • Xing

เว็บไซต์เหล่านี้เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการแนวเดียวกับ LinkedIn เช่น โพสต์ประกาศรับสมัครงาน, เรซูเม่โฮสติ้ง และเป็นเครื่องมือสร้างเครือข่ายสังคมคุณภาพในการทำงาน และคู่แข่งของ LinkedIn ยังรวมถึง Facebook และ Twitter ที่มีฟีเจอร์เครือข่ายธุรกิจโดยเฉพาะด้วย อย่างไรก็ตาม LinkedIn ก็ยังเป็นผู้ชนะในสนามนี้ เพราะเป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดและเป็นที่นิยมมากที่สุด ด้วยจำนวนสมาชิกกว่า 930 ล้านคนใน 200+ ประเทศทั่วโลก

บริการข้อเสนอของ LinkedIn คู่แข่ง
ฟรีโซลูชัน
  • กลุ่มใน Facebook
  • Twitter
  • Indeed
  • Wellfound (เดิมคือ AngelList Talent)
  • Xing
  • Glassdoor
  • JobCase
ทาเลนท์โซลูชัน
  • Zip Recruiter
  • Opportunity
  • SeekOut
  • iCIMS Talent Cloud
  • hireEZ
  • SmartRecruiters
  • Zoho Recruit
โซลูชันการตลาด
  • Facebook เพื่อธุรกิจ
  • Google Ad Network
  • AdRoll
  • Marin Software
  • Twitter Ads
สมาชิกพรีเมียม
  • DiscoverOrg
  • InsideView
  • UpLead
  • RainKing
  • Monster
  • Ladders
  • FlexJobs

LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มชั้นนำสำหรับ B2B Lead Generation

จากข้อมูลอัปเดตใหม่ที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ เผยว่า LinkedIn เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์การตลาด B2B ยุคใหม่ เพราะมีฐานผู้ใช้เชิงธุรกิจที่กว้างและเป็นเครื่องมือโฆษณาระดับสูง ซึ่งจริง ๆ แล้วกว่า 40% ของนักการตลาด B2B มองว่า LinkedIn เป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการขับเคลื่อนกลุ่มเป้าหมายระดับ High Quality ที่มีความพร้อมในการซื้อสินค้าและบริการ

96% ของนักการตลาด B2B ใช้ LinkedIn สำหรับกลยุทธ์การตลาดแบบ Organic

นักการตลาด B2B ส่วนใหญ่ใช้ LinkedIn ในการโฆษณาแบบชำระเงิน จึงไม่แปลกที่พวกเขาเห็นว่า LinkedIn เป็นเครือข่ายมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการ Engagement ของแบรนด์ในรูปแบบออร์แกนิค เป็นจุดที่ทำให้ LinkedIn นำหน้าเหนือกว่า Facebook และ Twitter ในฐานะเครือข่ายชั้นนำสำหรับการตลาด B2B

การเติบโตของ linkedin

ปี 2022 LinkedIn ได้อันดับที่ 7 จาก Top 10 แบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดจากทั่วโลก

มูลค่าแบรนด์เติบโตขึ้นถึง 68% ซึ่ง LinkedIn และ YouTube เป็นเครือข่ายโซเชียลมีเดียเพียง 2 แพลตฟอร์มที่ติดอันดับในครั้งนี้

LinkedIn มีผู้เข้าชมทั้งหมด 1.6 พันล้านครั้ง ในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ปี 2023

ถือว่ายอดลดลง 10.6% จากเดือนก่อนหน้านี้ ทำให้ LinkedIn ตกไปอยู่อันดับที่ 18 ในการวัด Web Traffic จากเว็บไซต์ทั่วโลก

เดือนมีนาคม ปี 2022 LinkedIn ขึ้นเป็นแพลตฟอร์มชั้นนำที่กลุ่มคนหางานในประเทศสหรัฐอเมริกาใช้วิจัยด้านธุรกิจ

LinkedIn ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกาสำหรับการเป็นเครือข่ายสำหรับจ้างงานโดยมีแพลตฟอร์ม Glassdoor ไต่อันดับตามหลังมาติดๆ

คำถามที่พบบ่อย

ดูโปรไฟล์ LinkedIn โดยไม่มีบัญชีได้ไหม?

มีคนใช้ LinkedIn เพื่อออกเดทหรือไม่?

คุณควร Connect กับใครบน LinkedIn?

อ้างอิง