ChatGPT เป็นการพัฒนาความสามารถของ AI อย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะใช้เพื่อเขียนบทกวี, แต่งเพลง, แต่งเรียงความในโรงเรียนมัธยม, ร่างบทสนทนาเชิงลึก และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้เกิดการถกเถียงถึงอนาคตการทำงาน และบทบาทของ AI ในอีกหลายปีข้างหน้าด้วย

สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดอย่างหนึ่งเกี่ยวกับ ChatGPT คือ การใช้งานที่ครอบคลุมตั้งแต่เริ่มเปิดตัว ในคู่มือนี้ เราจะเจาะลึกสถิติ ChatGPT ที่สำคัญ ซึ่งเกี่ยวกับการใช้ AI และวิธีการทำงาน

สถิติ ChatGPT ที่สำคัญ

  • ChatGPT มีผู้ใช้ 1.6 พันล้านคน นี่เป็นบริการออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีผู้ใช้ 1 ล้านคนในเวลาเพียง 5 วันหลังการเปิดตัว
  • Microsoft ลงทุนใน OpenAI บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง ChatGPT 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ Microsoft จัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลที่จำเป็นสำหรับการเรียกใช้ ChatGPT และลงทุนใน OpenAI ถึง 49%  
  • GPT-4 วิเคราะห์พารามิเตอร์เพื่อสร้างข้อความและรูปภาพได้ 100 ล้านล้านรายการ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1.75 แสนล้านพารามิเตอร์ใน GPT-3 ซึ่งเป็นโมเดลที่คนส่วนใหญ่ใช้ในตอนนี้
  • สถิติ ChatGPT พบว่า เครื่องมือได้รับการฝึกฝนคำศัพท์ 3 แสนล้านคำ หรือเทียบเท่าข้อมูลข้อความ 45TB จากอินเทอร์เน็ตทั่วโลก ซึ่งเป็นข้อมูลจนถึงเดือนกันยายน 2021 เท่านั้น
  • การเข้าใช้ ChatGPT 69.43% เป็นการเข้าใช้ที่เว็บไซต์โดยตรง โดยสถิติผู้ใช้ ChatGPT ส่วนใหญ่จะเข้าไปที่เว็บไซต์ของ ChatGPT โดยตรง แทนที่จะค้นหาผ่านเครื่องมือค้นหาหรือโซเชียลมีเดีย

สถิติ ChatGPT ด้านผู้ใช้งาน

เว็บไซต์ ChatGPT มีผู้ใช้งาน 1.6 พันล้านคน ในเดือนมีนาคม 2023

ChatGPT Statistics Insight นับรวมทั้งการใช้ในเว็บไซต์ และอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั้งหมดที่เข้าใช้งาน ChatGPT ของ OpenAI แต่ไม่รวมถึงการใช้ผ่านเครื่องมือค้นหา เช่น Bing หรือซอฟต์แวร์อื่น ๆ ที่รวม ChatGPT เป็นส่วนหนึ่งในนั้น

OpenAI ยอดเข้าชม

ChatGPT เป็นบริการออนไลน์ที่โตเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ChatGPT มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ใน 5 วันแรก หลังจากเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2022 และสถิติ ChatGPT เพิ่มเป็น 1 พันล้านคนภายใน 3 เดือน เมื่อเปรียบเทียบกับ Instagram ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นซอฟต์แวร์ที่เติบโตเร็วที่สุดตลอดกาล ที่เคยใช้เวลา 2.5 เดือน เพื่อสร้างการเข้าถึงผู้ใช้งาน 1 ล้านคน

เดือน สถิติผู้ใช้ ChatGPT รายเดือน (คน)
ธันวาคม 2023 266 ล้าน
มกราคม 2023 616 ล้าน
กุมภาพันธ์ 2023 1.0 พันล้าน
มีนาคม 2023 1.6 พันล้าน

จากการสำรวจความคิดเห็นของ YouGov ในเดือนมกราคม 2023 พบว่า 12% ของชาวอเมริกันใช้ ChatGPT เพื่อสร้างข้อความ 

ส่วนผู้ตอบแบบสำรวจตาม ChatGPT Statistics Insight อีก 38% กล่าวว่าเคยเห็นคนอื่นใช้ แต่ตัวเองยังไม่ได้ใช้ ทั้งนี้ 15% ของชาวอเมริกันอายุ 18-29 ปี, 17% อายุ 30-44 ปี และ 5% ของคนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป เคยใช้ ChatGPT 

18 – 29 30 – 44 45 – 64 65+
ฉันใช้มันเพื่อสร้างข้อความ 15% 17% 9% 5%
ฉันเคยเห็นคนอื่นสร้างข้อความ แต่ฉันไม่ได้ใช้เอง 48% 46% 27% 30%
ไม่เคยใช้ หรือไม่เคยเห็นใครใช้ 20% 31% 55% 59%
ไม่แน่ใจ 17% 6% 8% 6%

ผู้คน 20% เคยใช้ ChatGPT เพื่อค้นหาข้อมูล

  • 19% ใช้เพื่อสร้างคอนเทนต์ เช่น โพสต์บนโซเชียลมีเดีย
  • 14% เพิ่งฝึกเล่น ChatGPT
  • 11% ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ
  • 11% ใช้เพื่อค้นหาคำแนะนำต่าง ๆ
  • 10% ใช้เพื่อเขียนโค้ด

ChatGPT มีให้บริการในกว่า 185 ประเทศ

ประเทศที่ยังไม่มีการใช้ตามสถิติ ChatGPT ได้แก่:

  • จีน
  • รัสเซีย
  • เบลารุส
  • เกาหลีเหนือ
  • อิหร่าน
  • อัฟกานิสถาน
  • เวเนซุเอลา

สถิติ ChatGPT ด้านการเข้าใช้เว็บไซต์จากทั่วโลก

  • สหรัฐอเมริกา: 14.84% 
  • อินเดีย: 6.23% 
  • ญี่ปุ่น: 3.63% 
  • โคลัมเบีย: 3.19% 
  • แคนาดา: 2.94% 
  • ประเทศอื่น ๆ : 69.18% 

ยอดผู้เข้าใช้งาน ChatGPT ตามประเทศ

ChatGPT รับคำสั่ง Prompt และตอบคำถามได้มากกว่า 95 ภาษา

ได้แก่:

  • อังกฤษ
  • สเปน
  • ฝรั่งเศส
  • แมนดาริน
  • อาหรับ
  • รัสเซีย
  • ญี่ปุ่น
  • เกาหลี
  • ฮินดี
  • ไทย

และอื่น ๆ

โมเดลถูกเขียนด้วย Python เป็นหลัก

แต่ ChatGPT ก็ยังเข้าใจภาษาโปรแกรมยอดนิยมโดยส่วนใหญ่ ได้แก่:

  • Python
  • JavaScript
  • C++
  • C#
  • Java
  • Ruby
  • PHP
  • Go
  • Swift
  • TypeScript
  • SQL
  • Shell

การลงทุน

ChatGPT สร้างขึ้นโดย OpenAI ในปี 2015

OpenAI เปิดตัวในฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในปี 2015 โดยได้รับเงินทุนเริ่มต้นจาก Sam Altman, Greg Brockman, Reid Hoffman, Jessica Livingston, Elon Musk, Ilya Sutskever , Wojciech Zaremba และ Peter Thiel

ภายหลัง OpenAi เปลี่ยนจากองค์กรไม่แสวงหากำไรเป็นองค์กรแสวงหาผลกำไรในปี 2019

ผลกำไรของ OpenAI จะถูกแจกจ่ายให้แก่กลุ่มนักลงทุนรายแรก ๆ อย่างจำกัด หรือได้รับผลตอบแทนสูงสุด 100 เท่าจากการลงทุน และกำไรส่วนที่เหลือจะถูกโอนไปยังหน่วยงานที่ไม่แสวงหาผลกำไรของ OpenAI

Microsoft ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI ในปี 2019

ข้อตกลงดังกล่าวทำให้ Microsoft กลายเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์แต่เพียงผู้เดียวสำหรับบริการ OpenAI รวมถึง ChatGPT และ Microsoft ได้ลงทุนเพิ่มเติมอีก 2 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI ระหว่างปี 2020 ถึง 2022

Microsoft ลงทุนเพิ่มอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ในเดือนมกราคม 2023

ทำให้ Microsoft ถือหุ้น 49% ใน OpenAI

สถิติ ChatGPT ด้านรายได้

OpenAI คาดว่า ChatGPT จะสร้างรายได้ 200 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2023 และ 1 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2024

ทั้งนี้ Open AI ทำรายได้น้อยกว่า 10 ล้านดอลลาร์ในปี 2022

การประเมินมูลค่า OpenAI

Microsoft ประเมินมูลค่า OpenAI ที่ 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ในรอบการระดมทุนในเดือนมกราคม 2023

ChatGPT มีมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2021

สถิติ ChatGPT ด้านซอฟต์แวร์, อัลกอริทึม และพารามิเตอร์

ChatGPT เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)

ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยใช้การปรับจูนภายใต้เทคนิคฝึกฝนโมเดล (RLHF)

ChatGPT ได้รับการฝึกฝนข้อมูลตัวอักษรขนาด 45TB

ข้อมูลมาจากหนังสือ, เว็บไซต์, วิกิพีเดีย, บทความข่าว และอื่น ๆ รวมกว่า 3 แสนล้านคำ

ChatGPT Training

การฝึกฝนต้องใช้ GPU NVIDIA V100 จำนวน 1,000 ตัว 

การฝึกฝนทำงานบนซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Microsoft Azure 24 ชั้น และ 96 หัวเรื่อง เพื่อปรับจูนด้วยข้อมูลหลายกิกะไบต์

เวอร์ชันล่าสุดของ ChatGPT มีพารามิเตอร์มากกว่า 100 ล้านล้านพารามิเตอร์

GPT-3 มีพารามิเตอร์ประมาณ 1.75 แสนล้านพารามิเตอร์

ChatGPT สอบเนติบัณฑิตสำหรับทนายความผ่านแล้ว

นอกจากนี้ ยังได้คะแนนสูงถึง 60% สำหรับการสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์อเมริกาด้วย

สถิติ ChatGPT ด้านคีย์เวิร์ดและการเข้าชมเว็บไซต์

ChatGPT มีผู้เข้าใช้มากถึง 53 ล้านคนต่อวันในเดือนมีนาคม 2023

ผู้ใช้ตามสถิติ ChatGPT เพิ่มขึ้นเป็น 13 ล้านคนต่อวัน ในเดือนมกราคม 2023 และ 35 ล้านคนต่อวัน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 56% ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม

ผู้เยี่ยมชม ChatGPT จะใช้เวลาเฉลี่ย 8 นาที 44 วินาทีบนเว็บไซต์

และเฉลี่ย 6.67 หน้า โดยมีอัตราที่ผู้ใช้คลิกเข้ามาดูหน้าเว็บเพียงหน้าเดียวอยู่ที่ 16.07% ในเดือนมีนาคม 2023

การเข้าใช้ ChatGPT มาจากการเข้าเว็บโดยตรงเป็นหลัก

ส่วนสถิติ ChatGPT การใช้ที่อ้างอิงจากเว็บไซต์อื่น ๆ ตามมาเป็นอันดับที่สอง

แหล่งที่มา % การเข้าใช้งาน
โดยตรง 69.43%
การอ้างอิง 19.97%
การค้นหา 4.37%
ทางสังคม 3.87%
อีเมล 2.33%
อื่น ๆ 0.03%

การค้นหาบ่งชี้ว่า ผู้ใช้ค้นหา ChatGPT ด้วยชื่อต่าง ๆ

แม้ว่าจะมีสถิติผู้ใช้ ChatGPT เพียง 4.37% เท่านั้นที่ค้นหา ChatGPT ผ่านเครื่องมือค้นหา แต่ข้อความค้นหาที่ใช้ไม่ใช่การมองหาโมเดล AI เพียงอย่างเดียว

คำค้นหา ปริมาณเข้าชมรายเดือน (ครั้ง)
Chat GPT Login 2.9M
Chat OpenAI 1.6M
OpenAI Chat 836.2k
Chat.OpenAI 733.9k
ChatGPT Login 536.4k
คีย์เวิร์ดอื่น ๆ 8.8k

ChatGPT บนโซเชียลมีเดีย

เกือบ 4% มีการอ้างอิง ChatGPT จากโซเชียลมีเดีย

  • 51.47% มาจาก YouTube
  • 16.27% มาจาก Twitter
  • 11.75% มาจาก Facebook
  • 8.80% มาจาก WhatsApp
  • 3.93% มาจาก Reddit
  • 11.71% มาจากช่องทางอื่น ๆ

ค่าใช้จ่ายและราคาค่าบริการ ChatGPT 

ChatGPT มีค่าใช้จ่ายประมาณ 100,000 ดอลลาร์ต่อวัน

หรือเกือบ 3 ล้านเหรียญต่อเดือน ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มาจากการประมวลผลในระบบคลาวด์ Microsoft Azure เมื่อ Microsoft ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI ในปี 2019 การลงทุนส่วนใหญ่ถูกใช้ในการประมวลผลของ Azure

รายละเอียดของสัญญาของ Microsoft ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่โดยทั่วไปแล้ว Azure จะคิดค่าบริการ 3 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงต่อ GPU ทำให้คำแต่ละคำที่สร้างโดย ChatGPT จะมีราคาอยู่ที่ 0.0003 ดอลลาร์ 

ChatGPT-3 และ 3.5 ยังคงใช้ฟรีสำหรับทุกคน

แม้ว่าผู้ใช้ฟรีอาจไม่สามารถเข้าถึงอัลกอริทึมได้เมื่อความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

OpenAI เปิดตัว ChatGPT Plus ซึ่งเป็นการสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมที่มีค่าใช้จ่าย 20 ดอลลาร์ต่อเดือน

การเป็นสมาชิกช่วยให้เข้าถึง ChatGPT ได้แม้ในช่วงเวลาที่มีการใช้งานสูง รวมทั้งได้รับการตอบสนองที่เร็วขึ้น และเป็นวิธีเดียวที่จะได้ใช้ GPT-4 รุ่นล่าสุดจาก OpenAI ได้

ChatGPT Plus

สถิติ ChatGPT เกี่ยวกับความคิดเห็นของผู้คน

ผู้คน 70% เชื่อว่า ChatGPT จะทำให้ชีวิตดีขึ้น

แต่ผู้คน 87% มีความกลัวว่า ChatGPT จะถูกใช้โดยบริษัทหรือรัฐบาลเพื่อควบคุมประชากร

ในสหรัฐอเมริกา มีคนเพียง 13% เท่านั้น ที่คิดว่า ChatGPT ดีต่อสังคม

ส่วน 36% คิดว่ามันไม่ดีต่อสังคม, 23% คิดว่าอาจจะดีหรือไม่ดี และ 28% ไม่แน่ใจ

ChatGPT

ผู้คน 63% คิดว่าธุรกิจต่างๆ ควรโฆษณาบน ChatGPT ได้

OpenAI ยังไม่ได้เปิดใช้งานการโฆษณาบน ChatGPT 

ผู้คน 85% ใช้ ChatGPT เพื่อบรรเทาอาการป่วย

ผู้คน 60% ใช้ ChatGPT เพื่อรับคำแนะนำทางการแพทย์ และสถิติ ChatGPT 13% ใช้ ChatGPT เพื่อคุยเรื่องลามก

ผู้คน 83% กลัวว่า ChatGPT จะมีอคติต่อชนกลุ่มน้อย

อคติต่อชนกลุ่มน้อย เป็นปัญหาที่ได้รับการบันทึกไว้บนโมเดล AI ผ่าน อัลกอริทึมการจดจำใบหน้า

ผู้คน 50% กลัวว่า ChatGPT จะเข้ามาแทนที่งานของตน

งานอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนคิดว่า ChatGPT สามารถทำแทนได้คือ:

  • งานพัฒนาซอฟต์แวร์
  • งานวิเคราะห์ข้อมูล
  • งานบริการลูกค้า
  • งานสร้างคอนเทนต์
  • งานการตลาด

ทั้งนี้ ChatGPT Statistics Insight พบว่า ชาวอเมริกัน14% เชื่อว่า ChatGPT จะสร้างงานได้มากขึ้น

ChatGPT มีประโยชน์ต่อการศึกษา

ครู 38% อนุญาตให้นักเรียนใช้ ChatGPT และ สถิติ ChatGPT 25% เชื่อว่า นักเรียนจะใช้ ChatGPT เพื่อโกงเท่านั้น

Elon Musk และคนดังคนอื่น ๆ คิดอย่างไรกับ ChatGPT

Elon Musk กล่าวว่าเทคโนโลยี AI เช่น ChatGPT เป็น “หนึ่งในความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่ออนาคตของอารยธรรม”

Musk ชี้ให้เห็นว่า AI สามารถทำอะไรได้มากมาย และหากไม่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม AI อาจเป็นอันตรายมากกว่าอาวุธนิวเคลียร์

Bill Gates ผู้ก่อตั้ง Microsoft เรียก AI เช่น ChatGPT ว่า “เป็นพื้นฐานการสร้างไมโครโปรเซสเซอร์, คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, อินเทอร์เน็ต และโทรศัพท์มือถือ”

Bill Gates กล่าวว่า แม้ว่า ChatGPT จะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ AI จะเป็นวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในทศวรรษนี้

Sundar Pichai ผู้เป็น CEO ของ Google กล่าวว่า Generative AI “เป็นเทคโนโลยีที่ลึกซึ้งที่สุด” ที่ Google กำลังพัฒนาอยู่

Google เพิ่งเปิดตัวคู่แข่งของ ChatGPT ที่เรียกว่า Bard และ Pichai ได้ออก “สัญญาณเตือน” ให้ Google รับรู้ เนื่องจากภัยคุกคามของ ChatGPT มีผลต่อการค้นหา

Satya Nadella ผู้เป็น CEO ของ Microsoft เตือนว่า มนุษย์จะต้องควบคุม AI ได้อย่าง “ชัดเจนและไม่ต้องสงสัย”

Nadella ไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่า OpenAI ซึ่งสนับสนุนโดย Microsoft ได้เปิดตัวในสนามแข่งขันระหว่างบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อทำให้ AI ของตนเป็นเลิศที่สุด

Tim Cook ผู้เป็น CEO ของ Apple มองเห็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมใน ChatGPT และ AI : “มันจะส่งผลต่อทุกผลิตภัณฑ์และบริการที่เรามี”

Apple รวมผู้ช่วย AI ไว้ในอุปกรณ์หลายตัวแล้ว ChatGPT และ AI รุ่นอื่น ๆ มีศักยภาพในการเพิ่มสายผลิตภัณฑ์ของ Apple ได้

Warren Buffett กล่าวว่า ChatGPT สามารถลดงานได้: “แน่นอนว่ามันจะส่งผลให้มีการจ้างงานบางงานให้ลดลงเป็นอย่างยิ่ง”

Buffett เชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่ดีต่อเศรษฐกิจ และช่วยให้ผู้คนมีเวลาว่างมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เขายังเตือนด้วยว่า ผลของการก่อกวนของ AI อาจทำให้เกิดปัญหากับสังคมในระยะสั้นได้

ประวัติของ ChatGPT

OpenAI เป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลัง ChatGPT ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2015

องค์กรไม่หวังผลกำไรเกิดขึ้นในซานฟรานซิสโก ซึ่งนำโดย Elon Musk, Sam Altman, Greg Brockman, Wojciech Zaremba, Ilya Sutskever และ John Schulma โดยมีวัตถุประสงค์ คือ การสร้าง AI ที่ปลอดภัย และมนุษย์สามารถควบคุมได้ 

OpenAI พัฒนาแบบจำลอง GPT แรกในปี 2018

สถิติ ChatGPT พบว่า แบบจำลองรุ่นแรกได้รับการฝึกฝนผ่านเนื้อหาในหนังสือที่ไม่ได้จัดพิมพ์ 7,000 เล่ม

GPT-2 มี 1.5 พันล้านพารามิเตอร์

GPT เวอร์ชันที่ 2 ได้รับการพัฒนาในปี 2018 และได้รับการฝึกฝนบนหน้าเว็บไซต์ 8 ล้านหน้า OpenAI ตัดสินใจไม่เผยแพร่ GPT-2 ต่อสาธารณะ เนื่องจากกลัวว่าอาจถูกใช้เพื่อเขียนอีเมลหลอกลวง หรือให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

Elon Musk ออกจาก OpenAI ในปี 2018

Musk ได้กล่าวตั้งแต่ก่อนก่อตั้ง OpenAI ว่า AI เป็นหนึ่งในภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่ออนาคตของอารยธรรม และเขาถอนตัวพร้อม ๆ กับช่วงที่ OpenAI ตัดสินใจไม่เผยแพร่ GPT-2 

OpenAI กลายเป็นองค์กรที่แสวงหาผลกำไรในปี 2019

OpenAI ตัดสินใจเปลี่ยนจากองค์กรไม่แสวงหากำไร เป็นองค์กรที่แสวงหาผลกำไร อย่างไรก็ตาม มีการจำกัดผลกำไรของนักลงทุนในอนาคต และกำไรส่วนเพิ่มจะตกเป็นของ OpenAI LP ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหากำไรของ OpenAI

OpenAI เปิดตัว DALL-E ในปี 2021

DALL-E ใช้โครงข่ายประสาทเทียมที่คล้ายคลึงกับ ChatGPT แต่เป็นการสร้าง Prompt แทนข้อความ

OpenAI สร้าง GPT-3 ในปี 2022

สถิติ ChatGPT พบว่า การสร้าง GPT-3 Microsoft ได้สร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก ซึ่งผลิตด้วย GPU 10,000 ตัว และ ChatGPT ถูกสร้างขึ้นบน GPT-3 เพื่อเพิ่มความสามารถในบทสนทนา ที่เกี่ยวข้องกับคำสั่ง Prompt หลายครั้งในเซสชันเดียว

Microsoft รวม GPT-3 เข้ากับ Bing และ Edge

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023 Microsoft ได้รวม ChatGPT เข้ากับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ ผู้ใช้ Microsoft Edge ที่ค้นหาอินเทอร์เน็ตด้วย Bing สามารถเห็นทั้งผลการค้นหามาตรฐาน และผลลัพธ์จาก ChatGPT

OpenAI เปิดตัว GPT-4 ในเดือนมีนาคม 2023

GPT-4 คือโมเดลล่าสุดของ OpenAI ขณะนี้จะใช้ได้เฉพาะผู้ที่สมัคร สมาชิก ChatGPT Plus เท่านั้น OpenAI กล่าวว่า GPT-4 มีแนวโน้มที่จะให้คำตอบที่ถูกต้องมากขึ้น 40% และมีโอกาสน้อยกว่า 80% ที่จะให้คำตอบที่ผิด

ChatGPT ทำงานอย่างไร

ChatGPT เป็น Transformer Model

Transformer Model เป็นเครือข่ายประสาทประเภทหนึ่งที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับการประมวลผลภาษา ในโมเดลนี้จะมีการพิจารณาลำดับของคำเพื่อกำหนดความหมาย และบริบทของคำถัดไป ซึ่งคล้ายกับวิธีที่คนส่วนใหญ่อ่านข้อความ 

ChatGPT มี 24 เลเยอร์

Transformer Model ประกอบด้วยองค์ประกอบหลายชั้น คล้ายเซลล์ประสาทในสมองมนุษย์ เมื่อลำดับของคำประมวลผลผ่านแต่ละชั้น ทำให้เพิ่มความมั่นใจในบริบท, ความหมาย และความสำคัญของแต่ละคำได้มากขึ้น

ChatGPT ผ่านการฝึกฝนด้วยข้อมูลขนาด 45TB จากอินเทอร์เน็ตทั่วโลก

ส่วนแรกของกระบวนการฝึกฝน เรียกว่า การฝึกล่วงหน้า ChatGPT “อ่าน” ข้อความ 300 พันล้านคำ จากฐานข้อมูลที่ชื่อ WebText2 การฝึกอบรมของ ChatGPT ส่วนใหญ่ไม่มีการควบคุม ซึ่งหมายความว่า โมเดลจะอ่านข้อความและตรวจพบรูปแบบด้วยตัวมันเอง โดยไม่มีมนุษย์คอยเตือนให้อ่านอะไรบางอย่าง จากนั้นจึงถามคำถามและให้ข้อเสนอแนะ

ChatGPT ถูกปรับแต่งโดยใช้บทสนทนาระหว่างคนสองคน

เพื่อช่วยให้ ChatGPT เข้าใจการสนทนามากขึ้น สถิติ ChatGPT พบว่า โมเดลได้เรียนรู้บทสนทนา 160,000 รายการระหว่างคนสองคน ซึ่งในแต่ละบทสนทนาจะมีน้ำเสียง, แรงจูงใจ และภูมิหลังที่แตกต่างกัน

หลังจาก ChatGPT ได้รับการฝึกล่วงหน้าแล้ว มนุษย์จะเข้ามาปรับโมเดลอีกครั้ง

นักวิจัย AI มีการโต้ตอบกับ ChatGPT อย่างหนัก ก่อนที่โมเดลจะเปิดตัว พวกเขาสามารถให้ข้อเสนอแนะคำตอบแก่แบบจำลอง และทำให้ ChatGPT สามารถปรับวิธีการตอบคำถามได้

ChatGPT สามารถสนทนาได้หลายรูปแบบ

ลักษณะเด่นของ ChatGPT คือ ไม่เพียงแค่การตอบกลับเท่านั้น แต่ AI ยังสามารถสนทนากลับไปกลับมา หรือถามคำถามด้วยคำสั่ง Prompt ได้อีกด้วย

ChatGPT ใช้เพื่ออะไร

ChatGPT ใช้งานฟรีสำหรับทุกคน

ถือเป็นเรื่องปกติในหลาย ๆ อุตสาหกรรม แม้ว่าจะยังไม่ได้รวมเข้ากับแอปพลิเคชันที่มีอยู่มากมายก็ตาม

การใช้งาน ChatGPT ทั่วไป ได้แก่:

  • ร่างอีเมลงาน
  • เขียนเรซูเม่ หรือจดหมายสมัครงาน
  • สรุปหัวข้อที่ซับซ้อน หรือบทความยาว ๆ
  • ตอบคำถามโดยไม่ต้องค้นหาด้วยวิธีแบบเดิมๆ
  • แต่งเพลง, บทกวี และบทภาพยนตร์
  • เขียนและแก้โค้ด
  • แปลภาษา
  • เขียนเรียงความในหัวข้อใด ๆ
  • แก้ปัญหาคณิตศาสตร์
  • ค้นหาสูตรอาหารใหม่ตามส่วนผสมที่มี
  • แพลนทริปเที่ยว

ChatGPT การใช้งาน

ผู้คนยังใช้ ChatGPT เพื่อ:

  • รับคำแนะนำทางการแพทย์แบบฟรี ๆ
  • รับคำปรึกษาด้านกฎหมายแบบฟรี ๆ
  • รับการบำบัดออนไลน์แบบฟรี ๆ
  • จีบ AI

แม้ว่า OpenAI จะไม่แนะนำสิ่งนี้ แต่ผู้ใช้ ChatGPT หลายคนก็พบว่ามันใช้งานได้ดีพอสมควร

ข้อจำกัด, ความท้าทาย และอนาคตของ ChatGPT

ChatGPT อาจสร้างข้อมูลเท็จได้

แม้ว่าตามสถิติ ChatGPT มักจะได้คำตอบที่ถูกต้อง แต่ก็สามารถให้คำตอบที่ไม่ถูกต้องได้ด้วย สิ่งนี้ทำให้ ChatGPT ยากต่อการเชื่อถือ โดยเฉพาะหัวข้อที่ซับซ้อนหรือสำคัญ

ChatGPT ไม่มีข้อมูลตั้งแต่เดือนกันยายน 2021 เป็นต้นมา

ฐานข้อมูลเชิงลึก ChatGPT มีถึงเดือนกันยายน 2021 และ AI ยังไม่มีข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น 

ChatGPT จำกัดคำที่ประมาณ 500 คำ

หาก Prompt ของผู้ใช้ยาวกว่า 500 คำ ChatGPT จะไม่สามารถตอบสนองได้ แต่มีรายงานว่า GPT-4 (สำหรับสมาชิก ChatGPT Plus เท่านั้น) ได้ขยายขีดจำกัดของคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ChatGPT ไม่สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา

ในช่วงชั่วโมงที่มีความต้องการสูงสุด เว็บไซต์ ChatGPT อาจโหลดไม่สำเร็จ ผู้ใช้เพียงแค่ต้องรอจนกว่าความต้องการจะลดลงจึงจะสามารถใช้งานได้ แต่สมาชิก ChatGPT Plus จะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึงในช่วงเวลาเร่งด่วน

สามารถใช้ ChatGPT เพื่อวัตถุประสงค์ที่เป็นอันตรายได้

แม้ว่า ChatGPT จะไม่ตอบคำถามบางประเภท แต่การควบคุมโมเดลยังไม่สมบูรณ์แบบ ทำให้ ChatGPT อาจถูกใช้เพื่อสร้างข้อมูลที่ผิด, เขียนโค้ดมัลแวร์ หรือแม้แต่เขียนอีเมลหลอกลวงได้

อนาคตของ ChatGPT

สถิติ ChatGPT พบว่า OpenAI เปิดตัว GPT-4 เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2023 หลังการเปิดตัว ChatGPT เพียง 3 เดือน

OpenAI เวอร์ชันใหม่ล่าสุด มีพารามิเตอร์มากกว่า 100 ล้านล้านพารามิเตอร์ แม้ว่าจะปล่อยออกมาหลังการเปิดตัว ChatGPT เพียง 3 เดือน หรืออาจหมายความว่า OpenAI สามารถอัปเดต ChatGPT ต่อไปได้ตลอดทั้งปี

Microsoft ประกาศแผนรวม ChatGPT เข้ากับ Office 365

Office 365 ซึ่งรวมถึง Word, Excel, Powerpoint และ Outlook มีผู้ใช้งานกว่า 345 ล้านคนทั่วโลก การผสานรวม ChatGPT (โดยเฉพาะโมเดล Prometheus ที่ปรับเปลี่ยนไปจาก Microsoft เล็กน้อย) อาจทำให้ AI เข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับธุรกิจและอุตสาหกรรม

ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับ ChatGPT เข้ากับเวิร์กโฟลว์ของตนเองได้

ปัจจุบัน สถิติ ChatGPT พบว่า มีธุรกิจไม่กี่แห่งที่ใช้ ChatGPT เป็นประจำทุกวัน อย่างไรก็ตาม สิ่งนั้นอาจเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตอันใกล้นี้ ผลที่ได้คือ หน้าที่การงานของคนจะเปลี่ยนไป หรือบริษัทจะจ้างพนักงานน้อยลง

เปรียบเทียบ ChatGPT กับคู่แข่ง

คู่แข่งของ ChatGPT ได้แก่ Bing Chat, Chatsonic และ Google Bard

Bing Chat และ Chatsonic ใกล้เคียงกับแชทGPT แต่มีข้อแตกต่างเล็กน้อยเกี่ยวกับวิธีการฝึกโมเดล ทั้งคู่ใช้โมเดล GPT-3.5 ของ OpenAI ในขณะที่ Google Bard เป็นรูปแบบภาษาของ Google เอง ซึ่งเพิ่งเปิดตัวสู่สาธารณะในเดือนมีนาคม 2023

ChatGPT Bing Chat Chatsonic Google Bard
ประเภท แชทบอท AI แชทบอท AI พร้อมฟีเจอร์เสิร์ชเอ็นจิ้น แชทบอท AI แชทบอท AI พร้อมฟีเจอร์เสิร์ชเอ็นจิ้น 
ขับเคลื่อนโดย OpenAI GPT-3.5 Prometheus (รุ่น GPT-3.5 ของ Microsoft) OpenAI GPT-3.5 Google LaMDA
แหล่งข้อมูล ข้อมูลตัวอักษร 45TB GB จากเว็บไซต์, หนังสือ และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เช่นเดียวกับ ChatGPT และข้อมูลจาก Bing Search Index เช่นเดียวกับ ChatGPT และการจัดทำดัชนีตามเวลาจริง Google Search Index
ฐานความรู้ ไม่มีข้อมูลหลังจากเดือนกันยายน 2021 จนถึงปัจจุบัน จนถึงปัจจุบัน จนถึงปัจจุบัน
ความพร้อมใช้งาน ฟรี (หรือสมัครสมาชิก $20 ต่อเดือน) ฟรี (เฉพาะใน Microsoft Edge) ฟรี ฟรี (ใช้ได้เฉพาะใน US และUK)
การใช้งาน ไม่จำกัด ไม่จำกัด ไม่จำกัด ไม่จำกัด

ข้อเท็จจริงสนุก ๆ เกี่ยวกับ ChatGPT

ChatGPT กำลังสร้าง “Prompt Engineers”

การได้รับคำตอบที่ดีที่สุดจาก ChatGPT หรือการผลักดันอัลกอริทึมให้เปิดเผยข้อบกพร่อง จำเป็นต้องมี Prompt ที่ครอบคลุม ด้วยเหตุนี้ OpenAI และบริษัทอื่น ๆ ที่ทำงานเกี่ยวกับโมเดลภาษา AI จึงเริ่มจ้างวิศวกร Prompt ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ แต่เป็นนักเขียนเชิงสร้างสรรค์ ที่สามารถหาวิธีที่ดีที่สุดในการพูดคุยกับโมเดล AI ได้

ChatGPT สามารถเล่าเรื่องตลกได้ดี

แม้ว่าค่าเริ่มต้นของแชท GPT จะไม่ตลก แต่การกำหนด Prompt ทำให้คุณได้รับสิ่งที่คุณต้องกการได้ ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถขอให้ ChatGPT เขียนเรื่องราวในสไตล์ของนักแสดงตลกที่ตนเองชื่นชอบ หรือบอกให้ ChatGPT ตอบกลับแบบประชดประชันก็ได้ การทำให้ ChatGPT เป็นเรื่องตลก ต้องมีการลองผิดลองถูก แต่เมื่อมันเกิดขึ้นก็จะคุ้มค่ามาก

ChatGPT Joke

ChatGPT ยังคงเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

ทุกครั้งที่ผู้ใช้สนทนากับ ChatGPT โมเดล AI จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ  และมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่องตาม ดังนั้น เมื่อผู้ใช้ใช้ Prompt กับ ChatGPT และได้รับคำตอบที่ชัดเจน การใช้ในครั้งต่อไปก็จะตอบคำถามได้ดีเช่นเดิม

ChatGPT กำลังเปลี่ยนแปลงบางอุตสาหกรรม

ผู้เชี่ยวชาญในหลาย ๆ อุตสาหกรรม เริ่มใช้ ChatGPT เพื่อร่างอีเมล, ตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ใช้เพื่อรวบรวมรายชื่อ หรือโปรแกรมเมอร์ก็ใช้ เพื่อเขียนและตรวจสอบข้อผิดพลาดของโค้ด 

อ้างอิง

คำถามที่พบบ่อย

ในปี 2023 มีผู้ใช้ ChatGPT มากแค่ไหน?

จำนวนสมาชิก ChatGPT Plus มีมากแค่ไหน?

ข้อมูลเชิงลึก ChatGPT อัพเดตล่าสุดแค่ไหน?

ข้อมูลใน ChatGPT มาจากไหน?