วิธีใช้ Excel ทําบัญชีสำหรับธุรกิจ: บัญชีทำง่ายกว่าที่คิด

ฉันเป็นนักเขียน ไม่ใช่นักบัญชี การทำบัญชีคู่แทบทำให้ฉันหลับทุกครั้ง – ทั้งยังทำให้ฉันฝันร้ายเมื่อนึกถึง แต่ฉันก็ได้พัฒนาตัวเองและจะไม่แสร้งทำเป็นว่าฉันได้กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์นักบัญชีผู้รักตัวเลขตัวยง ซึ่งการใช้ Excel ทําบัญชีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กก็ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องเป็นนักบัญชีมากฝีมือแต่อย่างใด

การทำบัญชี excel ไม่ใช่เรื่องอยากจนเกินไป และเป็นโปรแกรมพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่เคยใช้งานกันอยู่แล้ว ดังนั้น ถึงคุณจะไม่ใช่นักบัญชี ก็สามารถใช้ Excel ทำบัญชีได้สิ่งที่คุณต้องมีคือการวางแนวทางสั้นๆ เทมเพลตและสูตร Excel ที่มีประโยชน์ โดยบทความนี้จะกล่าวหัวข้อต่อไปนี้:

สิ่งที่คุณต้องมีคือการวางแนวทางสั้นๆ เทมเพลตและสูตร Excel ที่มีประโยชน์ โดยบทความนี้จะกล่าวหัวข้อต่อไปนี้:

• วิธีทำบัญชีเกณฑ์เงินสด
• วิธีทำบัญชีเกณฑ์คงค้างและบัญชีคู่
• สูตรที่เป็นประโยชน์
• เทมเพลตที่ใช้ได้จริง
• เทคนิคเพิ่มเติม

ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่จ้องทำงานเต็มเวลาหรือพนักงานที่มีธุรกิจเสริมของตน คุณก็จะได้พบกับเครื่องมือที่คุณต้องการใน Excel ดังนั้น หายใจลึกๆ เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาเรียนเรื่องตัวเลขกันเลย

การใช้ Excel ทําบัญชีเบื่องต้น

คุณสามารถทำปาฏิหาริย์ได้จากการใช้สเปรดชีต Excel ซึ่งก็มีแม้กระทั่งการแข่งขันชิงแชมป์โลก Microsoft Office กันเลยทีเดียว

หากคุณต้องการที่จะเรียนรู้ 7 เทคนิคในการเริ่มต้นธุรกิจเราขอแนะนำคำแนะนำของเรา

แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราจะมาแนะนำในบทความ

โดยนี่คือรูปแบบพื้นฐานของการทําบัญชีบริษัท excel โดยฉันจะอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างบัญชีเกณฑ์เงินสดและเกณฑ์คงค้าง โดยระหว่างบทความ ฉันจะอธิบายการบันทึกค่าใช้จ่ายแบบบัญชีคู่ให้ชัดเจนขึ้นไปด้วย

วิธีทำบัญชีเกณฑ์เงินสด

เมื่อนานมาแล้ว ผู้คนเคยใช้สมุดเช็คยอดคงเหลือด้วยมือตัวเอง ต้องบันทึกรายรับและรายจ่ายในบัญชีของตน และยังต้องตรวจสอบรายการบัญชีเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขารู้ว่ามีเงินเหลืออยู่เท่าไรเป็นประจำ

ซึ่งนั่นคือทั้งหมดของบัญชีเกณฑ์เงินสด โดยจะบันทึกรายได้ในงบเมื่อได้รับเงินสดเท่านั้น และจะบันทึกค่าใช้จ่ายเมื่อต้องจ่ายเงินสดเท่านั้น 

เหล่านี้คือตัวอย่างตัวชี้วัดผลการดำเนินงานที่สำคัญสำหรับการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจที่อาจเป็นประโยชน์กับคุณ

การทำบัญชีรายรับรายจ่าย Excel ธุรกิจขนาดเล็กจะนิยมใช้ระบบนี้เพราะความเรียบง่าย โดยคุณสามารถเก็บบันทึกบัญชีเจ้าหนี้ (เงินที่คุณค้างชำระ) และบัญชีลูกหนี้ (เงินที่ติดคุณ) ได้เพิ่มเติม ซึ่งการทำบัญชีขั้นพื้นฐานของคุณจะติดตามเงินเฉพาะเมื่อเงินมีการเปลี่ยนมือเท่านั้น

สเปรดชีตของคุณควรมีคอลัมน์ต่อไปนี้เป็นอย่างน้อย:

• หมายเลขธุรกรรม
• วันที่
• คำอธิบาย
• รายได้
• ค่าใช้จ่าย
• ยอดคงเหลือ

สมมติว่าคุณเป็นนักวางแผนงานแต่งงาน ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2021 คุณมีเงิน 750 ดอลลาร์ในบัญชี โดยในวันนั้น คุณต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อดอกไม้สำหรับงานแต่งงานของ Johnson ที่กำลังจะจัด โดยคุณจะต้องเรียกเก็บเงินจากครอบครัว Johnson ด้วย

บัญชี Excel ของคุณอาจมีลักษณะดังนี้:

ตัวอย่างบัญชีเกณฑ์เงินสดนี้จะแสดงธุรกรรมสองรายการ: เครดิตและเดบิตอย่างละหนึ่งรายการ โดยยอดคงเหลือในบัญชีจะอัพเดตตามธุรกรรมแต่ละรายการ

หากคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวแต่ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เราค้นคว้ามาเพื่อคุณแล้ว85 ไอเดียธุรกิจส่วนตัวขนาดเล็กซึ่งคุณสามารถพิจารณาได้

คุณบันทึกการชำระเงินของคุณที่ร้านขายดอกไม้ก่อนและจะลดยอดเงินในบัญชีของคุณลง 150 ดอลลาร์เป็น 600 ดอลลาร์ จากนั้นคุณก็ต้องบันทึกเช็คที่คุณได้รับจาก Johnsons ซึ่งจะเพิ่มยอดเงินเป็น 1,100 ดอลลาร์

ใช่ เป็นเรื่องง่ายแบบนั้นเลย

วิธีทำบัญชีเกณฑ์คงค้างและบัญชีคู่

แม้ว่าวิธีทำบัญชีเกณฑ์เงินสดจะง่ายกว่า แต่บัญชีรายรับรายจ่าย Excel ร้านค้าต่างๆ จะนิยมใช้บัญชีเกณฑ์คงค้างมากกว่า เพราะจะทำให้ได้เห็นภาพรวมทางการเงินของบริษัทได้อย่างสมบูรณ์และถูกต้องยิ่งขึ้น

แทนที่จะบันทึกแค่กระแสเงินสดเพียงอย่างเดียว บัญชีเกณฑ์คงค้างจะให้คุณต้องบันทึกสินทรัพย์และหนี้สินทั้งหมดของคุณ โดยหลักการสำคัญของบัญชีเกณฑ์คงค้างคือสมการ:

• สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ (หรือผู้ถือหุ้น)

และนั่นทำให้การทำบัญชีคู่สำคัญ การทำบัญชีคู่ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าสมการนี้จะสมดุล โดยทุกครั้งที่คุณเพิ่มหรือลดด้านใดด้านหนึ่งของสมการลง คุณจะต้องทำเช่นเดียวกันกับอีกด้าน

สำหรับบัญชีเกณฑ์คงค้าง คุณจะต้องมีบัญชีแยกประเภทมากกว่าหนึ่งบัญชี ซึ่งนอกจากงบดุลแล้ว คุณต้องเก็บเวิร์กชีตสำหรับแต่ละบัญชีที่รวมอยู่ในนั้นด้วย

โดยหน้าแรกของสมุดการใช้ Excel ทําบัญชีของคุณควรเป็นผังบัญชี ให้สร้างรายการบัญชีทั้งหมดของคุณ รวมถึงประเภทของบัญชีและวิธีการเพิ่มบัญชีด้วย

ซึ่งส่วนสุดท้ายอย่างวิธีการเพิ่มบัญชี ถือเป็นส่วนที่น่าสับสนที่สุดของ Excel สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก และฉันจะกลับมาอธิบายส่วนนี้ในส่วนถัดไป

บัญชีมีห้าประเภท:

• สินทรัพย์
• รายจ่าย
• หนี้สิน
• ส่วนได้เสียคงเหลือ
• รายได้

สินทรัพย์และค่าใช้จ่ายจะอยู่ทางด้านซ้ายของงบดุล (หรือสมการยอดดุล) โดยหนี้สิน ส่วนได้เสียคงเหลือ และรายได้จะอยู่ทางด้านขวา

ทำไมค่าใช้จ่ายถึงอยู่กับสินทรัพย์? โปรดจำไว้ว่าค่าใช้จ่ายที่ว่านี้ไม่ใช่บัญชีเจ้าหนี้/เงินที่ยังเป็นหนี้ผู้อื่นอยู่ แต่นี่คือเงินที่คุณใช้จ่าย

ค่าไฟฟ้าที่คุณต้องจ่ายเป็นหนี้สินและจะอยู่ทางด้านขวาของงบดุล ซึ่งในทางกลับกัน คุณจะได้รับ ‘ไฟฟ้า’ ทางด้านซ้าย เพื่อทำให้สมการสมดุล

ดังนั้น ทำไมค่าใช้จ่ายจึงไม่เป็นสินทรัพย์? เพราะค่าใช้จ่ายจะถูกใช้ตามปกติของธุรกิจในระหว่างรอบระยะเวลาการทำบัญชี และเพราะคุณจะไม่มีไฟฟ้าเหลือใช้ตอนสิ้นเดือนที่คุณสามารถถือไว้เป็นสินทรัพย์ในอนาคตได้นั่นเอง

และก็มาถึงเรื่องที่ดูย้อนแย้งมากกว่าเดิม

เดบิตและเครดิต

นี่คือกฎหลักที่ต้องจำในการทำบัญชีเกณฑ์คงค้าง

• สินทรัพย์และรายจ่ายจะเพิ่มขึ้นด้วยเดบิตและลดลงด้วยเครดิต
• หนี้สิน ส่วนได้เสียคงเหลือ และรายได้จะเพิ่มขึ้นด้วยเครดิตและลดลงด้วยเดบิต

แต่เพราะอะไร? เพราะถ้าคุณได้รับการชำระเงินสดมาก ไม่ใช่ว่านั่นก็ควรที่จะให้เครดิตบัญชีเงินสดของเหรอ? คำตอบคือ ‘ไม่’ เพราะคุณควรหักจากบัญชีของคุณเลย

หากคุณถามว่าทำไม?

คำตอบก็คือบัญชีการเงินธุรกิจจะถูกติดตามโดยธนาคาร และจะคำนวณเดบิตและเครดิตแตกต่างจากที่คุณคุ้นเคย

ยังไม่เข้าใจใช่ไหม? จริงๆ แล้วฉันก็ไม่ได้เข้าใจละเอียด คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจว่าเครดิตถูกคำนวณยังไง แค่รู้ว่ามันเป็นแบบนั้นก็พอ ในทำนองเดียวกันกับที่ฉันไม่เข้าใจวิธีการเขียนโค้ดของสูตร Excel บัญชีการเงินนั่นเอง และนั่นก็ไม่จำเป็นกับฉัน (ถือว่าโชคดีไป)

พยายามอย่าคิดว่าเครดิตดีและเดบิตแย่ แต่ให้นึกถึงเงื่อนไขทางบัญชีอย่างเป็นกลาง คุณยังต้องการหลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงการเพิ่มเครดิตและการลดเดบิตด้วยเช่นกัน โดยแทนที่จะใช้เครื่องหมาย +/- ให้ใช้ตำแหน่งแบ่งแทน

• เดบิต = ซ้าย
• เครดิต = ขวา

คุณบันทึกเดบิตทางด้านซ้ายในบัญชี และใช้เดบิตด้านซ้ายในงบดุล ซึ่งเครดิตที่บันทึกด้านขวาของบัญชีก็เพื่อเพิ่มมูลค่าทางด้านขวาของงบดุลนั่นเอง

การเห็นจริงจะทำให้คุณเข้าใจมากขึ้น ลองใช้ตัวอย่างการวางแผนงานแต่งงานข้างต้นด้วยการทำบัญชีเกณฑ์คงค้างแบบง่ายๆ กันเลย

คุณมีเงินสดคงเหลือ 750 ดอลลาร์ และมีบัญชีลูกหนี้ 600 ดอลลาร์ (รวมถึงเงินที่ Johnson ค้างซึ่งจะครบกำหนดจ่ายในวันนี้) และ 200 ดอลลาร์ในบัญชีเจ้าหนี้ (ซึ่งจะรวมใบแจ้งหนี้สำหรับดอกไม้ด้วย)

เมื่อคุณได้รับเช็คและดอกไม้ของ Johnson เงินก็จะถูกเปลี่ยนมือ โดยคุณจะบันทึกธุรกรรมแต่ละรายการสองครั้งในสองบัญชีที่เกี่ยวข้อง

โดยในการทำบัญชีเกณฑ์คงค้างและบัญชีคู่ คุณจะต้องบันทึกธุรกรรมแต่ละรายการสองครั้ง โดยปรับจากสองบัญชีดังกล่าว

โดยตัวอย่างนี้จะจับคู่เดบิตหนึ่งรายการกับเครดิตหนึ่งรายการ แต่คุณยังอาจจะมีธุรกรรมที่จำเป็นต้องหักหรือให้เครดิตจากบัญชีทั้งสองด้วย

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าในตอนที่คุณอยู่ที่ร้านขายดอกไม้ คุณตัดสินใจที่จะซื้อแจกันด้วย และคุณนำเช็คมาเพื่อปิดยอดดอกกุหลาบที่สั่ง แต่คุณก็ต้องใช้บัตรเครดิตเพื่อซื้อแจกันซึ่งมีราคา 50 ดอลลาร์ด้วย

ในการทำเช่นนั้น คุณก็ได้ซื้อสินค้าเพิ่ม ซึ่งนับเป็นสินทรัพย์ ดังนั้นคุณจะต้องหักบัญชีสินค้าของคุณ 50 ดอลลาร์เพื่อทำเครื่องหมายเอาไว้ ซึ่งคุณก็ได้เพิ่มหนี้สินในยอดรวม และคุณจะต้องหักบัญชีเป็นจำนวนเงิน 50 ดอลลาร์

ธุรกรรมทั้งหมดเหล่านี้ส่งผลต่องบดุลของคุณ และคุณควรรักษายอดคงเหลือในบัญชีของคุณให้เป็นประจำ โดยเทมเพลตงบดุล Excel ด้านล่างจะจัดการเรื่องบัญชีให้กับคุณ

การใช้ Excel ทําบัญชี จะมาพร้อมกับเทมเพลตแบบสำเร็จรูป เช่น งบดุลประจำปีแบบในรูป

คุณอาจต้องการงบดุลรายเดือนที่ดูง่ายกว่า แต่งบประจำปีดังกล่าวก็จะแสดงยอดคงเหลือในบัญชีต่างๆ ของคุณแบบสรุปนั่นเอง

การทำบัญชีคู่และบัญชีเกณฑ์เงินสด

เป็นไปได้ที่จะใช้ทำบัญชีคู่ด้วยวิธีแบบเกณฑ์เงินสด ตัวอย่างเช่น หากคุณบันทึกบัญชีเจ้าหนี้และลูกหนี้ คุณจะต้องบันทึกการชำระเงินของลูกค้าเป็นรายได้และหักจำนวนเงินออกจากบัญชีลูกหนี้ของคุณพร้อมกัน โดยเงินจำนวนนั้นจะไม่ถูกบันทึกเป็นเงินที่จะเรียกเก็บทีหลัง

โดยความแตกต่างที่สำคัญคือเงินจะถูกบันทึกในงบดุลของคุณเท่านั้น เมื่อมีการเปลี่ยนมือ

สูตรที่เป็นประโยชน์

สิ่งที่ยอดเยี่ยมของการใช้ Excel ทําบัญชีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กก็คือคุณไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องคิดเลข (ซึ่งคุณก็คงไม่จำเป็นต้องใช้ตั้งแต่ที่โทรศัพท์มีเครื่องคิดเลขติดตัวแล้ว)

แน่นอนว่ามีสูตร Excel บัญชีการเงินที่คุณน่าจะใช้บ่อยๆ โดยนี่คือสูตรที่ควรจำเอาไว้:

SUM

นี่อาจเป็นสูตรที่ใช้กันบ่อยที่สุด ที่จะช่วยบวกตัวเลขยาวๆ ให้คุณได้อย่างรวดเร็ว

อยากรวมตัวเลขทั้งหมดในคอลัมน์ A จากแถวที่ 1 ถึง 50 หรือเปล่า? เพียงแค่ใช้ฟังก์ชัน SUM:

• =SUM(A1:A50)

หรือไปที่เซลล์ว่างเซลล์แรกที่ท้ายคอลัมน์ (ในกรณีนี้คือ A51) แล้วคลิก AutoSum คุณก็จะพบปุ่มที่หน้าแรกหรือแถบเครื่องมือสูตร

SUMIF

ธุรกิจของคุณเป็นลูกค้าประจำของร้านดอกไม้ Rosa’s Roses มาหลายปีแล้ว และต้องการดูว่าคุณได้ใช้จ่ายไปเท่าไรในปีนี้? สูตรนี้ช่วยได้

SUMIF ให้คุณเพิ่มเฉพาะเซลล์ที่ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนดเท่านั้น หากคุณต้องการดูว่าสินค้ามีราคาเท่าไร หรือรายได้ที่คุฯทำได้จากการซื้อที่ราคาถูกกว่า 20 ดอลลาร์คุณก็สามารถทำได้เช่นกัน

ไวยากรณ์พื้นฐานคือ

• =SUMIF(range, criteria, [sum_range])

สมมติว่าบัญชีเจ้าหนี้ของคุณในปีมีตั้งแต่แถวที่ 2 ถึง 152 โดยคุณบันทึกรายละเอียดของธุรกรรมในคอลัมน์ B และเครดิตทั้งหมดไปยังบัญชีนั้นในคอลัมน์ D สูตรของคุณก็ควรจะเป็นแบบนี้:

• =SUMIF(B2:B152, “Rosa’s”, D2:D152)

ซึ่งจะเพิ่มค่าทั้งหมดในเซลล์ D2 ถึง D152 ถ้าเซลล์ B มีคำว่า “Rosa’s”

สังเกตเครื่องหมายคำพูดของคำว่า “Rosa’s” เพราะถ้าคุณใช้ข้อความ คุณจะต้องใส่เครื่องหมายคำพูด

ฟังก์ชันอื่นๆ

ฟังก์ชันที่ใช้บ่อยที่สุดสามารถเข้าถึงได้ง่ายรองจาก sigma (หรือสัญลักษณ์ผลรวม) บนแถบเครื่องมือหน้าแรกและสูตร ได้แก่:

• average
• count
• max
• min

สูตร Excel บัญชีการเงิน

สูตรการเงินของ Excel ช่วยให้คุณไม่ต้องคำนวณด้วยตัวเองให้ยุ่งยาก โดยมีรายการสูตรการเงินทั้งหมดที่คุณสามารถคลิกเพื่อใช้ได้ ตัวอย่างเช่น สูตรสองตัวทางด้านขวาภาพด้านล่างจะช่วยคำนวณค่าเสื่อมราคาได้สองวิธี

สูตร Excel จะช่วยคำนวณเลขการเงินที่ยุ่งยากให้กับคุณ โดยต่อไปนี้เป็นวิธีคำนวณค่าเสื่อมราคาสองวิธี โดยใช้สูตร SUMIF ด้านซ้าย

เทมเพลตที่ใช้ได้จริง

แม้ว่าสูตร Excel บัญชีการเงินจะมีประโยชน์มาก แต่ก็ควรใช้ด้วยความแม่นยำ เพราะช่องว่างหรือจุดใดๆ อาจทำให้สมการไม่ลงตัวได้

เทมเพลตจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับคุณ โดยผู้ออกแบบเทมเพลตจะระบุข้อมูลทั้งหมดที่คุณต้องการเพื่อให้สูตรได้ถูกต้องเพื่อคำนวณผลกำไรและขาดทุนของธุรกิจของคุณ

ฉันจะใช้เทมเพลตที่ใช้ได้จริงสักสองสามตัว แต่คุณก็สามารถดาวน์โหลดเองเทมเพลตบัญชี Excel จากคนอื่นได้เช่นกัน คุณอาจจะพบกับเทมเพลตที่เหมาะกับสไตล์และการเงินของคุณโดยเฉพาะอีกด้วย

ค่าใช้จ่ายธุรกิจ

เทมเพลตนี้จะแบ่งค่าใช้จ่ายของคุณออกเป็นส่วนต่างๆ

• ค่าใช้จ่ายพนักงาน
• ค่าใช้จ่ายสำนักงาน
• ค่าการตลาด
• ค่าอบรมและค่าเดินทาง

เทมเพลตค่าใช้จ่ายธุรกิจนี้ช่วยให้คุณเห็นภาพความแตกต่างระหว่างการใช้จ่ายที่วางแผนไว้และการใช้จ่ายจริง

ข้อมูลเทมเพลตที่ดีที่สุดจะช่วยให้คุณเห็นว่าเมื่อไหร่ที่คุณใช้จ่ายเกินงบ โดยจะแสดงให้คุณเห็นถึงความแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายที่วางแผนไว้และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง และแสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายทั้งสองสอดคล้องกันมากเพียงใดตลอดทั้งปี

งบประมาณธุรกิจรายเดือน

คุณอาจอยากได้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในเดือนปัจจุบันโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าใช่ ก็ยังมีบัญชีรายรับรายจ่าย Excel ธุรกิจที่แสดงรายการค่าใช้จ่ายหลักๆ อย่างละเอียด

เทมเพลตงบประมาณบริษัทรายเดือนจะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณใช้จ่ายกับอะไรมากที่สุด

เทมเพลตงบประมาณธุรกิจรายเดือนยังแสดงค่าใช้จ่ายห้าอันดับแรกของคุณ และยังแสดงรายรับรายจ่ายโดยรวมให้ได้รู้อีกด้วย

บัญชีแยกประเภททั่วไป

เทมเพลตที่ครอบคลุมการทำบัญชีธุรกิจขนาดเล็กมากที่สุดคือบัญชีแยกประเภททั่วไป ที่จะทั้งติดตามแผนการเงินที่วางเอาไว้เมื่อเทียบกับการใช้จ่ายจริง พร้อมแยกย่อยงบประมาณรายเดือนสำหรับรายละเอียดที่มากขึ้นอีกด้วย

เทมเพลตบัญชีแยกประเภททั่วไปเป็นตัวเลือกแบบครบวงจรที่ครอบคลุมสิ่งที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่

คุณยังสามารถติดตามการบริจาคเพื่อการกุศลและการทำสปอนเซอร์เพื่อทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเมื่อต้องจ่ายภาษีอีกด้วย

ใบแจ้งหนี้

คุณสามารถใช้ Excel ทําบัญชีใบแจ้งหนี้ได้อย่างง่ายดาย ดังที่เห็นได้จากภาพด้านล่าง คุณสามารถเลือกเลย์เอาต์ได้หลากหลาย ทำให้คุณมีความยืดหยุ่นทั้งในเรื่องของสไตล์และรูปแบบ

Excel มาพร้อมกับเทมเพลตใบแจ้งหนี้ถึง 24 แบบ เพียงค้นหา “Invoice” ในหน้าเทมเพลตก็จะเจอตัวเลือกทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

เทมเพลตอื่นๆ

มีแผ่นงานต่างๆ มากมายที่คุณสามารถสร้างได้ด้วย Excel โดยจะมีเทมเพลตสำหรับ

• รายการสิ่งของ
• แผ่นเวลา
• รายงานการขาย
• แผ่นผู้ติดต่อ

เทมเพลต Excel สามารถช่วยคุณประหยัดเวลาการทำเอกสารธุรกิจมากมาย

มีทั้งเทมเพลตประมาณกระแสเงินสดที่สามารถช่วยคุณกำหนดว่าเมื่อไหร่ที่ต้องการความมั่นคงและเมื่อไหร่ที่ควรขยายธุรกิจ

เมื่อใดก็ตามที่คุณต้องการสร้างสเปรดชีต คุณก็ควรเช็กดูว่ามีเทมเพลตอยู่แล้วหรือไม่ ทำไมต้องทำอะไรให้ยุ่งยาก ในเมื่อมีเทมเพลตสำเร็จรูปไว้ให้อยู่แล้ว?

เคล็ดลับเพิ่มเติม

ก่อนที่คุณจะเริ่มพัฒนาบัญชีของคุณ มีอีกสองเรื่องที่คุณควรรู้

ควรใช้ Pivot Table ตอนไหน?

Excel เก่งเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลที่ยืดหยุ่น และ Pivot Table ก็ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ดีที่สุดในผลิตภัณฑ์ Microsoft Office เลยทีเดียว

Pivot Table ช่วยให้คุณสามารถโฟกัสและปรับโฟกัสข้อมูลใหม่เพื่อระบุและแสดงเรื่องที่สำคัญมากมาย โดยจะเป็นตารางขนาดเล็กที่สรุปจะข้อมูลใหญ่ๆ ได้โดยคุณไม่จำเป็นต้องใส่สูตรด้วยซ้ำ เพราะโปรแกรมจะทำการรวมข้อมูลและวิเคราะห์ให้คุณเอง

แม้ว่าคุณจะสร้าง Pivot Table ด้วยตนเองได้โดยการใส่ช่วงของเซลล์ แต่ Excel ก็มาพร้อมกับ Pivot Table ที่แนะนำซึ่งจะทำให้คุณไม่ต้องยุ่งยาก โดยคุณจะพบได้ที่ด้านซ้ายสุดของแถบแทรก

ควรใช้โปรแกรมอื่นตอนไหน?

Excel สำหรับธุรกิจเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นโปรแกรมที่เหมาะกับทุกคน ทั้งยังมีเหตุผลดีๆ ที่ทำไมคุณควรลองใช้โปรแกรมอื่นด้วย

แม้ว่าคุณจะสามารถดาวน์โหลดชุดข้อมูลจากเว็บต่างๆ ได้ แต่ก็มีโปรแกรมที่มีการผสานรวมเอาอีคอมเมิร์ซที่ดีกว่าเช่นกัน

โปรแกรมเช่น Intuit Quickbooks ยังทำให้การคำนวณสถิติบางอย่าง เช่น กำไรต่อการขาย ซึ่งถึงแม้คุณจะสามารถคำนวณด้วย Excel ได้ แต่ก็ใช้เวลานานสักหน่อยเพราะ Excel ทำได้หลายอย่าง

หากคุณต้องการที่จะเรียนรู้25 เทคนิคการขายให้ขายดีเราขอแนะนำคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์

เพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น คุณควรใช้โปรแกรมที่มุ่งสู่เป้าหมายของคุณได้ดีขึ้น

คุณอาจไม่อยากเสียเงินซื้อ Microsoft Excel ซึ่งก็มีโปรแกรมฟรีมากมายที่ทำได้แบบ Excel (แม้จะทำไม่ได้ทุกโปรแกรม) ตัวอย่างเช่น Google Sheets ที่เปิดให้ใช้ฟรีสำหรับการใช้งานส่วนตัว

ถึงเวลาลองใช้แล้ว

การใช้ Excel ทําบัญชีนั้นอาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะชำนาญ แต่คุณก็สามารถเรียนรู้วิธีใช้ได้ภายใน 15 นาที (หรือหลังอ่านบทความนี้จบ)

จงใช้อดทนเมื่อคุณเพิ่งเริ่มต้น ความเคยชินต้องใช้เวลา และพวกเราส่วนใหญ่ก็ไม่คิดว่าการทำบัญชีเกณฑ์คงค้างเป็นเรื่องง่าย นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้มีเทมเพลตมากมายที่คุณสามารถลองเพื่อช่วยคำนวณให้คุณได้อย่างถูกต้อง

เริ่มศึกษาวิธีทําบัญชีร้านค้า excel ตอนนี้เลย ไม่ว่าคุณจะต้องการทำบัญชีรายรับรายจ่ายสรรพากร Excel หรือทำบัญชีสำหรับธุรกิจ โปรดจำไว้เสมอว่าในการทำบัญชีเกณฑ์คงค้าง คุณจะเพิ่มสินทรัพย์ได้ด้วยเดบิต ไม่ใช่เครดิต