NFT ถูกปล่อยสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2015 และเป็นจุดเริ่มต้นของ web 3.0 แม้ว่าจะมี NFT เกิดขึ้นใหม่โดยตลอด แต่เพิ่งได้รับความนิยมในปี 2021 NFT ย่อมาจาก Non-Fungible Token ซึ่งหมายถึงคือโทเค็นที่ส่วนใหญ่เป็นงานศิลปะ โดยซื้อและขายได้บนกระดานแลกเปลี่ยน และเก็บไว้บนบล็อกเชน
เราจะเจาะลึกไปที่ NFT ที่แพงที่สุด 10 อันดับแรก รวมถึง NFT ใหม่ที่มีการเติบโตสูง ซึ่งเชื่อว่าอาจจะให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคตแก่นักลงทุนที่เข้าซื้อได้ก่อน รวมถึงแสดงวิธีซื้อ NFT เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มกันเลย!
10 อันดับ NFT ที่แพงที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ด้วยความที่ NFT ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง จึงไม่น่าแปลกที่จะเห็น NFT บางตัว ขายได้ในราคาหลายแสนหรือหลายล้านดอลลาร์ โดยมีสาเหตุหลักมาจากการกระแสความนิยมหรือชุมชนที่ชื่นชอบโปรเจกต์นั้นๆ
โครงการส่วนใหญ่มักเริ่มต้นด้วยการสร้างชุมชนบนโซเชียลมีเดียและ Discoird ก่อนที่จะให้นักลงทุนซื้อโทเค็นในจำนวนจำกัด เมื่อ NFT ได้รับความสนใจมากขึ้น อุปสงค์และอุปทานจะมีผลให้ราคาพุ่งสูงขึ้น NFT ที่ทำวิธีนี้สำเร็จ จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างมหาศาล และสร้างกำไรแก่นักลงทุนรายแรก ๆ ด้วย
นี่คือ 10 อันดับ NFT ที่แพงที่สุด:
- ‘The Merge’ – 91.8 ล้านดอลลาร์ – NFT ที่แพงที่สุดที่นักสะสม 30,000 คนรวมตัวกัน เพื่อซื้อชิ้นส่วนของ NFT นี้
- The First 5000 Days – 69.3 ล้านดอลลาร์ – NFT ที่แพงที่สุดที่เคยขายให้เจ้าของเพียงคนเดียว
- Clock — 52.7 ล้านดอลลาร์ – NFT ที่แพงที่สุดในรูปแบบตัวนับวันแบบเรียลไทม์ ที่ Julian Assange ถูกจำคุก ออกแบบโดย Pak
- HUMAN ONE – 28.985 ล้านดอลลาร์ – ผลงานศิลปะ NFT ที่แพงที่สุดแบบไฮบริด 360 องศา ที่ออกแบบโดย Beeple
- CryptoPunk #5822 — 23.7 ล้านดอลลาร์ – CryptoPunk NFT ที่แพงที่สุด ที่เคยขายได้
- CryptoPunk #7523 — 11.75 ล้านดอลลาร์ – CryptoPunk ที่หายากเป็นอันดับ 3 ในคอลเลกชันทั้งหมด
- CryptoPunk #4156 — 10.26 ล้านดอลลาร์ – NFT ที่แพงที่สุดเป็นอันดับ 3 ใน CryptoPunk ทั้งหมด
- CryptoPunk #3100 — $7.67 ล้านดอลลาร์ – CryptoPunk ที่หายากเป็นอันดับ 7 ในคอลเลกชันทั้งหมด
- CryptoPunk #7804 — $7.6 ล้านดอลลาร์ – CryptoPunk NFT ที่แพงที่สุดในรูปแบบ ‘เอเลี่ยน’ 10. Crossroad — 6.6 ล้านดอลลาร์ – ศิลปะแอ็บสแตร็ก NFT ที่แพงที่สุดในรูปแบบแอนิเมชั่น
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง
เจาะลึก NFT art ที่แพงที่สุด
เราจะเน้นไปที่ NFT ที่แพงที่สุด 10 อันดับแรกที่เคยขายมา เพื่อตามหาคุณค่าที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง NFT แต่ละโครงการ, ความหายากของหลาย ๆ คอลเลกชัน และงานศิลปะแต่ละชิ้น อย่างที่เราจะได้เห็นกัน โปรเจ็กต์ CryptoPunks ได้สร้างยอดผู้ติดตามจำนวนมากจากชุมชนนักสะสม
ด้วยความนิยมอย่างมากที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ราคาของ NFT จึงเพิ่มสูงขึ้น ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นโครงการยอดนิยมขายคอลเลกชันได้ในราคาหลายแสนดอลลาร์ ในบทความนี้ เราจะมาดู NFT ที่แพงที่สุด ให้ละเอียดยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การประมูลงานศิลปะบางชิ้น เรามองไปที่คุณค่ามากกว่าคุณภาพของงาน ซึ่งคล้ายกับการประมูลงานศิลปะแบบดั้งเดิม
1. The Merge
NFT ที่แพงที่สุดที่เคยขายได้ คือ ‘The Merge’ ของ Pak ที่ราคา 91.8 ล้านดอลลาร์ เป็นสถิติรูป NFT ที่แพงที่สุด โดยศิลปินที่มีชีวิต NFT นี้ถูกขายบน Nifty Gateway ให้กับนักสะสม 28,893 คน ในจำนวน 312,686 หน่วย (ซึ่งแต่ละหน่วยเป็น NFT ชิ้นเดียว) ที่ราคาเริ่มต้นหน่วยละ 575 ดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 25 ดอลลาร์ทุก ๆ 6 ชั่วโมง
ผลงานนี้ประกอบด้วยจุดสีขาวขนาดใหญ่ 3 จุดบนพื้นหลังสีดำ ยิ่งมีผู้ซื้อจำนวนมากเท่าไหร่ จุดจะยิ่งใหญ่ขึ้นเท่านั้น NFT นี้มีกลไกการจำกัดอุปทานในตัว ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าปริมาณโทเค็นจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป ทุก ๆ โทเค็น Merge จะถูกโอนไปรวมกับโทเค็นของกระเป๋าเงินของผู้รับ ส่งผลให้มูลค่าโดยรวมสูงขึ้น และรวมเป็นโทเค็นเดียว ดังนั้น เมื่อเวลาผ่านไปจุดสีขาวอาจรวมตัวกันเป็นจุดเดียว
ผู้ถือ NFT นี้ สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงผ่านกระดานผู้นำ ที่มีรายชื่อของนักสะสม 100 อันดับแรก และ 5 อันดับแรกของกระดานผู้นำ จะได้รับรางวัลในระดับที่แตกต่างกันออกไป โดยระดับสูงสุดที่จะได้รับ คือ ระดับ Alpha ซึ่งมอบให้กับนักสะสมอันดับต้น ๆ การตั้งค่าแบบไดนามิกของ NFT นี้ ทำให้แตกต่างจากคอลเล็กชันอื่น ๆ และน่าจะเป็นสาเหตุหลักว่า ทำไมจึงเป็นงาน NFT ที่แพงที่สุด
เช่นนี้ อย่างไรก็ตาม มีการโต้เถียงกันว่า นี่คือ NFT art ที่แพงที่สุด
เท่าที่เคยมีมาหรือไม่ เนื่องจากเงินดังกล่าวเป็นการระดมทุนจากนักลงทุนเกือบ 30,000 ราย ไม่ใช่เพียงแค่รายเดียว แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เราตัดสินให้ The Merge เป็น NFT ที่แพงที่สุดเท่าที่เคยวางขาย
2. The First 5000 Days
The First 5000 Days เป็นภาพที่แพงที่สุดในโลก NFT ของ Beeples เป็นภาพคอลลาจ NFT 5,000 รายการ ที่ Beeples สร้างขึ้นสำหรับซีรีส์เรื่อง Everyday และถูกขายไปในราคา 69 ล้านเหรียญ (42.329 ETH) ที่ Christies Auction House ในปี 2021
NFT นี้ถูกขายให้กับ Vignesh Sundaresan โปรแกรมเมอร์ชาวสิงคโปร์ ซึ่งเขาทำเงินส่วนใหญ่ได้จากการลงทุนในคริปโต และเขายังเป็นผู้ก่อตั้งโครงการ Metapurse NFT และเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ MetaKovan ซึ่งเป็นนามแฝงออนไลน์ของเขา และนี่คือ NFT ที่แพงที่สุดที่เคยขายให้กับนักลงทุนรายบุคคล
งานศิลปะนี้แสดงอยู่ในแกลเลอรีออนไลน์ใน metaverse ที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านเว็บเบราว์เซอร์
3. CLOCK
NFT ที่แพงที่สุดอันดับสาม มีต้นกำเนิดที่ค่อนข้างแปลกใหม่ เพราะมันถูกสร้างขึ้นเพื่อระดมทุนให้ Julian Assange หลังจากที่เขาถูกจำคุกในเดือนพฤษภาคม 2019 ในข้อหาจารกรรมรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อมโยงกับเว็บไซต์ WikiLeaks ที่เขาก่อตั้ง โดย NFT นี้ เป็นเพียงนาฬิกาที่แสดงจำนวนวันที่ Assange ถูกคุมขัง
ราคาที่สูงถึง 56 ล้านดอลลาร์ ถูกระดมจากผู้สนับสนุนกว่า 10,000 ราย ที่แต่ละคนเป็นเจ้าของส่วนแบ่งของ NFT โดยรายได้ 100% จะมอบให้แก่มูลนิธิ Wau Holland ซึ่งสนับสนุนการปกป้อง Assange
ผู้สร้าง NFT เป็นศิลปินนิรนามที่มีชื่อว่า Pak ซึ่งเขาปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวตนในการให้สัมภาษณ์ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ CLOCK กลายเป็น NFT ที่แพงที่สุดอีกชึ้นหนึ่ง ซึ่ง NFT นี้กระตุ้นให้ผู้ติดตามจำนวนมากทบทวนข้อพิพาทในคดีของ Assange นอกเหนือจากเสรีภาพและการเข้าถึงข้อมูล
4. HUMAN ONE
Human one เป็นงานศิลปะลูกผสมระหว่างดิจิทัลและกายภาพ ซึ่งออกแบบโดย Beeple และถูกประมูลในราคา 28.9 ล้านดอลลาร์ ในงาน 21th Century Evening Sale ของ Christie เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2021
สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับ NFT นี้ คือ งานศิลปะที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แม้ว่า Beeple จะไม่ได้เป็นเจ้าของงานศิลปะ แต่เขายังคงเข้าถึงได้จากระยะไกล และสามารถอัปเดตงานได้อย่างต่อเนื่อง NFT นี้เป็นของภาพนักบินอวกาศที่เดินผ่านพื้นหลังที่แตกต่างกัน และเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
แรงบันดาลใจสำหรับผลงานชิ้นนี้ มาจากการทดลองรวมทีวีหลาย ๆ เครื่องเข้ากับรูปทรง และลวดลายต่าง ๆ ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ไม่เหมือนใคร จนกลายเป็น NFT ที่แพงที่สุดชิ้นหนึ่งตลอดกาล!
5. CryptoPunk #5822
CryptoPunk #5822 เป็น cryptopunk แพงที่สุดที่เคยขายมา โดยมีราคาสูงถึง 23 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ยังมีการเสนอราคาหลายครั้งที่มากกว่า 1,000 ETH (~ 3 ล้านดอลลาร์) ตลอดอายุของโทเค็น อย่างไรก็ตาม เจ้าของไอดีที่มีชื่อว่า 0xDeepak ก็ยังไม่ยอมขาย และได้ทำการลิสในราคาหลายหมื่น ETH ในหลาย ๆ ครั้งอย่างไรก็ตาม ไม่มีรายการใดที่สำเร็จ หลังจากนั้น 19 วัน เจ้าของได้โอน NFT นี้ไปยังกระเป๋าเงิน 7DDFFB ที่ไม่ระบุชื่อ และไม่มีการลิสอีกเลย
เมื่อพิจารณาถึงความหายากของ NFT การมีองค์ประกอบเดียวคิดเป็น 2% ของคอลเลกชัน นอกจากนี้ ยังมีผ้าโพกหัวที่มีเพียง 5% ของคอลเลกชัน และสุดท้ายคือ #5822 มีรูปร่างเป็นเอเลี่ยน ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่าเป็นสกินที่หายากที่สุด (โอกาส 0.09%) และด้วยคุณสมบัติที่หายากทั้งหมดนี้ จึงทำให้ CryptoPunk #5822 กลายเป็นหนึ่งใน NFT ที่แพงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
6. CryptoPunk #7523
CryptoPunk #7523 เป็น cryptopunk แพงที่สุดเป็นอันดับสองที่เคยขาย ในราคา 11.75 ล้านดอลลาร์! ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีกระเป๋าเงินเสนอราคาที่ 20,400 ETH หรือเท่ากับได้ 65 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การประมูลดังกล่าวถูกยกเลิกไปเสียก่อน นอกจากนี้ ก็มีการเสนอราคาอีกหลายครั้ง เช่น Pranksy นักสะสม NFT ที่มีชื่อเสียง เสนอราคาที่ 800 ETH จาก คิดเป็น 1.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งการประมูลครั้งดังกล่าวก็ถูกยกเลิกเช่นกัน การเสนอราคาหลายต่อหลายครั้งนี้ ตอกย้ำว่าผู้คนให้ความสนใจกับคอลเลกชัน CryptoPunk มากเพียงใด
เมื่อพิจารณาถึงความหายากของ NFT แล้ว ถือว่ามีคุณลักษณะที่หายากหลายประการ ประการแรกคือ การเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันเอเลี่ยนที่มีเพียง 0.09% ของ CryptoPunk ทั้งหมด การมีคุณลักษณะ 3 ประการ คิดเป็น 24% ของคอลเลคชั่น การมีต่างหูคิดเป็น 25% ของคอลเลคชั่น การมีลักษณะเฉพาะที่หายากกว่าเล็กน้อย ได้แก่ หมวกถักนิตติ้ง คิดเป็น 4% ของคอลเลกชัน และการมีหน้ากากทางการแพทย์ คิดเป็น 2% ของคอลเลกชัน คุณลักษณะที่หายากทั้งหมดนี้ ล้วนแต่ตอกย้ำถึงความหายากของ NFT ชิ้นนี้
7. CryptoPunk #4156
NFT ที่แพงที่สุดเป็นอันดับเจ็ด เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชัน CryptoPunk เช่นกัน #4156 ถูกขายไปเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว ในราคา 2500 ETH ซึ่งเท่ากับ 10.26 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้น สิ่งที่แตกต่างจาก CryptoPunk 2 รายการก่อนหน้า ก็คือ #4156 ถูกขายได้หลายครั้งตลอดอายุการใช้งาน โดยเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว ขายได้ 650 ETH แม้ว่าผู้ขายอาจจะตำหนิตัวเองที่ขายไปในราคานี้ และก่อนหน้านี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็ขายได้ 3.29 ETH หลังจากสร้างเสร็จเพียงไม่กี่เดือน
เมื่อพิจารณาถึงความหายากของ NFT สามารถเข้าใจได้ว่าทำไม CryptoPunk ชิ้นนี้จึงสร้างมูลค่าได้สูงเช่นนี้ ส่วนประกอบอย่างผ้าโพกหัว มีเพียง 5% และตัวละครลิงมีเพียง 0.24% ของคอลเลกชัน โดยตัวละครลิงเป็นสกินที่หายากเป็นอันดับสองรองจากสกินเอเลี่ยน นอกจากนี้ ยังมีองค์ประกอบเดียวที่มีเพียง 2% ของคอลเล็กชันเท่านั้น แม้ว่าตามทฤษฎีแล้ว NFT นี้จะหายากน้อยกว่าเอเลี่ยนตัวอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อมูลค่าขึ้นมาถึงจุดหนึ่ง ๆ ดูเหมือนว่านักลงทุนจะสนใจในรูปลักษณ์ของงานศิลปะ มากกว่าความหายาก
8. CryptoPunk #3100
CryptoPunk #3100 เคยเป็นมี NFT ที่แพงที่สุดก่อนหน้านี้ ซึ่งขายได้ในราคา 4200 ETH หรือเท่ากับ 7.67 ล้านดอลลาร์ในขณะนั้น ซึ่งการขาย #3100 เกิดขึ้นครั้งเดียวตั้งแต่สร้างเสร็จเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
การมีลักษณะเป็นเอเลี่ยนที่มีเพียง 0.09% ของคอลเลกชัน ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผลักดันมูลค่าของ NFT นอกจากนี้ การมีแถบคาดศีรษะที่มีเพียง 4% ของคอลเลคชัน และการมีองค์ประกอบเดียวที่มีเพียง 2% ของคอลเล็กชันเท่านั้น คุณลักษณะที่หายากทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นเหตุผลว่าทำไมมูลค่าของ NFT ชิ้นนี้ถึงสูงมาก
9. CryptoPunk #7804
ภาพ NFT ที่แพงที่สุดเป็นอันดับเก้า เป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชัน CryptoPunk ซึ่งเป็นชุดของตัวละครที่ไม่ซ้ำกัน 10,000 ตัว ที่เก็บไว้ในบล็อคเชน Ethereum และจะไม่มี CryptoPunk สองตัวที่เหมือนกันทุกประการ จึงทำให้ CryptoPunk เหล่านี้มีมูลค่าสูง ซึ่งตอนที่ CryptoPunks เปิดตัวในช่วงแรก ถือเป็นของฟรีสำหรับทุกคนที่มีกระเป๋าเงิน Ethereum
CryptoPunk #7804 มีลักษณะเฉพาะที่หายากที่สุดในคอลเลกชันทั้งหมด ตัวอย่างเช่น มีลักษณะเป็น ‘เอเลี่ยน’ ที่มีเพียง 0.09% ของคอลเลกชัน นอกจากนี้ ยังมีไปป์ซึ่งมีเพียง 3% ของคอลเลกชัน และคุณลักษณะ เงาเล็กๆ ยังเพิ่มความหายากขึ้นไปอีก เพราะมีเพียง 4% ของคอลเลกชัน สุดท้ายคือคุณลักษณะการสวมหมวกที่มีเพียง 3% ของคอลเล็กชัน เมื่อคุณสมบัติทั้งหมดเหล่านี้รวมกัน ทำให้ CryptoPunk #7804 หายากมาก และด้วยเหตุนี้ จึงจัดเป็น NFT ที่แพงที่สุด 10 อันดับแรกของเรา
การขาย #7804 ที่ 6.6 ล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวตั้งแต่สร้างเสร็จเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่การได้มาฟรีและสร้างกำไรมูลค่ากว่า 6 ล้านเหรียญ ก็ถือเป็นผลตอบแทนการลงทุนที่ดีในความเห็นของเรา!
10. Beeple’s Crossroad
ภาพ ‘Crossroad’ ของ Beeple ผู้เป็นศิลปินชื่อดัง เคยเป็น NFT ที่แพงที่สุดที่เคยขายได้ ในราคา 6.6 ล้านดอลลาร์บน NFT Exchange Nifty Gateway งานชิ้นนี้แสดงให้เห็นร่างที่เคร่งขรึมกำลังนอนอยู่บนพื้น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทรัมป์ หลังจากที่เขาแพ้การเลือกตั้งให้กับโจไบเดน ในปี 2020 สิ่งที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับ NFT นี้ คือ การวางขายก่อนการเลือกตั้ง และภาพจะเปลี่ยนแปลงไปตามผลการเลือกตั้ง
Beeple เป็นศิลปินที่ได้รับรางวัล และมีผู้ติดตามมากกว่า 1.8 ล้านคนบน Instagram และเคยร่วมมือกับแบรนด์ดังมากมาย เช่น Nike, Louis Vuitton และอื่น ๆ ทั้งนี้ รูปภาพ NFT ที่แพงที่สุดอันดับสี่ของเรา ที่ชื่อว่า HUMAN ONE ก็ได้รับการออกแบบโดย Beeple เช่นกัน ซึ่งงานชิ้นนั้นจะเน้นไปที่การแสดงตัวตนของเขา
NFT ที่เป็นงานที่มีเพียงชิ้นเดียว จะสร้างความแตกต่างจากคอลเลกชันที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ เช่น Bored Ape Yacht Club เคยขาย Bored Ape NFT ที่แพงที่สุด โดยมีราคา NFT ลิงอยู่ที่ 2.3 ล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับ CryptoPunks ลักษณะที่มีความจำเพาะสูง เป็นเหตุผลที่ทำให้ขายได้ในราคาแพงเช่นนี้ ปัจจุบัน ราคาต่ำสุดของผลงาน Beeple บน Nifty Gateway อยู่ที่ 63,000 ดอลลาร์
NFT ที่น่าซื้อที่สุดตอนนี้ คืออะไร?
สำหรับนักลงทุนส่วนใหญ่ที่อ่านบทความนี้ NFT ข้างต้น มักจะสนใจ NFT นอกช่วงราคานี้! ต้องบอกว่ามีโครงการ NFT ขนาดเล็กจำนวนหนึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ซึ่งอาจจะมีการเติบโตอย่างมากในอนาคต เพื่อช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเวลาศึกษาโครงการเหล่านี้ด้วยตัวเอง เราได้เลือกหนึ่งใน NFT น่าลงทุนที่สุด ที่คิดว่าอาจจะดังเป็นพลุแตกได้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นั่นก็คือ Tamadoge และ Lucky Block Platinum Rollers Club Collection
Lucky Block เป็นหนึ่งใน altcoins ที่น่าสนใจ ที่เข้ามาในตลาดคริปโตครั้งแรกเมื่อต้นปี 2022 เป้าหมายของคริปโต คือ การใช้เทคโนโลยีบล็อคเชนเพื่อสร้างระบบลอตเตอรีแบบใหม่ คอลเลกชัน Lucky Block จำนวน 10,000 NFT ทำหน้าที่เป็นตั๋วเข้าจับรางวัลประจำวัน ข่าวดีเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ การออกรางวัลเหล่านี้แยกส่วนต่างหากจากการจับสลาก Lucky Block แต่ยังคงให้รางวัลแจ็คพอตเฉลี่ยมากกว่า 10,000 ดอลลาร์ นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังได้ประกาศว่า เร็ว ๆ นี้จะมีแผนปล่อย Lamborghini Aventador เป็นรางวัลแจ็กพอตด้วย
สิ่งที่ฝังอยู่ในคอลเลกชัน คือ NFT ‘Rare Edition’ 25 รายการ ซึ่งแต่ละ NFT จะช่วยให้เจ้าของสามารถเพิ่มมูลค่าของแจ็คพอตได้เป็นสองเท่าหากพวกเขาชนะ Lucky Block NFT พร้อมใช้งานแล้วตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2022 ในราคา 1,500 ดอลลาร์ และกำลังฮิตติดกระแสเป็นอย่างมาก ทำให้มีสมาชิกมากกว่า 42,000 คน แล้วในกลุ่ม Telegram ของ Lucky Blocks
ด้วยความนิยมอย่างสูง ประกอบกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของโทเค็น Lucky Block ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 3200% ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกบน PancakeSwap สิ่งนี้อาจทำให้ Lucky Block NFT ได้รับผลตอบแทนที่สูงได้
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง
วิธีซื้อ Lucky Block NFT
เราได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lucky Block NFT ที่น่าสนใจไปแล้ว มาดูกันว่าคุณจะสามารถลงทุนใน NFT ได้อย่างไร เราจะแนะนำ 5 ขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้:
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งค่ากระเป๋าเงินคริปโต และเติมเงิน
ขั้นตอนแรกคือการตั้งค่ากระเป๋าเงินคริปโต และเติมเงิน มีกระเป๋าเงินที่แตกต่างกันมากมาย และต่างมีฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์ หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากที่ใด ลองอ่านบทความ crypto wallet ที่ดีที่สุด เพื่อดูตัวเลือกที่เราแนะนำ
เมื่อเลือกกระเป๋าเงินได้แล้ว คุณต้องสร้างบัญชีในแพลตฟอร์มนั้น ๆ โดยไปที่เว็บไซต์ และทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ คุณจะต้องกรอกรายละเอียดส่วนบุคคลบางอย่างในขั้นตอนนี้ และจะต้องยืนยันบัญชีส่วนตัวโดยใช้บัตรประจำตัวเมื่อขั้นตอนนี้เสร็จสิ้น คุณสามารถเติมเงินด้วยวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละโบรกเกอร์
เมื่อคุณฝากเงินแล้ว คุณจึงจะสามารถซื้อเหรียญคริปโตที่จำเป็นสำหรับการซื้อ Lucky Block ได้ เนื่องจาก Lucky Block NFT ทำงานบน Binance Smart chain ดังนั้น คุณจะต้องซื้อเหรียญ BNB ก่อนที่จะซื้อ Lucky Block NFT
ขั้นตอนที่ 2: สร้างบัญชี MetaMask
ตอนนี้คุณได้สร้างและฝากเงินเข้ากระเป๋าเงินคริปโตแล้ว คุณต้องสร้างบัญชี MetaMask เพื่อเชื่อมต่อการซื้อขาย NFT กระบวนการนี้ค่อนข้างง่าย เพียงแค่คุณไปที่เว็บไซต์ MetaMask และลงทะเบียนตามคำแนะนำบนหน้าจอ
ในขั้นตอนนี้ MetaMask จะให้ recovery phrase มา 12 คำ ซึ่งคุณต้องจำไว้ เพื่อใช้ลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์อื่น ๆ
ขั้นตอนที่ 3: เชื่อมต่อกระเป๋าเงินกับบัญชี MetaMask
ตอนนี้คุณได้ตั้งค่ากระเป๋าเงินและบัญชี MetaMask แล้ว ขั้นต่อไปคือ การเชื่อมต่อทั้งสองเข้าด้วยกัน โดยมี 2 วิธี วิธีแรก คือ การใช้ seed phrase โดยให้คลิกปุ่ม ‘Import with Seed Phrase‘ และกรอก Seed Phrase ของคุณ
ใส่รหัสผ่าน MetaMask เท่านี้บัญชีของคุณจะได้รับการตั้งค่า ส่วนวิธีที่ 2 คือ การใช้กุญแจส่วนตัว หรือไฟล์ JSON โดยไปที่บัญชีนำเข้า และเลือกวิธีที่คุณต้องการใช้ จากนั้นให้ใส่กุญแจส่วนตัวหรือไฟล์ JSON เพื่อเชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณ
ขั้นตอนที่ 4: เชื่อมต่อบัญชี MetaMask กับเว็บไซต์ Lucky Block
ตอนนี้คุณได้เชื่อมกระเป๋าเงินกับบัญชี MetaMask แล้ว คุณสามารถเริ่มต้นเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ decentralised ได้ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ Launchpad NFT marketplace ซึ่ง Lucky Block NFT จะอยู่ในตลาดรอง จากนั้นเข้าสู่บัญชี MetaMask คลิกที่แถบซ้ายบน และเชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณ
ขั้นตอนที่ 5: ซื้อ Lucky Block NFT
เมื่อคุณเชื่อมต่อกระเป๋าเงินเข้ากับเว็ปไซต์แล้ว คุณสามารถเลือกดูรายการ Lucky Block NFT ได้ หากต้องการซื้อให้คลิกที่รูปภาพและคลิกปุ่มซื้อได้เลย เหรียญ BNB จะถูกหักจากกระเป๋าโดยอัตโนมัติผ่าน MetaMask และคุณจะเป็นเจ้าของ NFT ทันที!
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง
บทสรุป
โดยรวมแล้ว ตลาด NFT เติบโตอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2020 ในบทความนี้ เราได้เจาะลึกถึง NFT ที่แพงที่สุด โดยมี CryptoPunks ครองแชมป์ และมีแนวโน้มจะได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาล นอกจากนี้ ทั้ง Pak และ Beeple ก็เป็นศิลปินเจ้าของ NFT ที่แพงที่สุด 10 อันดับแรกหลายรายการ ซึ่งตอกย้ำความสำเร็จของพวกเขาในวงการนี้
แม้ว่า NFT เหล่านี้ จะราคาสูงกว่าช่วงการยอมรับของนักลงทุน NFT ทั่วไป แต่ก็มีโครงการเกิดใหม่จำนวนมาก ที่อาจให้ผลตอบแทนสูงในอนาคต โครงการ NFT ที่ได้รับคะแนนสูงสุดและกำลังมาแรง คือ Lucky Block Platinum High Rollers Club ที่ใช้ NFT เปลี่ยนโฉมลอตเตอรีรูปแบบเดิม และการเติบโตอย่างรวดเร็วของเหรียญ Lucky Block ก็ตอกย้ำถึงความนิยมของโครงการ หากคุณสนใจจะซื้อ Lucky Block NFT ให้ไปที่เว็บไซต์ Lucky Block ตอนนี้
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง