ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาตลาด NFT มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่การเลือกหาโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่ดีที่สุด ที่มีทีมพัฒนา ยูทิลิตี้ และแผนต่อยอดโปรเจกต์ที่มีประสิทธิภาพ นั้นเป็นเรื่องยาก แต่เรามีทางแก้ปัญหานี้ให้คุณ
ซึ่งคู่มือนี้จะนำเสนอโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่น่าลงทุน ซึ่งเป็นโปรเจกต์ที่มีประสิทธิภาพและมีความโดดเด่นมากกว่าโปรเจกต์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น RobotEra, IMPT, Tamadoge, Battle Infinity, Girls, Robots, Dragons, Yubo, และ Lucky Block โปรเจกต์เด่นน่าจับตามองมากที่สุด
รวม 7 โปรเจกต์ nft ราคาถูกของปี 2024
ด้านล่างนี้คือภาพรวมโดยย่อของสิ่งที่เราเลือกสำหรับ NFT ราคาถูกที่ดีที่สุดในการซื้อ นอกจากนี้ สามารถดูบทวิจารณ์โดยละเอียดสำหรับแต่ละโครงการได้ในหัวข้อถัดไป
- RobotEra – โปรเจกต์ nft ราคาถูกแห่งโลก Metaverse โดยรวมดีที่สุดที่เพิ่งเปิดขายพรีเซล
- IMPT – โปรเจกต์ nft ราคาถูกชั้นนำที่แก้ไขปํญหาภาวะโลกร้อน
- Tamadoge – โปรเจกต์ nft ราคาถูกที่ดีที่สุดบน Opensea
- Battle Infinity– เกม NFT Reward ยอดนิยม
- Lucky Block NFT– คอลเลกชัน NFT ที่ดีที่สุดและการลุ้นรางวัล
- Girls, Robots, Dragons – โปรเจกต์คอลเลกชัน NFT แฟนตาซีและไซไฟ
- Yubo – โครงการ NFT ดิจิทัลพิกเซลอาร์ตน่าลงทุน
เจาะลึกรายละเอียดโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่สุด
จากตัวเลือกมากมาย การเลือกโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่ดีที่สุดอาจใช้เวลานาน เพื่อให้การตัดสินใจง่ายขึ้น เราควรพิจารณารายละเอียดและทำความเข้าใจถึงโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่ดีที่สุด โดยสิ่งสำคัญคือคุณต้องเข้าใจก่อนว่า NFT คืออะไร?
1. RobotEra – โปรเจกต์ nft ราคาถูกแห่งโลก Metaverse โดยรวมดีที่สุดที่เพิ่งเปิดขายพรีเซล
โครงการ NFT ราคาถูกที่ดีที่สุดโดยรวมของเราที่น่าลงทุนในปี 2024 คือ RobotEra – ระบบนิเวศเกมแบบ metaverse ที่ช่วยให้ผู้เล่นใช้ประโยชน์จากโปรโตคอล NFT เพื่อเข้าถึงระบบนิเวศเสมือนจริงและสร้างรายได้จากมันด้วยวิธีต่างๆ
RobotEra ใช้ TARO เป็นสกุลเงินในเกม และปัจจุบันโทเค็น ERC-20 พร้อมให้ซื้อในช่วงรอบแรกของการขายพรีเซล
รายงานของ DappRadar คาดว่าโทเค็นเกมสามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ในช่วงตลาดซบเซา และยิ่งไปกว่านั้น การลงทุนของ Crypto Venture Capitalist ในโครงการเกมคาดว่าจะสูงถึง 12 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2022
ดังนั้น นักลงทุนจึงมองหาโทเค็น metaverse ที่ดีที่สุดตัวต่อไป ในขณะที่โครงการต่างๆ เช่น The Sandbox เพิ่มขึ้น 1,000 เท่าตั้งแต่เปิดจำหน่าย TARO นำเสนอกรณีการใช้งานและความสามารถที่ไม่เหมือนใครเพื่อให้ได้ผลตอบแทนแบบเดียวกัน
ใน metaverse ของ RobotEra สามารถใช้ TARO เพื่อซื้อ Robot NFT โดย NFT จะเป็นตัวแทนของอวาตาร์ในเกมของผู้ใช้ภายใน Taro Planet – โลก metaverse ของ RobotEra
จะมีหุ่นยนต์ NFT ทั้งหมด 10,000 ตัว ซึ่งแต่ละตัวมีลักษณะพิเศษเฉพาะ และผู้เล่น Taro ยังสามารถซื้อแปลงที่ดิน metaverse เสมือน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ NFT อื่นภายในระบบนิเวศ
เอกสารข้อมูลของ RobotEra ระบุว่าผู้เล่นสามารถขยายดินแดนของตนเพื่อเริ่มดึงทรัพยากรใหม่และสร้างชุมชนของตนเองได้
ผู้เล่นจะมีโอกาสเช่าที่ดิน แลกเปลี่ยน NFT ในตลาด และแม้แต่แข่งขันในภารกิจออนไลน์เพื่อรับรางวัล ตลอดจนจัดงานอีเวนต์และคอนเสิร์ต – การเรียกเก็บเงินค่าเข้าชม – หรือขายพื้นที่โฆษณาบนป้ายโฆษณา
โทเค็นยูทิลิตี้อันดับต้น ๆ TARO ยังเสนอความสามารถในการ staking เพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟและการเข้าถึงองค์กรอิสระที่กระจายอำนาจของ RobotEra
ขณะนี้ TARO อยู่ในรอบที่หนึ่งของการขายพรีเซลจากทั้งหมดสามรอบ และ RobotEra ซึ่งมีทีมงานที่ได้รับการรับรองจาก doxxed และ KYC และเป็นโครงการ LBank Labs ได้จัดสรรโทเค็น 270 ล้านโทเค็นสำหรับการขายพรีเซล ซึ่งคิดเป็น 15% ของอุปทานทั้งหมด
รอบที่หนึ่งกำลังขาย TARO อยู่ที่ $0.02 ต่อโทเค็น โดยราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น $0.025 ในรอบที่สองและเป็น $0.032 ในรอบสุดท้าย – ซึ่งคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 60%
ผู้ใช้สามารถอ่านคำแนะนำวิธีซื้อ RobotEra เพื่อเข้าถึงทราบว่าซื้อเหรียญช่วงพรีเซลยังไง สามารถเข้าร่วมช่อง RobotEra Telegram เพื่อติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับโครงการ
2. IMPT – โปรเจกต์ nft ราคาถูกชั้นนำที่แก้ไขปํญหาภาวะโลกร้อน
IMPT กำลังแข่งกันผ่านช่วงพรีเซลล์และกำลังสร้างในพื้นที่ที่มีการเติบโตอย่างมาก และมีเป้าหมายเพื่อช่วยบรรเทาหนึ่งในปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดของโลก ซึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โปรโตคอลใหม่ซึ่งขายหมดรอบที่ 1 ของการขายพรีเซล หลังจากระดมทุนได้มากกว่า 11 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงสามสัปดาห์ จะเปลี่ยนคาร์บอนเครดิตเป็น NFT และทำให้สามารถซื้อขายได้อย่างเต็มที่ในตลาดใหม่
คาร์บอนเครดิตเป็นใบอนุญาตที่อนุญาตให้บริษัทต่างๆ ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อแลกกับเงินทุนโครงการอนุรักษ์ โดยหนึ่งคาร์บอนเครดิตเท่ากับหนึ่งตันของ CO2
ด้วยการเสนอคาร์บอนเครดิตเป็น NFTs โดยทางแพลตฟอร์ม IMPT จะลดการฉ้อโกงในตลาดด้วยเครดิตที่อยู่ในบัญชีแยกประเภทที่โปร่งใสและโปร่งใส
นักลงทุนจะสามารถซื้อและขายคาร์บอนเครดิตได้ตามที่เห็นสมควร หรือถือเป็นการลงทุนระยะยาว
ในขณะที่ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจประจำปีมีมูลค่าเพียง 2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี แต่ Bloomberg ประเมินว่าตลาดดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นถึง 100 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นทศวรรษนี้
ผู้ถือยังสามารถเลือกที่จะ ‘เลิกใช้’ คาร์บอนเครดิต โดยลบออกจากบล็อกเชนอย่างถาวรเพื่อปรับปรุงคะแนนการชดเชยคาร์บอน และส่งกลับ NFT ที่ไม่ซ้ำใครและสามารถนำไปขายต่อได้
นอกจากการแลกเปลี่ยนแล้ว โทเค็น IMPT ซึ่งสามารถแปลงเป็นคาร์บอนเครดิต NFT และเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตน่าลงทุนที่สุดในขณะนี้ สามารถรับได้ในขณะที่ทำการช้อปปิ้งตามปกติ
โครงการนี้ได้ร่วมมือกับแบรนด์ย่อยมากกว่า 10,000 รายเพื่อให้ผู้ซื้อได้รับโทเค็น IMPT เป็นเปอร์เซ็นต์ของการขาย
Amazon และ Microsoft เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกที่ได้เป็นพันธมิตรกันไปแล้ว
นอกจากนี้ ผู้ซื้อสามารถเลือกทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นโดยเลือกแบรนด์ที่เสนอเปอร์เซ็นต์โทเค็นที่ได้รับที่มากขึ้น
ขณะนี้ IMPT อยู่ในรอบที่สองของการขายพรีเซล โดยมีการขายโทเค็นในราคา $0.023 ต่อเหรียญ
รอบที่สามและรอบสุดท้ายจะเห็นราคาโทเค็นเพิ่มขึ้นเป็น $0.028 – เพิ่มขึ้น 22% จากขั้นที่ 2 และเพิ่มขึ้น 55% จากรอบที่ 1
สร้างขึ้นบน Ethererum บล็อกเชนที่ประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ IMPT ยังมีทีมงานที่ได้รับการตรวจสอบ KYC และตรวจสอบที่อยู่อัจฉริยะแล้ว
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ โปรดอ่านเอกสารข้อมูลของ IMPT หรือเข้าร่วมกลุ่ม Telegram
3. Tamadoge – โปรเจกต์ nft ราคาถูกที่ดีที่สุดบน Opensea
Tamadoge เกม NFT ใน Tamaverse ที่เป็นส่วนผสมของเกม P2E และ NFT กับการรวมเกมเข้ากับ Metaverse ในอีกไม่นาน และเป็นโทเค็น ERC-20 กับการเทรดแบบไม่เก็บภาษีการซื้อของเพื่อส่งเสริมซื้อขายในระบบนิเวศ
สิ่งที่ทำให้ Tamadoge ต่างจาก Dogecoin คืออุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไป กับการเผาโทเค็น 5% จากทุกการทำธุรกรรม และอีก 65% จะใช้ในการออกรางวัลให้แก่ผู้เล่น และอีก 30% ที่เหลือจะใช้ในการโปรโมตและพัฒนาแพลตฟอร์ม
เพื่อรับรางวัลจากแพลตฟอร์ม ผู้เล่นจะต้องซื้อ NFT เพื่อเลี้ยง Tamadoge และยังสามารถซื้อของเล่นและเครื่องประดับเพื่อเอามาใช้พัฒนาสัตว์เลี้ยง สิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดการจัดอันดับของผู้เล่นใน leaderboard และผู้เล่นที่ชนะก็จะได้รางวัลสูงสุดจากกองเงินรางวัล และในอีก 10 ปี Tamadoge จะทำการปลดล็อก 30% ของอุปทานเหรียญเพื่อขายให้นักลงทุน
โปรเจกต์นี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งสามารถปิดพรีเซลด้วยมูลค่าที่สูงถึง 19 ล้านดอลลาร์ และหลังจากการลิสต์ขึ้นกระดานแลกเปลี่ยน OKX centralized exchange (CEX) และ OKX decentralized exchange (DEX) ทำให้โทเค็น TAMA มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบ 20 เท่าจากราคาพรีเซล
แนวโน้มในการใช้โทเค็น TAMA จะเพิ่มขึ้น ด้วยการออก Tamadoge NFTs หายากที่จะช่วยให้ผู้เล่นได้เปรียบในการแข่งขันที่จะเปิดตัวในอนาคต กับ NFT หายาก 1,000 รายการและ NFT ทั่วไปอีกกว่า 20,000 รายการ
และโปรเจกต์ก็ยังมีการพัฒนาในด้านอื่นด้วย ได้แก่ การพัฒนาแอป การรองรับ VR Headset รวมถึง Tamdoge P2E arcade ขอแนะนำว่าก่อนที่ราคาจะดีดตัวสูงไปกว่านี้ คุณควรจะเริ่มลงทุนใน TAMA ไว้ก่อนเลยดีกว่า
และ TAMA NFTs ก็พร้อมให้คุณซื้อบน Opensea แล้วตอนนี้
4. Battle Infinity – เกม NFT Reward ยอดนิยม
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนใน NFT อาจต้องเจอปัญหาราคาของโปรเจกต์ที่มีการเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัวจากราคาเปิดตัว นั่นทำให้การเข้าถึง NFT ที่น่าสนใจทำได้ยาก
แต่ Battle Infinity (IBAT) หนึ่งในโปรเจกต์ NFT ราคาถูกที่น่าจับตามอง เป็นเกม Metaverse ก็ได้เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้สัมผัสกับโปรเจกต์แห่งปี 6 แพลตฟอร์ม ที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว Battle Infinity เป็นโครงการลงทุนที่เปิดกว้างสำหรับนักลงทุนทุกคน และโปรเจกต์นี้ก็ยังได้รับ KYC-verified จาก CoinSniper เป็นเหมือนไฟเขียวที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้มีส่วนร่วมกับโครงการได้
ระบบนิเวศของ Battle Infinity จะประกอบด้วย 6 แพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน ได้แก่ IBAT Premier League (ลีกกีฬาแฟนตาซี), IBAT Battle Area (โลกเมตาเวิร์ส), IBAT Battle Games (แพลตฟอร์มเกมการแข่งขัน), IBAT Battle Stake (stake IBAT และคริปโต), IBAT Battle Swap (DeFi exchange) และยังมีตลาด NFT ที่ชื่อ IBAT Battle Market ด้วย
โปรเจกต์ Battle Infinity ขับเคลื่อนโดย BEP-20 $IBAT token โดยจะมีการจำกัดอุปทานเหรียญไว้ที่ 10 พันล้าน ซึ่ง $IBAT token จะถูกมอบเป็นรางวัลแก่ผู้เล่นสำหรับการเล่นเกม ชิงรางวัล และการซื้อพื้นที่โฆษณาบนโลกเสมือนจริง
Battle Infinity โปรเจกต์เปิดตัวใหม่ที่ตอบโจทย์นักลงทุนด้วยช่องทางหารายได้ที่หลากหลาย โปรเจกต์นี้ยังสามารถปิดพรีเซลได้ภายใน 24 วันหลังเปิดตัวเท่านั้น ซึ่งคุณสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ Battle Infinity และการเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของโปรเจกต์
5. Lucky Block NFT – คอลเลกชัน NFT ที่ดีที่สุดและการลุ้นรางวัล
ถึงแม้ Lucky Block จะโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่สุด แต่ถ้าลองดูที่ผลตอบแทนแล้วนี่ถือเป็น nft ราคาถูกที่น่าสนใจมาก ๆ กับโปรเจกต์ ‘Platinum High Rollers Club’ คอลเล็กชัน NFT หมายเลขไม่ซ้ำกันกว่า 10,000 รายการ ซึ่งที่จะมอบโบนัสให้กับผู้ถือและสิทธิในการจับรางวัล
ผู้ถือ Platinum High Rollers จะได้รับสิทธิการลุ้น Lucky Block รางวัลรายวันฟรีตลอดชีพ กับแจ็คพอตมูลค่าเฉลี่ย 10,000 ดอลลาร์ และก็ยังมี NFT Platinum High Roller ที่เป็น ‘Rare Editions’ 25 รายการ ที่จะให้สิทธิ์เพิ่มแจ็คพอตเป็นสองเท่า (20,000$) และนอกเหนือจากการจับรางวัลแบบรายวัน เจ้าของ NFT ก็ยังมีสิทธิ์ได้รับสุดยอดรางวัลเป็น Lamborghini Aventador มูลค่า 300,000$ อีกด้วย
นักลงทุนสามารถซื้อ NFT ได้ในราคา 3.75 BNB และในช่วงตลาดขาลงนี่คือโอกาสที่จะช้อนซื้อเก็บไว้ ซึ่งในตอนนี้ก็มีผู้ถือสิทธิ์จับรางวัลฟรีทุกวันอยู่ 2,000 ราย แต่โชคดีที่ยังมี NFT ของ Platinum High Roller ที่คุณสามารถซื้อได้อยู่ในตลาด
จากความสำเร็จของ LBLOCK ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของแพลตฟอร์มนี้ จะเห็นได้เลยว่าการลงทุนกับ Lucky Block สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงถึง 70 เท่า ทำให้นี่คือโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่ให้ผลตอบแทนสูงมากตัวหนึ่งเลย และถ้าคุณจะลงทุนก็ไม่จำเป็นต้องเลือก Platinum High Roller Club ก็ได้ เพราะเพียงการใช้งานแอป Lucky Block คุณก็มีโอกาสที่จะได้สิทธิ์จับรางวัลในราคาเริ่มต้นที่ 5$ เท่านั้น
และจากการเปิดตัวของคอลเลกชัน Platinum High Roller Club ทำให้นี่คือโอกาสที่คุณจะลงทุนในโปรเจกต์ nft ราคาถูกก่อนใคร กับการลงทุนระยะยาวที่จะให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นในอนาคต นับเป็นหนึ่งตัวเลือกการลงทุนที่คุ้มค่าสุด ๆ
6. Girls, Robots, Dragons – โปรเจกต์คอลเลกชัน NFT แฟนตาซีและไซไฟ
Girls, Robots, Dragons โปรเจกต์ NFT ราคาถูกที่เปิดตัวด้วยการพรีเซลกับ NFT กว่า 3,000 รายการ ซึ่งนี่คือตัวเลือก NFT ที่น่าลงทุนซึ่งมีแนวโน้มที่จะให้ผลตอบแทนแก่นักลงทุนได้สูงในอนาคต
ซึ่งใน NFT ชุดนี้ จะประกอบไปด้วยคอลเลกชันงานที่น่าสนใจในธีมแฟนตาซีและไซไฟ ทั้ง Girls, Robots, และ Dragon จากผลงานของศิลปินระดับแนวหน้าจากงานอาร์ตของเกม Hearthstone
และในอนาคตโปรเจกต์นี้ก็จะมีการดรอป NFT พร้อมกับการลงทุนในอรรถประโยชน์จาก NFT ซึ่งนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของเกมเทรดดิ้งการ์ด NFT แฟนตาซีและไซไฟระดับพรีเมียมในชื่อเดียวกันด้วย
7. Yubo – โครงการ NFT ดิจิทัลพิกเซลอาร์ตน่าลงทุน
หากคุณต้องการลงทุนในโปรเจกต์ NFT ราคาถูกในสไตล์พิกเซลอาร์ต ต้องลองมาดูที่คอลเลกชัน Randos จาก Yubo แอปโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยมกับการเชื่อมต่อผ่านการสตรีมสด
คอลเลกชัน Randos ของ Yubo จะประกอบด้วยงานดิจิทัลอาร์ตกว่า 10,000 ชิ้นที่โฮสต์บน Ethereum ซึ่ง NFT แต่ละรายการจะแสดงภาพตัวละครแบบพิกเซล 2 มิติ ซึ่งได้รับการออกแบบโดยศิลปินชื่อดังอย่าง BanFan
การลงทุนใน Rando NFT จะช่วยสร้างรายได้แบบพาสซีฟให้กับนักลงทุน เนื่องจากผู้ถือ NFT จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ของ Yubo จากกิจกรรมในแอป นอกจากนี้ก็ยังจะได้รับอวาตาร์ 3 มิติสุดพิเศษใน ‘Yubovere’ โปรเจกต์ metaverse ใหม่ของ Yubo
ซื้อโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่ไหนดี
การเลือกตลาดเพื่อซื้อโปรเจกต์ nft ราคาถูกมีความสำคัญพอๆ กับการเลือกคอลเลกชันที่ดี เพื่อให้เรื่องนี้ง่ายขึ้น เราขอแนะนำตลาดการลงทุน NFT ที่ดีที่สุดเอามาให้คุณดูแล้ว
1. Crypto.com
Crypto.com หนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่มีชื่อเสียง กับผู้ใช้งานกว่า 50 ล้านคนในหลายประเทศ และเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ได้มีการเปิดตัวแพลตฟอร์ม NFT ใหม่ในชื่อ Crypto.com NFT Marketplace
ตลาด NFT ของ Crypto.com ถือเป็นตลาดที่ยังใหม่อยู่ แต่ถ้าดูที่การเติบโตแล้วถือว่าทำได้ดีเลย ซึ่งน่าจะเป็นผลจากฐานผู้ใช้งานจำนวนมากของแพลตฟอร์ม Crypto.com กับ NFT หลายรายการให้เลือกลงทุน ที่มาพร้อมกับเครื่องมือให้ใช้งานที่ทำให้การค้นหาและลงทุนใน โปรเจกต์ nft ราคาถูกทำได้ง่ายสุด ๆ
เพื่อเป็นการปกป้องนักลงทุน ทาง Crypto.com กำหนดให้แต่ละโปรเจกต์ในตลาดต้องผ่านการตรวจสอบที่เข้มงวด ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียม ตลาด Crypto.com ให้ผู้ใช้งานเทรด NFT ได้ฟรี โดยมีการคิดค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยสำหรับการแลกเปลี่ยนคอลเลกชัน NFT (ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบโปรเจกต์)
ธุรกรรมบนแพลตฟอร์มนี้จะถูกเก็บไว้ใน Crypto.org Chain นั่นคือเหตุผลว่าทำไมตลาด Crypto.com ถึงให้ผู้ใช้งานเทรด NFT ได้ฟรี และในตลาดก็มีคริปโตหลายรายการให้เลือกลงทุน กับคอลเลกชันที่โดดเด่นที่ราคาไม่ได้สูง แต่ตัวเลือกในการจ่ายยังคงมีเฉพาะการฝากเงินเข้าบัญชีเท่านั้น ระบบยังไม่รองรับการซื้อด้วยบัตรเดบิต/เครดิต
ข้อดี
- มี nft ราคาถูกให้เลือกจำนวนมาก
- มีกระบวนการตรวจสอบโปรเจกต์
- การทำธุรกรรมในราคาถูก
- การออกแบบแพลตฟอร์ที่ยอดเยี่ยม
ข้อเสีย
- ตัวเลือกการชำระเงินที่ยังคงเป็นระบบเงินสดฝากเข้าระบบเพียงอย่างเดียว
2. Coinbase
แพลตฟอร์ม Coinbase NFT เป็นหนึ่งในตลาดที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ในช่วงต้นปี 2022 ซึ่งมีคอลเลกชัน NFT ที่น่าสนใจมากมายให้แก่นักลงทุน
ใน Coinbase มีทั้งโปรเจกต์ยอดนิยมและมีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น NFT ที่ประสบความสำเร็จอย่าง Bored Ape Yache Blub หรือ Mutant Apes และ NFT คอลเลกชันโปรเจกต์ nft ราคาถูกอื่น ๆ
ซึ่งข้อดีของ Coinbase ก็คือการเป็นแอป DeFi ที่ดีที่สุด เหมาะกับผู้ใช้ทุกประเภททั้งมือใหม่และนักลงทุนมืออาชีพ และมีความปลอดภัยสูงด้วยการควบคุม private keys ในการเข้าถึงบัญชีของผู้ใช้งาน
ข้อดี
- ตัวเลือก NFT ที่หลากหลายน่าลงทุน
- แอป NFT ที่เหมาะกับนักลงทุนทุกกลุ่ม
ข้อเสีย
- การกำหนดค่าธรรมเนียมอาจยังไม่ชัดเจน
3. NFT LaunchPad
NFT LaunchPad ได้เปิดตัวไปในช่วงกุมภาพันธ์ 2022 ซึ่งนี่คือตลาดที่ยอดเยี่ยมในการค้นหาโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่ดีที่สุด กับการรองรับคอลเลกชันบนเครือข่าย Binance Smart Chain (BSC) และ Polygon (MATIC) หมายความว่าตลาดแห่งนี้จะมี nft ราคาถูกมากมายให้เลือกลงทุน ถึงแม้จะเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน NFT LaunchPad ก็มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นตลาดที่นักลงทุนหลายกลุ่มให้ความสนใจ
NFT แต่ละรายการบนแพลตฟอร์มนี้จะเทรดโดยใช้ Wrapped BNB (WBNB) ซึ่งมีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่น้อย นอกจากนี้ NFT Launchpad ยังได้รับการออกแบบอินเทอร์เฟซมาเป็นอย่างดีสามารถใช้งานง่ายและสะดวก
NFT LaunchPad ใช้ WBNB ทำให้ต้นทุนการทำธุรกรรมมีค่าใช้จ่ายที่ถูก ผู้ใช้สามารถสร้าง NFT ได้หลากหลายรูปแบบรวมไปถึง MP4 ผู้สร้าง NFT บนแพลตฟอร์มนี้จะสามารถจัดการกับลิขสิทธิ์ได้เต็มที่และสามารถกำหนดระดับความหายากของงานได้ รวมไปถึงการตั้งค่ารายละเอียดต่าง ๆ ที่ทำได้ง่ายสุด ๆ นี่ทำให้ NFT LaunchPad เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของทุกคนที่พยายามสร้างชุมชน NFT
โดยสรุป NFT Launchpad เป็นแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์แบบสำหรับการซื้อ ขาย และสร้าง NFT ที่ใช้งานได้ง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูง รวมถึงนี่ยังเป็นที่ตั้งของคอลเลกชัน Lucky Block Platinum High Rollers และโปรเจกต์อื่น ๆ มากมาย ซึ่งหมายความว่าที่นี่คือตลาดที่เหมาะสำหรับทุกคนที่กำลังมองหา โปรเจกต์ nft ราคาถูกเพื่อลงทุน
ข้อดี
- ใช้งานง่าย
- แพลตฟอร์มประสิทธิภาพสูง
- ความสามารถในการสร้างเหรียญที่ยอดเยี่ยม
- รองรับทั้ง BSC และ MATIC
- เรียนรู้การใช้งานได้ง่ายเหมาะสำหรับนักลงทุนทุกกลุ่ม
ข้อเสีย
- หากสามารถสนับสนุน NFT ที่สร้างบน ETH ได้จะดีกว่านี้มาก
บทสรุป
จากที่เราได้นำเสนอโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่สุดซึ่งเป็นโครงการที่น่าสนใจ สิ่งนี้ทำให้เห็นว่ามีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกโปรเจกต์ NFT ที่สำคัญที่สุดคือเรื่อง utility หรืออรรถประโยชน์ของมัน ซึ่งแต่ละโปรเจ็กต์ที่เราได้ลิสต์มานี้ก็มีทั้งที่น่าสนใจและยอดเยี่ยม
เราขอแนะนำ RobotEra เป็นโปรเจกต์ nft ราคาถูกที่สุดที่น่าลงทุนในตอนนี้
RobotEra แพลตฟอร์ม metaverse ช่วยให้ผู้เล่นซื้อโปรโตคอล NFT ต่างๆ ด้วย TARO – สกุลเงินหลัก– และสร้างและสร้างรายได้จากแปลงที่ดิน metaverse
ปัจจุบัน TARO อยู่ในขั้นตอนหนึ่งในการขายพรีเซลทั้งหมดสามรอบ โดยราคาปัจจุบันตั้งไว้ที่ $0.02 ต่อโทเค็น
Dash 2 Trade - เหรียญคริปโตใหม่มาแรง
- ขายพรีเซลหมดเร็วๆนี้ - ระดมทุนไปแล้วกว่า 15.2 ล้าน USD
- พันธมิตรกับ Cointelegraph
- Solid Proof รองรับ และ CoinSniper ยืนยันแล้วเช่นกัน
- คอมมูนิตี้นักเทรดกว่า 70,000 คน
- ลิสบน Bitmart Changelly Gate.io LBank CEX