เนื่องจากตลาด NFT เติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้สร้างและนักพัฒนาจึงมองหาประโยชน์ใช้งานใหม่สำหรับโทเค็นที่ไม่ซ้ำใคร ซึ่งก็คือ การ Staking โทเค็น เพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟนั่นเอง
ในคู่มือนี้ เราจะรีวิวโปรเจกต์ NFT Staking ที่ควรพิจารณาในปี 2024 นอกจากนี้ จะอธิบายด้วยว่า NFT staking คืออะไร? และนักลงทุนจะได้ประโยชน์อย่างไรจากกลยุทธ์นี้
โปรเจกต์ NFT Staking ที่ดีที่สุดในปี 2024
นี่คือ 13 อันดับ NFT Staking ที่ดีที่สุดในปี 2024:
- RobotEra – โปรเจกต์ NFT Staking โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2024
- Tamadoge – เหรียญมีม NFT ใหม่สำหรับการ Stake
- Silks – เกมแข่งม้าแบบ P2E
- Lucky Block – สุดยอดการแข่งขัน NFT ในตลาดคริปโต
- Quint – โปรเจ็กต์ NFT น่าตื่นตาตื่นใจที่มาพร้อมฟีเจอร์พิเศษ
- Mobox – เกม Play to Earn ที่มาพร้อมการทำฟาร์ม NFT
- Mutant Cats – สร้างรายได้จาก NFT ด้วยอวตาร์แมว
- Doge Capital – โปรเจกต์ NFT Staking ที่เกี่ยวกับ Pixel Art
- Famous Fox Federation – Stake NFT หลาย ๆ คอลเลกชั่น
- Wolf Game – เกม NFT ที่มาพร้อมการ Staking
- Axie Infinity – เกม P2E ยอดนิยม ที่ให้คุณได้ Stake โทเค็น LAND
- ZooKeeper – สร้างรายได้จาก NFT แบบ Gamified
- Roo Troop – โปรเจกต์ NFT ที่ได้รับการสนับสนุนโดยชุมชน
ก่อนตัดสินใจลงทุนใน NFT เพื่อวัตถุประสงค์ในการ Staking จำเป็นต้องพิจารณาถึงโอกาสเป็นสำคัญ
ในส่วนต่อไปนี้ เราจะรีวิวโปรเจกต์ NFT Staking ที่แสดงไว้ในรายการด้านบน โดยอธิบายฟีเจอร์หลักที่สำคัญของแต่ละโปรเจกต์
รีวิวโปรเจกต์ NFT Staking ที่ดีที่สุด
การ Staking ไม่ใช่แนวคิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่คุ้นเคยกับคริปโตเคอเรนซี่ดีอยู่แล้ว
ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ การ Staking ก็หมายถึงการฝาก NFT ไว้ในแพลตฟอร์ม DeFi เพื่อสะสมรางวัล โดยนักลงทุนต้องมี NFT อยู่ในกระเป๋าคริปโตก่อนเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น มี NFT จำนวนมากที่มีเครื่องมือ DeFi ในตัว ซึ่งทำให้กระบวนการที่ว่านี้สะดวกมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่า NFT ทั้งหมดจะสามารถใช้ Staking ได้ เพราะมี NFT เพียงไม่กี่โปรเจกต์เท่านั้นที่รองรับฟีเจอร์นี้
เราจะรวบรวมการรีวิวโปรเจกต์ NFT Staking ที่กำลังเป็นที่นิยมมากที่สุดทั้งหมดโดยละเอียด ด้านล่างนี้
1. RobotEra – โปรเจกต์ NFT Staking โดยรวมที่ดีที่สุดในปี 2024
RobotEra เป็นโปรเจกต์เกมคริปโต metaverse ที่กำลังจะมีขึ้นด้วยโปรโตคอล DeFi (การเงินแบบ decentralized) โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี blockchain และช่วยให้ผู้เล่น Stake โทเค็น เพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟได้
การ Staking เป็นเพียงหนึ่งในวิธีที่ผู้เล่นสามารถได้รับประโยชน์จาก TARO ซึ่งเป็นโทเค็นหลักในเกม P2E และยังมีช่องทางหารายได้อื่น ๆ อีกมากมาย
โทเค็น TARO เปิดตัวการขายพรีเซลในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2022 โดยสามารถซื้อพรีเซลได้ 3 ช่วง และราคาปัจจุบันอยู่ที่ 0.023 ดอลลาร์ต่อโทเค็น
โทเค็นเป็นตัวขับเคลื่อนเกมในTaro Planet ซึ่งเป็นโลก metaverse ของ RobotEra ที่จะถูกทำลาย และจำเป็นต้องสร้างขึ้นมาใหม่
Taro แบ่งออกเป็น 7 ทวีป และให้ผู้เล่นเข้าร่วมจักรวาลในฐานะอวตาร์ 3 มิติ โดย Robots จะเป็น NFT ที่สร้างผ่านสัญญาอัจฉริยะ ERC-721 และมีจำนวนจำกัดเพียง 10,000 ตัว
ใน RobotEra marketplace สมาชิกสามารถซื้อ Robot และซื้อที่ดิน เป็น NFT ได้เช่นกัน
จากไวท์เปเปอร์ของ RobotEra หนึ่งในโปรเจกต์ NFT Staking อันดับต้น ๆ ยืนยันว่า สามารถ stake โทเค็นเพื่อรับ APY (อัตราผลตอบแทนต่อปี) ได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ถือโทเค็นสามารถเข้าถึง Taro Planet และสร้างรายได้ได้
การ Staking NFT นี้ ยังทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงองค์กรอิสระแบบ decentralized (DAO) ของ RobotEra ซึ่งให้สิทธิ์ในการลงคะแนนเสียง และการตัดสินใจบางอย่าง
เนื่องจาก Robot NFT แต่ละตัวอยู่ในกลุ่มที่แตกต่างกัน สิทธิ์ในการลงคะแนน ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างกลยุทธ์ในกลุ่มของตนเองได้
การสร้างรายได้ในเกมทำได้หลายวิธี ตั้งแต่การสร้างและขายหุ่นยนต์ในตลาดเปิดแบบ NFT ไปจนถึงการเรียกเก็บเงินค่าเข้าชมงานใน metaverse หรือการขายพื้นที่ป้ายโฆษณา
ผู้เล่นยังสามารถทำภารกิจให้สำเร็จ เพื่อรับรางวัลและขุดหาทรัพยากรในที่ดินของพวกเขาได้ด้วย
RobotEra เป็นโปรเจกต์ของ LBank Labs และมีทีมพัฒนาที่ได้รับการรับรองจาก doxxed และ KYC เพื่อเข้าถึงประโยชน์ทั้งหมด นักลงทุนสามารถซื้อ TARO ได้ในช่วงพรีเซล
ขณะนี้อยู่ใน ช่วงการขายพรีเซล 90 ล้านโทเค็น ที่พร้อมให้ซื้อในราคา 0.023 ดอลลาร์ต่อโทเค็น และราคาจะเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบ โดยรอบสุดท้ายจะมีราคาที่ 0.032 ดอลลาร์ต่อโทเค็น หรือเพิ่มขึ้น 60%
ผู้อ่านที่สนใจสามารถเข้าร่วม Telegram เพื่อติดตามความคืบหน้าใหม่ ๆ ได้
เริ่มขายพรีเซล
ไตรมาส 4 ของปี 2022
วิธีชำระเงิน
ETH, USDT
เชน
Ethereum
ลงทุนขั้นต่ำ
1,000 TARO
ลงทุนสูงสุด
ไม่ระบุ
2. Tamadoge – เหรียญมีม NFT ใหม่สำหรับการ Stake
Tamadoge เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ NFT Staking ใหม่ที่ไม่เหมือนใครและดีที่สุดในปีนี้ โดยมีเหรียญมีม TAMA และการเป็นเจ้าของ NFT เพื่อเป็นองค์ประกอบในการเล่นเกม Play to Earn ในระบบนิเวศที่เติบโตขึ้น
TAMA ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการเปิดตัว IEO เมื่อปลายเดือนกันยายน และสร้างกำไรเกือบ 2,000% สำหรับนักลงทุนรายแรก ๆ ติดอันดับ 3 ในปริมาณการซื้อขาย ที่เป็นรองเพียงแค่ Dogecoin และ Shiba Inu
โครงการยังเปิดตัวสัตว์เลี้ยง NFT ซึ่งกลายเป็นคอลเล็กชันยอดนิยมบน OpenSea
สัตว์เลี้ยง NFT จะเป็นศูนย์กลางของ Tamaverse และอนุญาตให้ผู้เล่นนำไปต่อสู้กับผู้อื่นเพื่อชิงรางวัลได้ หลักการของเกมเหมือนกับเกมทามาก็อตจิในยุค 90 ที่ผู้ดูแลต้องให้อาหารและดูแลสัตว์เลี้ยงของพวกเขาจนกว่าจะโตเต็มวัย
เมื่อเจ้าของเลี้ยงสัตว์เลี้ยงจนโตเต็มที่แล้ว สามารถนำไปต่อสู้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงรายอื่น เพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดบนกระดานผู้นำระดับโลกได้
ในแผนงานจะมีการเปิดตัวเกมอาร์เคด P2E มากขึ้น สัตว์เลี้ยงจะแปลงร่างเป็นสัตว์ 3 มิติและ AI จะช่วยให้เจ้าของ สามารถพาสัตว์เลี้ยงออกไปสำรวจโลกแห่งความจริงได้
สัตว์เลี้ยงTamadoge ไม่มีฟังก์ชันการ Staking แต่เป็นการเล่นเพื่อสร้างรายได้ หมายความว่าผู้ถือจะสามารถรับรางวัลผ่านการเป็นเจ้าของได้ Tamadoge ระดมเงินได้ 19 ล้านดอลลาร์จากการขายพรีเซล และลิสบนกระดานแลกเปลี่ยน centralized และdecentralized ที่ราคา 0.03 ดอลลาร์
ในขณะที่ ราคาของโทเค็นลดลงจากระดับสูงสุด เช่นเดียวกับเหรียญจำนวนมากในตลาดซบเซาที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ราคาของ TAMA ในตอนนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักลงทุน เพราะจะมีเกมที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าในระบบนิเวศที่เติบโตขึ้น
เมื่อสภาวะตลาดดีขึ้น เราคาดว่าราคาของ TAMA จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
3. Silks – เกมแข่งม้าแบบ P2E
ตลาด NFT เต็มไปด้วยเกม P2E มากมาย แต่มีอยู่ไม่กี่เกมที่โดดเด่น หนึ่งในนั้นก็คือ Silks
เกม P2E นี้จะให้ผู้เล่นซื้อ, แลกเปลี่ยน, ผสมพันธุ์ และแข่งม้าแข่ง อย่างไรก็ตาม เกมมีการจำลองการแข่งม้าในโลกแห่งความเป็นจริง หากม้าของคุณชนะในโลกความจริง คุณจะได้รับรางวัลไปด้วย และกลไกที่ไม่เหมือนใครนี้เอง ที่ทำให้ Silks มีเติบโตและได้รับการยอมรับ
Silks NFT เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของเกม เนื่องจากคอลเลกชันต่าง ๆ มีผลกระทบต่อกลไกของเกม คอลเล็กชันเหล่านี้รวมถึงอวาตาร์ Silks, ม้า, คอกม้า และที่ดิน ซึ่ง Silks Avatars ถูกขายไปแล้วมากกว่า 65% ของคอลเลกชัน!
มีอวตาร์ที่ไม่ซ้ำกันทั้งหมด 10,000 แบบในคอลเลกชัน จากเดิมที่มีเพียง 5,000 ตัว แต่เมื่อมีคนเรียกร้อง ทางทีมพัฒนาจึงปล่อยมาอีกชุด คอลเลคชันนี้ได้รับความนิยมมากพอที่จะติด 10 อันดับแรกของ NFT กีฬาบน OpenSea และได้รับการพิจารณาให้เป็นเกม Web3 แฟนตาซีอันดับหนึ่ง
คุณจำเป็นต้องมี Silks Avatars เพื่อเข้าร่วมในเกม โดยประโยชน์ของการเป็นเจ้าของ Silks Avatar ได้แก่ บัตรผ่านตลอดชีพสำหรับ Genesis Yearling ประจำปี, ประสบการณ์สุดพิเศษ, ของรางวัลสุดพิเศษ และกิจกรรม IRL กิจกรรมเหล่านี้จะทำให้ผู้เล่นได้รับรางวัล โดยอวตาร์จะมีลักษณะและความหายากที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับ NFT อื่น ๆ จะมีหน้าที่ตามที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่มีเวลาสำหรับสิ่งนี้ คุณสามารถ stake ในฟาร์มม้าเพื่อรับรางวัล NFT แทนได้เสมอ นี่ยังคงเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเข้าร่วม และสร้างรายได้จาก NFT บนแพลตฟอร์ม Silks ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นหนึ่งในเกม P2E ที่ร้อนแรงที่สุดในตลาด มีกลไกพิเศษหลายอย่างที่เชื่อมโยงระหว่างคอลเลกชัน NFT และผู้เล่น ทำให้มีหลายวิธีในการรับรางวัล และถูกจัดว่าเป็นเกม P2E ที่น่าจับตามอง ซึ่งโปรเจกต์ NFT Staking นี้อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการแข่งม้าในโลกแห่งความเป็นจริง
4. Lucky Block – สุดยอดการแข่งขัน NFT ในตลาดคริปโต
Lucky Block เปิดตัวในปี 2022 เป็นหนึ่งในเกมคริปโตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งปี แพลตฟอร์มนี้จัดการแข่งขันเป็นประจำ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ถือ Lucky Block NFT ทุกคนมีโอกาสชนะรางวัล ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนยังสามารถรับรางวัลได้ง่าย ๆ ด้วยการมีส่วนร่วมในเกม
ในความเป็นจริง Lucky Block เป็นโปรเจกต์แรก ๆ ที่มีการจับรางวัลบนบล็อกเชน และแตกต่างจากโปรเจกต์ NFT มาใหม่ส่วนใหญ่ที่เพิ่งเปิดตัว Lucky Block ไม่ได้จำกัดตัวเองเพียงคอลเลกชันเดียว แต่จะเปิดตัวคอลเลกชัน NFT ใหม่เป็นประจำ ซึ่งแต่ละชุดจะจับคู่กับการจับรางวัลที่ไม่เหมือนใคร
เมื่อคอลเลกชัน NFT ขายหมด สัญญาอัจฉริยะจะสุ่มเลือกผู้ชนะที่มีสิทธิ์จากผู้ที่เข้าร่วมทั้งหมด ตัวอย่างเช่น ในขณะที่เขียน Lucky Block มีคอลเลคชัน Platinum Rollers Club NFT จำนวนจำกัด 10,000 รายการ ผู้ถือ NFT เหล่านี้จะเข้าร่วมการจับรางวัล Platinum Rollers Club ที่จัดโดยแพลตฟอร์มอัตโนมัติ
การจับรางวัลจัดขึ้นทุกสัปดาห์ และของรางวัลก็มีตั้งแต่เกมคอนโซลไปจนถึง Lamborghinis นอกจากนี้ Lucky Block ยังมีโทเค็นหลักของตัวเองเป็น LBLOCK ซึ่งผู้ที่ถือ Lucky Block NFT จะได้รับรางวัลในโทเค็นนี้ด้วย ยิ่งนักลงทุนถือ NFT นานเท่าไร พวกเขาก็จะได้รับรางวัลโทเค็นมากขึ้นเท่านั้น
การถือโทเค็น LBLOCK ยังปลดล็อกรางวัลพิเศษบนแพลตฟอร์ม Lucky Block ได้โดยไม่ต้องคำนึงว่าพวกเขาจะชนะการจับรางวัลหรือไม่ โทเค็น LBLOCK สามารถซื้อได้จากกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตยอดนิยม เช่น Uniswap, MEXC และ LBANK ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 และ BSc ที่โฮสต์บนเครือข่าย Ethereum และ Binance ตามลำดับ
ในขณะที่ Lucky block ไม่มีการ Staking NFT ในทางเทคนิค แต่สร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่ถือ NFT ในระยะยาว ที่ช่วยให้นักลงทุนมีโอกาสเข้าร่วมการจับรางวัล และรับรางวัลเป็นโทเค็น LBLOCK ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ HODLing ไว้
อ่านคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีซื้อ Lucky Block ที่นี่
5. Quint – โปรเจ็กต์ NFT น่าตื่นตาตื่นใจที่มาพร้อมฟีเจอร์พิเศษ
Quint เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ NFT สุดเจ๋งที่เปิดตัวในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ระบบนิเวศนี้ประกอบด้วยฟีเจอร์เด่นบางประการ เช่น ตลาด NFT, ร้านค้า Quint และแหล่ง Staking ขั้นสูง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้โปรเจกต์ NFT Staking นี้ แตกต่างจากโปรเจกต์อื่น ๆ
การ Staking NFT ทั่วไป จะให้รางวัลในรูปแบบของโทเค็นดิจิทัล แต่การ Staking ใน Quint มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มของสะสมในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งรางวัลมีตั้งแต่ที่พักฟรีในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม, โอกาสขับรถซูเปอร์คาร์, ส่วนลดการจองโรงแรม,ร้านอาหาร, ที่พัก และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม Quint ยังจัดการจับรางวัลสุดหรูพิเศษให้กับผู้เข้าร่วม โดยนักลงทุนต้องเริ่มจากการซื้อ NFT ผ่านตลาดของ Quint ก่อน ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็น NFT ที่หรูหรา และส่งให้คุณถึงหน้าประตูบ้าน
หนึ่งในเป้าหมายในอนาคตที่ไม่เหมือนใครของ Quint คือ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริง โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวจะทำให้ผู้ถือ NFT ของ Quint เป็นเจ้าของทรัพย์สินตามสัดส่วนการลงทุน ทีมพัฒนาของ Quint กำลังทำงานเกี่ยวกับแนวคิดของเกม P2E และจะเพิ่มการสนับสนุนให้กับแพลตฟอร์ม
ระบบนิเวศของ Quint อยู่บน Binance Smart Chain หากต้องการซื้อ NFT นักลงทุนต้องมีโทเค็น Quint ก่อน ซึ่งสามารถซื้อได้ผ่าน PancakeSwap
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง
6. Mobox – เกม Play to Earn ที่มาพร้อมการทำฟาร์ม NFT
Mobox เป็นแพลตฟอร์มเกม Play to Earn ที่รวม NFT เข้ากับการทำฟาร์มบน Metaverse ของ Mobox ที่เรียกว่า MOMOverse และสร้างขึ้นบน Binance Smart Chain ภายในระบบนิเวศนี้ ผู้เล่นสามารถสร้าง, รับ หรือแลกเปลี่ยน Mobox NFT ที่เรียกว่า MOMO ได้
MOMO NFT แต่ละตัวมีฟีเจอร์พิเศษ และพลังที่สร้างขึ้นแบบสุ่ม Mobox จะให้ผู้เล่น Staking NFT ที่ยิ่งมีการ Staking มากเท่าไหร่ ก็จะได้รับรางวัล MBOX มากขึ้นในแต่ละวันเท่านั้น
ข้อดีอีกประการของ MOMO NFT ในโปรเจกต์ NFT Staking คือ ไม่เพียงแต่สามารถใช้ได้ใน MOMOverse เท่านั้น แต่ยังใช้กับแพลตฟอร์มพันธมิตรของ Mobox ได้อีกด้วย ในทำนองเดียวกัน สามารถใช้ NFT จากโปรเจกต์พันธมิตรในระบบนิเวศของ Mobox ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น นักลงทุนที่ Staking NFT บน PancakeSwap จะสามารถใช้ NFT บน MOMOverse ได้โดยไม่ต้องถอนออกจาก DEX
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่นสามารถเข้าสู่การต่อสู้แบบทีมใน Mobox เพื่อสะสมรางวัล MBOX และรับคะแนนบน PancakeSwap ได้ในเวลาเดียวกัน ฟีเจอร์นี้คือเหตุผลว่าทำไม Mobox ยังคงเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ Metaverse NFT ที่ดีที่สุดของเรา
7. Mutant Cats – สร้างรายได้จาก NFT ด้วยอวตาร์แมว
Mutant Cats อาจเป็นโปรเจกต์คริปโตแรกที่ซื้อและแยกส่วน blue chip NFT อื่น ๆ โดยมี NFT จากโปรเจ็กต์ยอดนิยมตลอดกาลบางโปรเจ็กต์ ตัวอย่าง NFT ที่โดดเด่นที่สุดใน Mutant DAO vault ได้แก่ CryptoPunks, Bored Ape Yacht Club, Tyler Hobbs และอีกมากมาย
นอกจากนี้ โปรเจกต์ NFT Staking นี้ยังได้เปิดตัวคอลเลกชัน NFT จำนวน 9,999 รายการของตัวเอง ที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum และมีอวตาร์แมวที่มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน นักลงทุนสามารถซื้อ Mutant Cat NFT และ Staking เพื่อรับโทเค็น FISH ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของโปรเจกต์ได้
โปรแกรมการ Staking จะจ่ายโทเค็น FISH 10 รายการต่อวันสำหรับ NFT แต่ละรายการ โทเค็น FISH จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นเจ้าของในทรัพย์สินของ DAO ที่จัดเก็บไว้ในห้องนิรภัย ทีมพัฒนาของ Mutant Cats กล่าวว่า โปรเจกต์นี้กำลังวางแผนที่จะจัดตั้งกลุ่มเฉพาะของสมาชิก ที่อุทิศตนเพื่อการเติบโตของโปรเจกต์
8. Doge Capital – โปรเจกต์ NFT Staking ที่เกี่ยวกับ Pixel Art
Doge Capital เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่เปิดตัวคอลเล็กชันศิลปะ NFT สุดพิเศษ และมี NFT ทั้งหมด 5,000 ชิ้น แต่ละชิ้นจะเป็นงานศิลปะขนาด 24×24 นอกจากนี้ Doge Capital ยังลงทุนในโปรเจกต์ NFT ยอดนิยมอื่น ๆ เช่นเดียวกับ Mutant DAO
แพลตฟอร์มดังกล่าวได้สร้างห้องนิรภัยที่ชื่อว่า Woofbank ซึ่งจัดเก็บ NFT และทรัพย์สินอื่น ๆ สำหรับชุมชน โปรเจกต์ NFT Staking นี้ จะช่วยให้นักลงทุนสามารถ Stake Doge Capital NFT เพื่อรับโทเค็น DAWG เป็นการตอบแทนได้ และโทเค็นเหล่านี้สามารถซื้อได้ผ่านกระดานเทรดคริปโตที่ดีที่สุดในตลาด
แผนต่อไปของโปรเจกต์ Doge Capital คือ จะเริ่มให้เช่า NFT ที่เก็บไว้ในห้องนิรภัย Woofbank ระบบนิเวศนี้จะรวมถึงเกม Play to Earn ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานมีรายได้ได้
Doge Capital มีอุปทานทั้งหมด 30 ล้านโทเค็น ที่เปิดตัวเต็มรูปแบบในช่วงปลายปี 2022 ซึ่งโปรเจกต์นี้ถือเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ NFT ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
9. Famous Fox Federation – Stake NFT หลาย ๆ คอลเลกชั่น
Famous Fox Federation เป็นโปรเจกต์ที่ใช้ Solana และมีคอลเลกชัน NFT หลายคอลเลกชัน เช่น คอลเลกชันGenesis ซึ่งประกอบไปด้วยสุนัขจิ้งจอก 7,777 รายการ และคอลเลกชัน Pixel ที่มีชื่อเสียงของ Famous Foxes ที่มี NFT ทั้งหมด 7,777 รายการ
คอลเลกชัน metaverse มาพร้อมกับ NFT 3,000 รายการ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกพื้นที่ metaverse ผู้เล่นสามารถเป็นเจ้าของพื้นที่เสมือนจริง และรับรางวัลได้ ยิ่งไปกว่านั้น โปรเจกต์นี้ยังมีคอลเลกชัน Friends & Foes ที่สร้างโดยศิลปินชื่อดังด้วย
คอลเลกชันนี้มี NFT เพียง 15 รายการ และโดยปกติแล้วจะมีการประมูลด้วย FOXY ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของระบบนิเวศ ทั้งนี้ Fox NFT ที่มีชื่อเสียงทั้งหมดสามารถ Staking เพื่อรับรางวัลเป็น FOXY ได้ โดยจะต้องเข้าร่วมโปรเจกต์ NFT Staking อย่างน้อย 3 วัน
โทเค็น FOXY เคลมว่าสามารถใช้เพื่อสร้าง NFT ที่กำลังจะมาถึงและปลดล็อกฟีเจอร์อื่น ๆ บนแพลตฟอร์มได้ จำนวน FOXY ที่สร้างขึ้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนของโทเค็นที่ถูก Stake ตัวอย่างเช่น คอลเลกชัน Genesis ได้รับโทเค็น FOXY 100 เหรียญต่อวัน ในขณะที่ Pixel ได้รับ 25 เหรียญต่อวัน
10. Wolf Game – เกม NFT ที่มาพร้อมการ Staking
Wolf Game เป็นโปรเจ็กต์ metaverse ที่รวมระหว่าง NFT เข้ากับการเล่นเกม Wolf Game มี NFT ในรูปแบบ Wolves and Sheep และเป็นโปรเจกต์ NFT Staking ที่ผู้เล่นทำไปเพื่อปกป้องลูกแกะจากหมาป่า
การ Stake Sheep NFT จะทำให้ได้รับโทเค็น WOOL เป็นรางวัล แต่ในกรณีที่ไม่ได้มีการ Stake NFT หมาป่าจะรีดโทเค็น WOOL ที่ผู้เล่นสะสมไว้ไป
โทเค็น WOOL มีจำนวนจำกัดเพียง 5 พันล้านโทเค็นเท่านั้น เมื่ออุปทานถึง 2.4 พันล้าน ระบบจะปิดทันที ผู้ที่สนใจจึงควรรีบตัดสินใจเพื่อประโยชน์สูงสุด
11. Axie Infinity – เกม P2E ยอดนิยม ที่ให้คุณได้ Stake โทเค็น LAND
Axie Infinity เป็นหนึ่งในเกม NFT ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เพราะเป็นเกม Play to Earn ที่ผู้เล่นสามารถต่อสู้กันเองได้โดยใช้ NFT ที่เรียกว่า Axies ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีจุดแข็งและจุดอ่อนเฉพาะตัว
เมื่อผู้เล่นทำภารกิจสำเร็จจะรับโทเค็น AXS เป็นการตอบแทน ซึ่งAxie Infinity มีการเพิ่มฟีเจอร์ให้กับการเล่นเกมอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดคือ Lunacia
metaverse นี้แบ่งที่ดินโดยใช้ NFT ที่สามารถสร้างบ้านหรืออัพเกรดเป็นองค์ประกอบอื่นเมื่อเวลาผ่านไปได้
Axie Infinity เป็นโปรเจกต์ NFT Staking ที่รองรับการ stake โทเค็น AXS ด้วย โดยมีรางวัลเป็นโทเค็น AXS ที่ยิ่งมีการ stake มากเท่าใด รางวัลก็มากขึ้นเท่านั้น
12. ZooKeeper – สร้างรายได้จาก NFT แบบ Gamified
ZooKeeper เป็นโปรเจกต์ NFT Staking ระยะยาว เพื่อจัดหาเงินทุนให้กับ ZooEcosystem
สภาพคล่องที่เพิ่มเข้ามานี้ จะช่วยให้ผู้เล่น ZooEcosystem ได้รับประโยชน์จากการทำฟาร์มที่ดีขึ้น และได้รับรางวัลที่สูงขึ้นระหว่างการเล่นเกม NFT และแพลตฟอร์มก็จะให้โทเค็น ZOO กับนักลงทุนเป็นการตอบแทน
โทเค็น ZOO สามารถใช้ได้ใน ZooEcosystem ซึ่งประกอบด้วยเกม P2E, NFT crafting center และ marketplace นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถซื้อ ZooBooster เพื่อเพิ่มรางวัลการ staking ได้ด้วย
13. Roo Troop – โปรเจกต์ NFT ที่ได้รับการสนับสนุนโดยชุมชน
Roo Troop เป็นคอลเล็กชันที่ใช้ Ethereum และมี NFT 5,500 รายการ รวมถึง Super Roos หายาก 3 ตัว
Roo Troop ช่วยให้ศิลปินและผู้สร้าง Web 3.0 สามารถ เข้าถึงช่อง Discord เพื่อสมัครงานในพื้นที่ Web 3.0/NFT โดยที่ผู้ถือโทเค็นสามารถส่งข้อมูลของตนต่อไปยังนายจ้างได้
Roo Troop จึงทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างผู้หางานและนายจ้าง และเป็นโปรเจกต์ NFT Staking ที่รับโทเค็น ROOLAH ได้
การ NFT staking คืออะไร?
การ Stake NFT คือการล็อกโทเค็นไว้บนโปรโตคอลบล็อกเชน เพื่อแลกกับรางวัล
จากมุมมองของนักลงทุน การ Staking คล้ายคลึงกับการเปิดบัญชีออมทรัพย์กับธนาคาร แต่แทนที่จะฝากเงิน ก็เปลี่ยนเป็นฝาก NFT แทน
และรับรางวัลในรูปของโทเค็นดิจิทัล
เหตุผลที่ควรร่วมโปรเจกต์ NFT Staking มีหลายประการ คือ
- เพื่อเพิ่มความขาดแคลน – หาก NFT ถูก stake จะทำให้ไม่สามารถขายได้ ซึ่งหมายความว่าอุปทานจะลดลงในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และทำให้ราคาสูงขึ้น
- รายรับแบบพาสซีฟ – โปรเจกต์ NFT Staking เสนอสิ่งจูงใจให้แก่นักลงทุนเป็นการตอบแทน ที่โดยปกติจะได้รับเป็นโทเค็นหลักของโปรเจกต์
- สนับสนุนเครือข่าย PoS –โปรเจกต์ที่สร้างขึ้นจากกลไกproof-of-stake จะตรวจสอบธุรกรรมของตัวเองได้ และอาจต้องมีสิทธิ์การเข้าถึง NFT จากการ Staking
การเริ่มต้นต้องมีกระเป๋าเงินที่รองรับ NFT ก่อน
ข้อกำหนดจะแตกต่างกันออกไป ดังนั้น จึงควรตรวจสอบเงื่อนไขและรางวัลที่มีก่อนลงทุน Staking NFT
หลักการทำงานของ NFT staking คืออะไร?
วิธี Staking เหรียญคริปโต เป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมบนบล็อกเชน ในขณะที่การ Staking NFT ใช้แนวคิดพื้นฐานเดียวกัน แต่เป็นสิ่งที่เพิ่งเริ่มเกิดขึ้น
NFT เปิดตัวครั้งแรกในฐานะของสะสม ซึ่งนักลงทุนมักเลือกถือ NFT ไว้ยาว เพื่อหวังขายเมื่อมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
นักลงทุนจึงอาจต้องรอเป็นเวลานาน ก่อนที่จะสามารถทำกำไรจาก NFT ได้
โปรเจกต์ NFT Staking เป็นวิธีใหม่ในการสร้างรายได้จาก NFT ให้แก่นักลงทุน และความต้องการที่เพิ่มขึ้นก็นำไปสู่โปรเจกต์ NFT ใหม่หลายโปรเจกต์ แต่ไม่ใช่ว่าทุกโปรเจกต์จะได้รับผลประโยชน์ทางการเงิน
ท้ายที่สุดแล้ว หากมูลค่าของ NFT ลดลงหลังจากการ Staking นักลงทุนอาจขาดทุนได้ ดังนั้น การเลือกคอลเลคชัน NFT ที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เมื่อตัดสินใจ Staking NFT แล้ว นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีว่าแต่ละโครงการเกี่ยวกับอะไร เพราะเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญมาก
ประโยชน์ของการ Staking NFT
การสร้างรายได้จาก NFT Staking คุ้มค่าจริงหรือ? คุณจำเป็นต้องพิจารณาถึงมูลค่าของ NFT และรางวัลที่ได้รับ
ประโยชน์บางประการมีดังต่อไปนี้
เริ่มต้นง่าย
การ Staking NFT สำหรับมือใหม่ แทบไม่ต้องใช้ความพยายามใด ๆ เลย เพราะโปรเจกต์ NFT ส่วนใหญ่จะอำนวยความสะดวกผ่านเว็บไซต์ของตนเอง
นักลงทุนเพียงต้องเชื่อมต่อกระเป๋าเงินดิจิทัลกับแพลตฟอร์มที่เลือก จึงจะเริ่ม Staking NFT ได้
เมื่อระยะเวลาการ Staking สิ้นสุดลง พวกเขาก็จะได้รับรางวัล การกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว รางวัลก็จะเพิ่มไปยังกระเป๋าเงินของผู้ใช้งานโดยอัตโนมัติ
สนับสนุนโปรเจกต์ NFT
การ Staking เป็นวิธีที่ปลอดภัย และโปรเจกต์ NFT Staking นี้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มมูลค่าของ NFT ในตลาดได้
บางโครงการยังมีรางวัลพิเศษสำหรับผู้ถือ NFT เช่น อำนาจในการลงคะแนนเสียง เพื่อกำหนดทิศทางในอนาคตด้วย
สร้างรายได้จาก NFT แบบพาสซีฟ
ข้อดีที่สุดของโปรเจกต์ NFT Staking คือ โอกาสในการสร้างรายได้จาก NFT แบบพาสซีฟ แทนที่จะถือโทเค็นไว้เฉย ๆ นักลงทุนสามารถ Stake เพื่อรับรางวัลเป็นคริปโตเคอเรนซี่ได้
เหรียญดิจิทัลเหล่านี้สามารถใช้เพื่อซื้อสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีอยู่ในระบบนิเวศของโครงการ หรือสามารถแลกเปลี่ยนในกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตได้ แต่อย่างที่กล่าวไว้ โปรดทราบว่ามูลค่าของโทเค็นดิจิทัลอาจผันผวนขึ้นลงได้ตลอดเวลา
ความเสี่ยงของโปรเจกต์ NFT Staking คืออะไร?
แม้ว่าโปรเจกต์ NFT Staking จะมีข้อได้เปรียบหลายประการ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไร้ความเสี่ยง
เมื่อต้อง Staking NFT นักลงทุนจะต้องล็อก NFT ไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งในช่วงเวลานี้ มูลค่าของ NFT สามารถขึ้นหรือลงก็ได้
และเนื่องจาก NFT จะถูกล็อคในระยะเวลาที่กำหนด คุณจึงไม่สามารถแลกเปลี่ยนหรือถอนเงินออกได้ ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้นักลงทุนสูญเสียโอกาสในการทำกำไรได้
ในทำนองเดียวกับเหรียญคริปโต NFT ก็มีความผันผวนอย่างมาก เนื่องจากมีการเก็งกำไรสูงในตลาด ดังนั้น หลังจากล็อค NFT ราคาของโทเค็นอาจลดลงอย่างมาก และนักลงทุนจะไม่สามารถขายในช่วงที่ราคาตลาดตกต่ำได้
อย่างไรก็ตาม ดังที่เราได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ว่า โปรเจกต์ NFT Staking กำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่าจะมีการเปิดตัวโครงการใหม่หลาย ๆ โครงการที่น่าจะมีความยืดหยุ่น หรือมีฟังก์ชันที่น่าสนใจอื่น ๆ มากขึ้น
วิธีลงทุนในโปรเจกต์ NFT Staking – RobotEra
ดังที่เราได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ RobotEra เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ NFT Staking ที่ดีที่สุดในปี 2024 ส่วนด้านล่างนี้จะแสดงให้นักลงทุนทราบวิธีการซื้อโทเค็น TARO ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักของ RobotEra
ขั้นตอนที่ 1: ตั้งค่า MetaMask
ข้อกำหนดแรกในการซื้อ TARO คือ การตั้งค่ากระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งสำหรับ TARO สามารถซื้อได้ด้วยกระเป๋าเงิน MetaMask ที่พร้อมใช้งานผ่านแอพมือถือสำหรับ iOS และ Android
อย่างไรก็ตาม การใช้ส่วนขยายเบราว์เซอร์ MetaMask บนแล็ปท็อป มีความสะดวกกว่ามาก
หลังจากเพิ่ม MetaMask ลงในเบราว์เซอร์แล้ว ผู้ใช้งานจะต้องสร้างกระเป๋าเงินใหม่ และตั้งรหัสผ่านที่แน่นหนา
จากนั้น MetaMask จะสร้างชุดคำศัพท์ภาษาอังกฤษในการกู้คืน 12 คำ ซึ่งคุณจะต้องจดบันทึกไว้ เพื่อใช้ในกรณีที่ลืมรหัสผ่าน
ขั้นตอนที่ 2: ซื้อ ETH หรือ USDT
สามารถซื้อโทเค็น Taro ได้ในช่วงพรีเซล ผ่าน ETH หรือ USDT หากคุณไม่ได้ถือเหรียญที่ว่านี้ไว้ ให้ซื้อ ETH/USDT จากกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่เหมาะสม และย้ายสินทรัพย์ไปยังกระเป๋าคริปโตของคุณ
ขั้นตอนที่ 3: ไปยังเว็บไซต์ขายพรีเซล TARO
หลังจากที่คุณเพิ่ม ETH หรือ USDT ลงในกระเป๋าคริปโตแล้ว ให้ไปยังเว็บไซต์ขายพรีเซล TARO จากนั้น คลิกที่ ‘ Connect Wallet’ และเลือก MetaMask เพื่อเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม
ทั้งนี้ WalletConnect เป็นอีกหนึ่งกระเป๋าคริปโตที่เข้ากับแพลตฟอร์มพรีเซลนี้ได้
ขั้นตอนที่ 4: ซื้อโทเค็น TARO
หลังจากเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มได้แล้ว นักลงทุนสามารถคลิกที่ ‘Buy with USDT’ หรือ ‘Buy with ETH’ ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่มีอยู่ในกระเป๋าเงิน
กรอกจำนวนโทเค็นที่คุณต้องการซื้อ (ขั้นต่ำ 1,000 TARO) และคลิก ‘Approve’ ทั้งนี้ นักลงทุนจะได้รับทรัพย์สินหลังจากการขายพรีเซลสิ้นสุดลง เพื่อนำไปใช้ในโปรเจกต์ NFT Staking ต่อไป
บทสรุปเกี่ยวกับโปรเจกต์ NFT Staking
การ Staking NFT เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่สนใจถือ NFT ในระยะยาว กลยุทธ์นี้ช่วยให้พวกเขาสร้างผลตอบแทนจาก NFT ที่ไม่ได้ใช้งานได้
ปัจจุบันมีโปรเจกต์ NFT Staking ที่โดดเด่นหลายโปรเจกต์ ที่มีการให้รางวัลแก่ผู้ถือ NFT ในหลาย ๆ รูปแบบ
RobotEra เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ NFT Staking ใหม่ที่ดีที่สุด ซึ่งใช้ประโยชน์จากโทเค็น TARO ซึ่งเป็นทั้งสกุลเงินในเกมและโทเค็นหลัก
การสร้างรายได้จาก NFT เป็นแบบพาสซีฟ และยังมอบสิทธิ์ในการออกเสียงใน RobotEra DAO ได้ด้วย ปัจจุบัน TARO สามารถซื้อได้ในราคา 0.023 ดอลลาร์ในช่วงพรีเซล
RobotEra - เกม Metaverse สุดปังมาใหม่!
- สนับสนุนโดย LBank Labs
- ซื้อ แลกเปลี่ยน และพัฒนาที่ดิน NFT
- ทีมงานมืออาชีพ Doxxed
- โทเค็น TARO เปิดตัวขายพรีเซลแล้ว - robotera.io
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรเจกต์ NFT Staking
การ Staking NFT คืออะไร?
โปรเจกต์ NFT Staking ที่ดีที่สุด คืออะไร?
ฉันจะ Staking NFT ได้อย่างไร?
การ Staking NFT มีค่าใช้จ่ายเท่าใด?