หากคุณเคยถามตัวเองว่า “Digital Creator คืออะไร? ” คำนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลาย และอาจจะยากต่อการให้คำจำกัดความ

Digital Creator คือ ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างเนื้อหาทั้งหมด ที่แสดงบนอินเทอร์เน็ตและที่อื่น ๆ เช่น โทรทัศน์ พวกเขาคือบุคคลที่ควบคุมพลังของเทคโนโลยี เพื่อสร้างสรรค์และแบ่งปันเนื้อหาที่สร้างสรรค์ (หรือบางครั้งก็ไม่สร้างสรรค์) บนแพลตฟอร์มออนไลน์มากมาย

ตั้งแต่ผู้ผลิตเนื้อหาใน YouTube ไปจนถึงบล็อกเกอร์ และอื่น ๆ คำว่า ” Digital Creator” ได้หมายรวมถึงบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลายในโลกดิจิทัล ซึ่งใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการผลิตและแบ่งปันเนื้อหาเหล่านี้ให้กับผู้ชมในวงกว้าง

บทความนี้เจาะลึกโลกแห่งการสร้างสรรค์งานดิจิทัล วิเคราะห์ความสำคัญ ประเภทของครีเอเตอร์ที่หลากหลาย และให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นทำงานในสายอาชีพ Digital Creator 

Digital Creator คืออะไร?

ครีเอเตอร์ ดิจิทัล คือ บุคคลที่ดึงดูดผู้ชมบางกลุ่มโดยใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัล ในการผลิต แจกจ่าย และแสดงเนื้อหาบนโลกออนไลน์ ในแพลตฟอร์มได้แก่ YouTube, TikTok, Instagram, Twitter, เว็บไซต์ หรือช่องทางดิจิทัลอื่น ๆ ที่โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการสร้างงานบนสื่อออนไลน์ เช่น โพสต์บนโซเชียลมีเดีย วิดีโอ YouTube หรือบล็อกโพสต์ หรือสื่อออฟไลน์ด้วยวิธีการดิจิทัลอื่น ๆ เช่น เคเบิลทีวี

ประเภทของเนื้อหาจะแตกต่างกันออกไป และอาจเป็นวิดีโอ รูปภาพ กราฟิก บล็อกโพสต์ หรือสื่อประเภทอื่น ๆ ไม่ว่าพวกเขาจะเลือกสื่อใดก็ตาม Digital Creator หรือ Content Creator ควรสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงและน่าดึงดูด เพื่อให้ประสบความสำเร็จ

ตัวอย่างเนื้อหาที่น่าดึงดูด เช่น เรื่องตลกขำขัน การแกะกล่องที่น่าตื่นเต้น รีวิวรายการทีวี การแนะนำสิ่งต่าง ๆ หรือวิดีโอบล็อกในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเลือกรูปแบบใดก็ตาม เป้าหมายของ Digital Creator คือ การดึงดูดผู้ชมผ่านเนื้อหาของพวกเขา

Digital Creator ต่างจากครีเอเตอร์แบบดั้งเดิมที่อาจทำงานศิลปะเฉพาะด้าน แต่ Digital Creator มักจะต้องมีทักษะที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างคอนเทนต์ดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งไม่ถูกจำกัดด้วยขอบเขตทางภูมิศาสตร์ และสามารถเผยแพร่ผลงานออกไปได้ทั่วโลก

การเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนของ Digital Creator ในสื่อยุคใหม่

การเติบโตและวิวัฒนาการของดิจิทัลและอินเทอร์เน็ต นำไปสู่ความต้องการ Content Creator ที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้คน ธุรกิจ และสถาบันต่าง ๆ เริ่มหันมาใช้ดิจิทัลมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมแต่ละราย

การเกิดขึ้นของ Digital Creator เปลี่ยนแปลงรูปแบบของสื่อไปอย่างมาก ครีเอเตอร์เหล่านี้ได้พลิกโฉมโมเดลแบบเดิม ๆ และเปิดช่องทางใหม่สำหรับการเล่าเรื่อง ความบันเทิง การศึกษา และอิทธิพลต่าง ๆ

การสร้างเนื้อหาโดยใช้แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น YouTube, Instagram, Facebook และ TikTok ช่วยให้บุคคลจากทุกสาขาอาชีพกลายเป็นครีเอเตอร์ได้ทั้งสิ้น และสามารถแบ่งปันมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองได้

นอกจากนี้ ยังได้สร้างข้อมูลมากมายเกี่ยวกับแนวคิดต่าง ๆ จากหัวข้อทางเทคนิคและไม่ใช่ทางเทคนิค สิ่งนี้ทำให้ผู้คนเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ฟรี หรืออยู่ในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายขึ้น

การเป็น Digital Creator ของแต่ละบุคคลให้ประโยชน์มากมาย เช่น ความสามารถและโอกาสในการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ ตลอดจนการสร้างPersonal Brand และเช่นเดียวกับอาชีพอื่น ๆ การสร้างคอนเทนต์ที่ดี ย่อมได้รับรายได้และชื่อเสียงที่ดีมากขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม การเป็น Digital Creator ก็มาพร้อมกับความท้าทายเช่นกัน ความท้าทายแรกของ Digital Creator คือ การสร้างเนื้อหาที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งจะต้องใช้ความพยายามและรักษาคุณภาพ เพื่อทำให้ตัวเองโดดเด่นขึ้นให้ได้

นอกจากนี้ เมื่อแพลตฟอร์มปรับอัลกอริธึม ครีเอเตอร์จะต้องหาทางเปลี่ยนแปลงและเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อหาสำหรับอัลกอริธึมนั้น ๆ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องคำนึงถึงสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายต้องการด้วย

บางครั้ง Digital Creator คือคนที่ต้องรับมือกับข้อกังวลเรื่องลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะครีเอเตอร์บน YouTube และในบางครั้ง ก็อาจจะตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์ การกลั่นแกล้ง และทำให้อับอายบนโลกออนไลน์ได้

แม้จะมีความท้าทาย แต่เสน่ห์ของเสรีภาพในการสร้างสรรค์ การสร้างรายได้อย่างมหาศาล และความสามารถในการเชื่อมต่อกับบุคคลที่มีความคิดเดียวกัน ก็มีส่วนทำให้พื้นที่ของครีเอเตอร์เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากข้อมูลของ Goldman Sachs ปัจจุบันมูลค่าเศรษฐกิจของกลุ่มครีเอเตอร์สูงถึง 250 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเทคโนโลยีและการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของการเสพดิจิทัล ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวได้อรกเกือบ 2 เท่า หรือมีมูลค่าประมาณ 480 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2027

การเพิ่มขึ้นนี้ยังได้รับแรงหนุนจากความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการเป็น Content Creator ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ในกลุ่มคนอายุน้อยก็ตาม จากสถิติของ SmallBusinessBlog เด็ก 29% ในสหรัฐอเมริกา ต้องการเป็น YouTube Vloggers

มีการสำรวจที่คล้ายกันในสหราชอาณาจักร และพบว่า เด็ก 30% ต้องการสร้างเนื้อหาบน YouTube เพื่อหาเลี้ยงชีพ

ประเภทของ Digital Creator

ในโลกของการสร้างสรรค์งานดิจิทัลที่กว้างใหญ่ ครีเอเตอร์จึงมีมากมายหลายรูปแบบ โดยแต่ละรูปแบบก็จะมีลักษณะเฉพาะ ประเภทเนื้อหา และการตั้งค่าแพลตฟอร์มของตัวเอง ตั้งแต่ Video Creator เช่น YouTuber ไปจนถึงคนที่เขียนบล็อก ซึ่งแต่ละประเภทจะนำเสนอข้อมูลและเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสร้างรายได้ในรูปแบบที่แตกต่างกัน และนี่คือหมวดหมู่บางส่วน:

YouTuber

ผู้ที่เริ่มต้นปฏิวัติวงการ Digital Creator คือ YouTuber ซึ่งหมายถึง บุคคลที่สร้างวิดีโอเพื่อให้ความรู้ และสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชม โดยใช้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มในการอัปโหลด และสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชม

YouTuber มีหลากหลายประเภท ตั้งแต่ ผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีและการรีวิวเกม ไปจนถึงการแนะนำวิธีทำอาหาร ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ต้องใช้กล้อง ไมโครโฟน และการตัดต่อ เพื่อสร้างงานของตนเป็นจริง 

นอกเหนือจากการสร้างและอัปโหลดวิดีโอแล้ว ครีเอเตอร์จำนวนมากได้พัฒนาไปสู่การสตรีมมิงสด โดยสามารถสตรีมหรือเล่นวิดีโอซ้ำได้หลายชั่วโมง วิดีโอประเภทนี้จะรวบรวมผู้ดูได้มาก บางคนดูเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนการพักผ่อนในแต่ละวัน

ในทางกลับกัน YouTube Short ซึ่งเลียนแบบวิดีโอใน TikTok ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เนื่องจากครีเอเตอร์จะตัดต่อเนื้อหาสั้น ๆ และน่าสนใจเพื่อให้ความบันเทิงแก่ผู้ชม แต่ยังทำให้พวกเขามีส่วนร่วมได้ดี

หนึ่งใน YouTuber ชั้นนำยังเป็น Content Creator ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง Mr. Beast หรือที่รู้จักกันในชื่อ Jimmy Donaldson ผู้มีสมาชิก 163 ล้านราย และทำให้เขากลายเป็น YouTuber ที่มีรายได้สูงสุดถึง 54 ล้านดอลลาร์ต่อปี

Donaldson สร้างเนื้อหาที่น่าตื่นเต้น เช่น การฝังตัวเองนานกว่า 50 ชั่วโมง และการพยายามอดอาหาร 30 วัน เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชมอายุน้อย

ส่วนในไทย  YouTuber ที่โด่งดังและมีผู้ติดตามมากที่สุด ก็คือ zbing z. (ซีบิ๊ง) เธอคือเกมเมอร์ที่ใครเห็นเป็นต้องหลงใหล และมีความสามารถในการเล่นเกมรวมไปถึงการพากย์เสียง ที่ทำให้เป็นที่ยอมรับในกลุ่มเด็กและคนทั่วไป ด้วยการอัปเดตคอนเทนต์ที่มาแรง และมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอจึงกลายเป็น YouTuber อนาคตไกลที่คนไทยต่างรู้จัก

Educator

การศึกษาในโลกดิจิทัลไม่มีขอบเขตอีกต่อไป และต้องขอบคุณครีเอเตอร์ที่คอยมอบความรู้ในรูปแบบใหม่ ๆ บนแพลตฟอร์มดิจิทัลเสมอ Content Creator ด้านการศึกษาเหล่านี้ จะผลิตเนื้อหา ให้การอธิบาย และสอนหลักสูตรออนไลน์ให้แก่ผู้เรียนทั่วโลก

เป้าหมายหลักของ Digital Creator คือ การรวบรวมความรู้ทั้งหมดมาไว้ในสื่อที่ผู้ฟังเข้าใจได้ง่าย โดยมีระบบซึ่งช่วยให้อุปกรณ์ต่าง ๆ เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และให้คำแนะนำแบบทีละขั้นตอน เพื่อทำความเข้าใจในวิชาที่ซับซ้อน หรือสอนทักษะการปฏิบัติงานในหัวข้อต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น การใช้ความคิดสร้างสรรค์ ธุรกิจออนไลน์ โภชนาการ การเงินส่วนบุคคล และอื่น ๆ

เนื้อหาด้านการศึกษาจะถูกส่งผ่านรูปแบบต่าง ๆ เช่น บล็อก จดหมายข่าว หลักสูตรอีเมล คำบรรยายใต้โพสต์ วิดีโอ การสัมมนาผ่านเว็บ หรือหลักสูตรแบบชำระเงิน ด้วยเหตุนี้ Education จึงสามารถพบได้บนหลายแพลตฟอร์ม รวมถึง YouTube, TikTok และ Instagram ที่พวกเขาสามารถสร้างวิดีโอที่มีส่วนร่วม พร้อมให้ความบันเทิงและความรู้แก่คนทั่วไปได้

สำหรับแนวคิดด้านเทคนิคและข้อมูลเชิงลึก Education ส่วนใหญ่จะใช้ YouTube เพื่อสร้างและอัปโหลดวิดีโอ หรือ LinkedIn, Medium, MailChimp และ Substack สำหรับโพสต์และสร้างจดหมายข่าว ส่วนแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ของ Digital Creator คือ Skillshare และ Coursera ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน เพราะถือเป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือด้วยการสร้างหลักสูตรคุณภาพสูงที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

ครีเอเตอร์ดิจิทัล หมายถึงผู้สร้างสรรค์ผลงานทางดิจิทัล ซึ่งหนึ่งในผู้นำด้าน Education ชั้นนำในไทย ก็คือ Point of View ซึ่งเป็นช่อง YouTube ของคุณวิว-ชนัญญา เตชจักรเสมา เธอผู้นี้มีความเชี่ยวชาญในด้านการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วรรณกรรม บุคคลสำคัญ ศิลปกรรม หรือแม้แต่วัฒนธรรม ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องราวที่มีรายละเอียดมากมาย และเนื้อหายาวเหยียด แต่เธอสามารถที่จะนำมาสรุปและเรียบเรียงให้ฟังสนุก เข้าใจง่าย ภายในคลิปวีดีโอเพียงไม่กี่นาที พร้อมภาพประกอบสนุก ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับเด็ก วัยรุ่น และผู้ที่อยากเรียนรู้เรื่องราวในอดีต แถมเธอยังเคยได้รับรางวัล Popular Vote ในงาน Thailand Best Blog Awards 2018 อีกด้วย

Podcaster

Digital Creator กลุ่มนี้มีความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดทางเสียง โดยนำเสนอประสบการณ์ที่ดื่มด่ำผ่านคำพูดที่น่าฟัง Podcaster จึงเป็นครีเอเตอร์ประเภทหนึ่งที่ดึงดูดผู้ฟังด้วยบทสนทนาที่เจาะลึก บทสัมภาษณ์ที่น่าดึงดูด บทพูดที่ตลกขบขัน หรือบทบรรยายที่กระตุ้นความคิด

Podcaster จะต้องมีอุปกรณ์บันทึกเสียง และความสามารถพิเศษในการสนทนา โดยเริ่มจากการค้นหาหัวข้อที่จะนำมานำเสนอ

เมื่อได้รับความสนใจจากผู้ชมแล้ว พวกเขาก็จะมีโอกาสที่จะให้คำแนะนำ ให้ความบันเทิง และให้ประสบการณ์ในแบบที่ครีเอเตอร์รายอื่นไม่สามารถทำได้

โดยทั่วไปแล้วจะมีการทับซ้อนกันอย่างมากระหว่าง Podcaster และครีเอเตอร์ประเภทอื่น ๆ บ่อยครั้งที่ Podcaster อาจจะเป็นทั้ง Educator, YouTuber หรือ Content Writer อย่างไรก็ตาม Podcaster มักจะใช้ Podcast เป็นช่องทางหลักในการผลิตเนื้อหา และเพิ่มจำนวนผู้ชมของเขา

การทำงานด้วยเสียงช่วยให้คุณสามารถลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างเพื่อพัฒนาไปสู่ Content Creator ที่คุณต้องการเป็นได้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดการการผลิตสำหรับลูกค้า หรือการผลิตเพื่อตัวเอง

ปัจจุบัน Podcaster ได้เริ่มนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบอื่นนอกเหนือจากเสียง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ปกติมากขึ้นที่จะมีการสตรีมพอดแคสต์บน Spotify หรือแพลตฟอร์มเสียงอื่น ๆ รวมถึงวิดีโอสตรีมบน YouTube

ด้วยการนำเสนอในรูปแบบที่หลากหลาย นักสร้างคอนเทนต์เหล่านี้ได้เพิ่มแหล่งรายได้ ที่จะทำให้พวกเขามีรายได้มากขึ้นอีกรูปแบบหนึ่ง

หนึ่งในช่องพอดแคสต์ที่คนไทยนิยมฟังมากที่สุด ก็คือ The Standard ซึ่งถือเป็นบริษัทใหญ่ที่มีรายการย่อยอยู่ในนั้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Secret Source, คำนี้ดี และ The Money Case ภายใต้การบริหารของคุณ เคน นครินทร์ วนกิจไพบูลย์ ซึ่งถือเป็นนักเล่าเรื่องแถวหน้าของเมืองไทย

Influencer

ส่วนใหญ่แล้ว เมื่อผู้คนนึกถึงนักสร้างคอนเทนต์ หนึ่งในสิ่งที่พวกเขามักจะคิดถึง ก็คือ Influencer เนื่องจากเป็นประเภทของ Digital Creator ที่แพร่หลายที่สุด Influencer คือ บุคคลที่ใช้ความน่าเชื่อถือ ความเชี่ยวชาญ และความมีชื่อเสียงเพื่อสร้างการเชื่อมต่อความสัมพันธ์กับผู้ชม และ ‘ชักจูง’ ให้พวกเขาได้สัมผัสกับมุมมอง แบรนด์ หรือไลฟ์สไตล์ที่เฉพาะเจาะจง การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้การสร้างโพสต์บนโซเชียลมีเดีย กลายเป็นงานอดิเรกที่อาจสร้างรายได้อย่างมหาศาล

การตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์โดยส่วนใหญ่ จะสนใจจำนวนผู้ติดตามและสมาชิกบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อทำการขายสินค้าให้กับแบรนด์ที่ให้การสนับสนุน เนื่องจาก Influencer ดังกล่าวจะนำเอาสินค้าหรือบริการของแบรนด์ มาผสมผสานกับชีวิตส่วนตัว เพื่อทำให้ผู้ชมเกิดความต้องการในการซื้อสินค้าหรือรับบริการ เนื่องจากมีครีเอเตอร์เป็นผู้ใช้หรือผู้แนะนำ

เนื้อหาจะค่อนข้างกว้างและสะดุดตา เช่น การรวบรวมข้อมูล การใช้รูปภาพที่ตัดต่ออย่างดี การเล่าเรื่องราวส่วนตัว การรีวิว บทช่วยสอน และอื่น ๆ อีกมากมาย ทำให้ Digital Creator เหล่านี้จึงกลายเป็นเพชรเม็ดงามสำหรับแบรนด์ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

Influencer คือ Digital Creator ที่ทำงานบนแพลตฟอร์มโซเชียล เช่น Instagram, TikTok, Snapchat, Facebook, Twitter และแม้แต่ YouTube ซึ่งช่วยสร้างการเชื่อมต่อที่เป็นส่วนตัวผ่านวิดีโอบล็อกในชีวิตประจำวัน

Digital Creator กลุ่มนี้มักจะสร้างรายได้จากการเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ ไม่ว่าจะมาจากการสร้างเนื้อหา Affiliate link และค่าคอมมิชชันจากการขาย นอกเหนือจากนั้น พวกเขายังได้รับรายได้จากสินค้าดิจิทัล เช่น การดาวน์โหลดภาพ ซึ่งมักจะนำเสนอผ่านทางตลาดภายนอก เช่น Etsy

ทั้งนี้ ธุรกิจบางแห่งจะมีการขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ ที่ผู้ชมของเขาเคยแสดงความสนใจไว้ก่อนหน้านี้ด้วย

โดยส่วนใหญ่แล้วอินฟลูเอนเซอร์ก็จะแบ่งออกเป็นสายต่าง ๆ ที่หลากหลาย แต่ละสายก็จะมีคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสายนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่นหากเป็นสายอาหาร คนส่วนใหญ่ก็จะรู้จัก PEACH EAT LAEK (พีทอีทแหลก) ในฐานะของการเป็นนักกินจุระดับประเทศ และเดินสายไปตามร้านอาหารที่โด่งดังทั่วประเทศไทย หรือหากเป็นในกลุ่มของสายท่องเที่ยว I Roam Alone คือ นักเดินทางที่พูดได้มากถึง 5 ภาษา และเธอคือ อินฟลูเอนเซอร์ที่ช่วยเปิดโลกมุมมองการเดินทางใหม่ ๆ ให้ผู้คนได้เห็นถึงวิถีชีวิตและความแตกต่างของเชื้อชาติ แต่หากเป็นอินฟลูเอนเซอร์สายบิวตี้ สาว ๆ ก็คงจะรู้จัก Nisamanee.Nutt ซึ่งเป็นหนึ่งอินฟลูเอนเซอร์ที่น่าจับตามอง และเป็นเจ้าของวลี “ปังมากพี่นัท” ที่แฟน ๆ รู้จักเป็นอย่างดี

Blogger

Blogger เป็นหนึ่งใน Digital Creator ที่เก่าแก่ที่สุด บางคนอาจสงสัยว่าบล็อกเกอร์นั้นนับเป็น Digital Creator หรือไม่ (แน่นอนว่าเป็นเช่นนั้น) Blogger มีส่วนทำให้เกิดข้อมูลจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน เช่นเดียวกับ Podcaster ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาเสียง เพียงแต่ Blogger ได้สร้างเนื้อหาออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

Blogger จะเขียนเนื้อหาในรูปแบบของบทความทุกประเภท โดยส่วนใหญ่พวกเขาจะเชี่ยวชาญในหัวข้อเฉพาะ เช่น การเดินทางและไลฟ์สไตล์ ความงามและแฟชั่น หรือความรู้ทางวิชาการ โดยในบางครั้งก็มุ่งเน้นไปที่ข้อมูลส่วนตัว และสิ่งต่าง ๆ เช่น รถยนต์ อาหาร ข่าว การเลี้ยงลูก ดนตรี และอื่น ๆ

ด้วยการเขียนและการโพสต์บล็อก ทำให้บล็อกเกอร์สามารถสร้างผู้อ่านและผู้ติดตามได้ และพวกเขาจะต้องโพสต์เนื้อหาในสิ่งที่ผู้ติดตามต้องการอ่านต่อไป ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จะไม่ได้รับความสนใจอีก

ในบางกรณี Digital Creator คือคนที่สร้างเว็บไซต์เป็นของตนเอง เพื่อใช้โพสต์บทความ ซึ่งสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม เช่น WordPress, Wix หรือ Squarespace รวมถึงการใช้สื่อเพื่อโพสต์เนื้อหาและโต้ตอบกับผู้ชม

บล็อกเกอร์ได้สร้างหลากหลายวิธีในการสร้างรายได้ ตั้งแต่การแสดงโฆษณาบนเว็บไซต์ การได้รับการสนับสนุนจากแบรนด์ที่พวกเขาทำการตลาดให้ ตลอดจนการสร้างหลักสูตรและการเข้าถึงชุมชนแบบชำระเงิน

เมื่อแอพเปิดตัวมากขึ้น ทำให้ผู้คนย้ายไปสนใจในแพลตฟอร์มใหม่ ๆ แทน สิ่งนี้ทำให้บล็อกเกอร์ต้องดิ้นรน และสร้างคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มให้มากขึ้น และเป็นผลให้บล็อกเกอร์ส่วนใหญ่มีบัญชี Instagram และ Pinterest ซึ่งช่วยให้พวกเขาดึงดูดผู้ชมจากบทความต่าง ๆ ได้

Neil Patel เป็นหนึ่งในบล็อกเกอร์ชั้นนำของโลก โดยได้รับการยอมรับจากประธานาธิบดีอย่าง Obama และ UN จัดให้เขาติด 1 ใน 100 องผู้ประกอบการชั้นนำ Patel มีความเชี่ยวชาญในการสร้างโฆษณาออนไลน์ Content marketing และการทำการตลาดผ่าน Search Engine (SEO)

The Supporter เป็นหนึ่งใน Blogger ไทยที่มีผลงานยอดเยี่ยม ทั้งเนื้อหาและการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่นำมาถ่ายทอดให้กับผู้อ่านเกิดประโยชน์และสามารถใช้งานได้ในชีวิตประจำวันได้  The supporter ถือเป็นเพจที่มีการถ่ายทอดเรื่องราวของคนเบื้องหลังในสายอาชีพต่าง ๆ และทำ Content เพื่อประโยชน์ของผู้อ่านอย่างแท้จริง

ทักษะที่จำเป็นของ Digital Creator คืออะไร?

ทักษะที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จของ Digital Creator คือความหลากหลาย เพราะสายงานหลักของครีเอเตอร์ ดิจิทัล คือ การเป็นคนที่ชื่นชอบหรือสร้างสิ่งที่ผู้คนจำนวนมากชื่นชอบ และคุณต้องเก่งด้านการตลาดดิจิทัล นอกเหนือจากนั้น ทักษะที่คุณต้องมีจะขึ้นอยู่กับประเภทของ Digital Creator ที่คุณต้องการเป็น ตัวอย่างเช่น บล็อกเกอร์จะต้องเป็นนักเขียนที่ยอดเยี่ยมและน่าสนใจ ซึ่งมีความสามารถในการทำการตลาดบนบล็อกของตัวเอง และอาจจำเป็นต้องมีทักษะ SEO ขั้นพื้นฐาน ส่วน YouTuber จะต้องมีบุคลิกที่ดี สร้างความบันเทิงได้ด้วยทักษะสร้างสรรค์ที่หลากหลาย เช่น การตัดต่อวิดีโอ การวางแผน และการเขียนสคริปต์วิดีโอสนุก ๆ การใช้เครื่องมือแก้ไขภาพ และการตั้งชื่อที่น่าดึงดูดใจในการคลิกได้

Digital Creator สร้างรายได้อย่างไร?

มีวิธีมากมายในการสร้างรายได้ในฐานะของ Digital Creator แต่ส่วนใหญ่จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามตลาดดิจิทัล ได้แก่ การสร้างการขายผลิตภัณฑ์ของตนเอง หรือ Affiliate Marketing ผ่านแบรนด์พันธมิตร สำหรับครีเอเตอร์บางประเภท โอกาสในการเปิดตัวและขายผลิตภัณฑ์นั้นชัดเจน และมีความเป็นไปได้แทบจะไม่มีที่สิ้นสุด

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์จาก Digital Creator

โหนกระแส Official

โหนกระแส Official

รายการข่าวชื่อดังอย่างรายการโหนกระแส ก็เป็นอีกหนึ่งรายการที่มีการถ่ายทอดทางทีวีและช่อง Youtube ซึ่งในช่องทาง Youtube ได้มีการออกแบบให้มีการสมัครสมาชิกรายเดือน เพื่อให้ผู้ชมได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการติดตามข่าวสารที่กำลังเป็นกระแส เพียงเดือนละ 35 บาท รายการโหนกระแสที่ดำเนินรายการโดยคุณหนุ่มกรรชัย ถือเป็นรายการยอดฮิตของคนไทย ที่ถกเถียงเกี่ยวกับกระแสที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และการที่สมาชิกร่วมสมัครเป็น VIP Membership ก็จะทำให้ได้รับ Loyaltybadge ตามระยะเวลาการเป็นสมาชิก พร้อม Emoji คอลเลกชั่น สำหรับการพูดคุยระหว่างการไลฟ์สด ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการสร้างรายได้จากค่าสมาชิก

Chess YouTuber

Levy Rozman (หรือที่รู้จักในชื่อ GothamChess ) ซึ่งเป็นช่อง YouTube ที่เกี่ยวข้องกับหมากรุกที่ใหญ่ที่สุด และมีสมาชิกมากกว่า 4.1 ล้านคน พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างมากกับหลักสูตรหมากรุกออนไลน์ที่รวบรวมขึ้นมาเอง เพราะเขาเป็นปรมาจารย์ด้านหมากรุกระดับนานาชาติ และสามารถผสมผสานทักษะและความรู้อันน่าทึ่งด้านหมากรุก เข้ากับความสามารถในการสร้างเนื้อหาคุณภาพสูงที่โดนใจคนนับล้าน เพื่อสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ เขาสามารถขายเนื้อหาที่สร้างขึ้นฟรี ๆ (ถ้าไม่นับเวลาและประสบการณ์) ได้ในราคา 64 ดอลลาร์ หรือ 80 ดอลลาร์ต่อหลักสูตร ขึ้นอยู่กับความยาก-ง่ายของหลักสูตร

กลยุทธ์ Affiliate Marketing สำหรับ Digital Creator คืออะไร

Affiliate Marketing เป็นเพียงแค่การโฆษณาเท่านั้น ครีเอเตอร์จะร่วมมือกับบริษัทเพื่อเพิ่มปริมาณการเข้าชม ยอดขาย การสมัครใช้งาน หรือสิ่งใด ๆ เพื่อรับเงินจากสิ่งนั้น ครีเอเตอร์สามารถเป็นพันธมิตรกับบริษัทใดก็ตาม ที่ส่งอีเมลพร้อมข้อตกลงที่คุ้มค่า และพูดถึงแบรนด์นั้น ๆ ในวิดีโอ หรือบล็อกของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้อาจไม่ได้ส่งผลดีนัก เนื่องจากคุณต้องมีกลยุทธ์ Affiliate Marketing ที่ครอบคลุม เพื่อเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด

เคล็ดลับและกลยุทธ์สำหรับ Affiliate Marketing ของ Digital Creator คืออะไร:

  • รู้จักกลุ่มเป้าหมาย : การรู้ว่าเนื้อหาของคุณเหมาะกับใครมากที่สุดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
  • เลือกพันธมิตรอย่างระมัดระวัง: มองหาบริษัทที่เหมาะกับคุณ และมีมาตรฐาน
  • มองหาพันธมิตรกับแบรนด์ในกลุ่มเฉพาะ: บริษัทที่อยู่ในกลุ่มเฉพาะแบบเดียวกัน มักจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และจ่ายเงินได้มากขึ้น
  • มีความสม่ำเสมอ: บริษัทต่าง ๆ จะไม่ทำงานร่วมกับคุณ หากไม่มีความสม่ำเสมอ
  • ติดตามความสำเร็จของตัวเอง: หากเป็นไปได้ให้ติดตามและตรวจสอบประสิทธิภาพของตัวเอง
  • วางแผนโปรโมชันอย่างรอบคอบ: ผลลัพธ์ของความแตกต่างระหว่างโฆษณาที่ไร้ระเบียบ และโฆษณาที่มีการวางแผนอย่างรอบคอบ มีความแตกต่างกันอย่างมาก
  • คงความเป็นตัวเอง: คนอาจบอกได้ว่า คุณไม่น่าเชื่อถือหรือพูดถึงข้อดีของผลิตภัณฑ์ที่เกินจริง ซึ่งอาจถูกปฏิเสธภายหลังได้

วิธีเริ่มต้นการเป็น Digital Creator ในแบบคุณ

ตอนนี้คุณรู้แล้วว่า Digital Creator คืออะไร? และทักษะใดที่จำเป็นในการเป็นครีเอเตอร์ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะเริ่มวางแผนในอาชีพของคุณ การเริ่มต้นในฐานะ Digital Creator อาจเป็นเรื่องท้าทายและน่าหวาดหวั่น เมื่อพิจารณาจากจำนวนงานและรูปแบบที่มีอยู่ แต่เส้นทางของครีเอเตอร์แต่ละคนมักจะแตกต่างกันออกไป

ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีวิธีที่ดีที่สุดวิธีเดียวในการเริ่มต้น แต่ขั้นตอนด้านล่างนี้จะให้ประโยชน์ในการเริ่มพิจารณา ว่าควรเริ่มต้นจากจุดใด

ขั้นตอนที่ 1: ค้นหาความถนัดของตัวเอง

ก่อนที่จะมาเป็น Digital Content Creator คุณต้องค้นหากลุ่มเฉพาะทางของคนที่ต้องการสร้างเนื้อหาในแบบเดียวกัน การค้นหากลุ่มเฉพาะทางจะช่วยจุดประกายแพชชั่น และกระตุ้นความสนใจ ซึ่งทำหน้าที่เป็นรากฐานการสร้างเนื้อหาของคุณ

การกระทำเช่นนี้ จะต้องพิจารณาจากความสนใจ จุดแข็ง และความรู้อย่างลึกซึ้ง และพื้นที่เหล่านี้จะเสนอสิ่งที่คุณสามารถสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับมันได้

ลองนึกถึงสิ่งที่คุณสนใจจริง ๆ หัวข้อเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานต่อไปได้แม้ว่าความตื่นเต้นในช่วงแรกจะหายไปแล้วก็ตาม การค้นหาและเติมเต็มมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับ Content Creator ที่จะประสบความสำเร็จอย่างสูงสุด และการสร้างกลุ่มเฉพาะจะช่วยให้ผู้ชมเชื่อมต่อกับคุณได้มากขึ้น เพราะพวกเขาจะเข้าใจว่า พวกเขาจะรับเนื้อหาของคุณไปเพื่ออะไร

นอกจากนี้ มันยังช่วยให้คุณโดดเด่นมากขึ้นในฐานะ Digital Content Creator เมื่อพิจารณาว่าอุตสาหกรรม Digital Creator คืออุตสาหกรรมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีการแข่งขันสูงมากเพียงใด เนื้อหาที่ชัดเจนที่คุณสร้างจะทำให้ผู้คนนึกถึง และแม้กระทั่งสถาบันต่าง ๆ ก็อาจจะยกย่องและเสนอชื่อคุณให้เข้าร่วมโปรแกรมหรือรางวัลสำหรับครีเอเตอร์ได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจะช่วยให้คุณมีความสม่ำเสมอ และมีสมาธิกับมันมากขึ้น และเมื่อไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ความต้องการเฉพาะทางจะสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดขึ้นได้เสมอ 

ขั้นตอนที่ 2: ตั้งเป้าหมาย

เมื่อเข้าใจแล้วว่า คุณต้องการสร้างเนื้อหาประเภทใด และใช้แพลตฟอร์มไหน ขั้นตอนต่อไปของ Digital Creator คือ การกำหนดเป้าหมาย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการทำมันเป็นอาชีพ และมีความสำคัญต่อความสำเร็จ แม้ว่าคุณจะทำเป็นงานอดิเรกก็ตาม

การตั้งเป้าหมาย เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่า คุณจะบรรลุวัตถุประสงค์เมื่อเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ และใช้ประโยชน์จากการสร้างสรรค์ทางดิจิทัลให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร นอกจากนี้ เป้าหมายยังทำหน้าที่เป็นเครื่องเตือนใจสำหรับ Digital Creator ในทุกครั้งที่พวกเขารู้สึกว่าติดขัดเมื่อมีความท้าทายเกิดขึ้น

การเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ อาจเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการตั้งเป้าหมายที่ไม่เหมาะสมและทำไม่ได้ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง และค้นคว้าข้อมูลก่อนที่จะตั้งเป้าหมาย

สิ่งนี้ทำให้แน่ใจได้ว่า เป้าหมายนั้นเหมาะสม ปฏิบัติได้จริง และบรรลุผลได้ภายในกรอบเวลาที่กำหนด ในขณะเดียวกันก็ต้องท้าทายมากเพียงพอ ที่จะทำให้คุณก้าวหน้าต่อไปได้

อย่าลืมกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและชัดเจน ซึ่งจะทำให้คุณมีความรับผิดชอบมากขึ้น นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า เป้าหมายของคุณสามารถวัดค่าได้ เพื่อที่คุณจะได้ติดตามเป็นตัวเลขได้ชัดเจน เช่น กำหนดจำนวนผู้ติดตามในช่วงเวลาที่กำหนด หรือตัวเลขรายได้ที่แน่นอน

สุดท้ายนี้ ให้กำหนดเส้นตายในการบรรลุวัตถุประสงค์ของคุณด้วย หากคุณกำลังตั้งเป้าหมายสำหรับ 3 เดือนต่อจากนี้ และเริ่มต้นในเดือนมกราคม อย่าลืมระบุวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดไว้ด้วย เพื่อช่วยให้คุณมีสมาธิและบรรลุเป้าหมายได้ดีขึ้น

แต่ถ้าไม่บรรลุเป้าหมายก็อย่าเพิ่งท้อแท้ เพียงแค่ตั้งเป้าหมายใหม่ และพยายามทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม จนกว่าคุณจะทำได้สำเร็จ หรือตัดสินใจว่ามันไม่ใช่อาชีพสำหรับคุณ

ขั้นตอนที่ 3: จัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็น

เมื่อเข้าใจประเภทเนื้อหา ตลอดจนเป้าหมายของ Digital Creator คืออะไรแล้ว การรวบรวมเครื่องมือและอุปกรณ์ที่จำเป็นจะเป็นขั้นตอนต่อไป เพราะเนื้อหาประเภทต่าง ๆ ต้องใช้อุปกรณ์ที่แตกต่างกัน เช่น บล็อกเกอร์อาจต้องการเพียงแล็ปท็อป ในขณะที่ YouTuber อาจต้องใช้กล้อง ขาตั้งกล้อง และไมโครโฟน

ขั้นตอนนี้อาจยุ่งยากในช่วงเริ่มต้น แม้ว่าครีเอเตอร์จะต้องการอุปกรณ์มืออาชีพแบบเต็มรูปแบบ แต่การเริ่มต้นจากอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นสิ่งที่เราแนะนำมากกว่า

ดังนั้น หากคุณไม่สามารถซื้อกล้องราคาแพงได้ การใช้สมาร์ทโฟนดี ๆ ที่มีขาตั้งกล้อง ก็สามารถทำงานแทนกันได้ ความเรียบง่ายเหล่านี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้วิธีการทำงานในสิ่งที่คุณมี และป้องกันปัญหาการผัดวันประกันพรุ่งจากความไม่พร้อม

ขั้นตอนที่ 4: สร้างคอนเทนต์อย่างสม่ำเสมอ

ในการเป็นนักสร้างคอนเทนต์ คุณต้องสร้างงานอย่างต่อเนื่อง เพราะความสม่ำเสมอเป็นความสำคัญสำหรับอัลกอริธึมโดยส่วนใหญ่ 

การสร้างคอนเทนต์อาจเป็นเรื่องที่สนุกสนาน และเป็นสิ่งที่น่ากังวลที่สุดในเวลาเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากกรอบความคิดและแนวทางของคุณ

หากใครเพิ่งเริ่มต้น สิ่งที่เราจะแนะนำให้ Digital Creator คือ การเน้นไปที่การอัปโหลดเนื้อหาและเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งจะมีประสิทธิภาพและเติบโตได้เร็วกว่าผู้ที่เน้นความสมบูรณ์แบบ เพราะเนื้อหาชิ้นแรกจะไม่มีวันดีที่สุด และจำเป็นต้องปรับปรุงอยู่เสมอ

แทนที่จะหมกมุ่นในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ควรสร้างความสม่ำเสมอและมุ่งเน้นไปที่การมีส่วนร่วมของผู้ชม เพื่อสร้างการติดตามที่มากขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ ควรติดตามกระบวนการสร้างสรรค์และสังเกตสิ่งที่ได้ผลดี ตัวอย่างเช่น คุณจะค้นพบว่าการถ่ายทำในช่วงเช้าของวันดีกว่าการถ่ายทำในช่วงบ่าย เนื่องจากการมีแสงธรรมชาติที่มากกว่า

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเขียน Podcastor หรือ YouTuber ควรตรวจสอบงานก่อนหน้า เพื่อปรับปรุงงานในอนาคตเสมอ

ขั้นตอนที่ 5: การใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดีย

หากคุณต้องโปรโมตตัวเอง โซเชียลมีเดียจะมีบทบาทสำคัญที่ทำให้ครีเอเตอร์ประสบความสำเร็จ

เราขอแนะนำให้สร้างบัญชีบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลัก ๆ ทั้งหมด เช่น Twitter, Instagram และ Facebook และใช้มันเป็นประจำ แพลตฟอร์มเหล่านี้จะดึงดูดผู้ติดตามใหม่ ๆ จากผลงานและสิ่งที่คุณแสดงออก

ขั้นตอนที่ 6: แสวงหาโอกาสในการสร้างรายได้

หากใครอยากทำอาชีพนี้ การสร้างรายได้ของ Digital Creator คือ วัตถุประสงค์หลักของคุณ ด้วยเหตุนี้ การมองหาโอกาสหรือช่องทางในการสร้างรายได้ จึงควรเป็นขั้นตอนต่อไปหลังจากสร้างเนื้อหาและทำความคุ้นเคยกับกลุ่มเฉพาะทางของคุณแล้ว

เมื่อครีเอเตอร์มีผู้ติดตาม หรือมีการมีส่วนร่วมถึงจำนวนหนึ่ง แพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น YouTube, TikTok, Pinterest, Twitch และ Instagram จะเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ให้คุณ (แม้ว่าโปรแกรมใน TikTok จะมีความสำคัญเพียงเล็กน้อยก็ตาม) หากต้องการทราบว่า คุณมีสิทธิหรือใกล้จะมีสิทธิหรือไม่ ให้ติดตามความคืบหน้าบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ และค้นหาวิธีที่จะเติบโตและบรรลุข้อกำหนดของการได้รับสิทธิ

ส่วนโอกาสอื่นๆ ได้แก่ การร่วมมือกับแบรนด์ สปอนเซอร์ และ Affiliate links แบรนด์จะเป็นผู้ติดต่อครีเอเตอร์ที่เหมาะสมมาเอง อย่างไรก็ตาม หากไม่เป็นเช่นนั้น Digital Content Creator ก็สามารถเริ่มต้นติดต่อกับแบรนด์พร้อมข้อเสนอได้เช่นกัน

ในการดำเนินการนี้ ให้คุณพัฒนาสื่อที่มีรายละเอียดเนื้อหา จำนวนผู้ติดตาม โซเชียลมีเดีย และสถิติการมีส่วนร่วม นอกจากนี้ ลองเสนอแนวคิดให้แก่แบรนด์ต่าง ๆ การสร้างรายได้อาจต้องใช้เวลาในช่วงเริ่มต้น แต่ความต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จะช่วยเร่งกระบวนการนี้ให้เร็วขึ้นได้

เคล็ดลับสำหรับ Digital Content Creator มือใหม่

การทำตามขั้นตอนข้างต้นจะช่วยให้คุณเริ่มต้นและอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องได้ อย่างไรก็ตาม คุณต้องใช้เวลาเพื่อทำให้ตัวเองโดดเด่น และดึงดูดผู้ชมจนกลายเป็นชุมชน และจะสามารถดึงดูดแบรนด์ต่าง ๆ ได้ด้วย ซึ่งเคล็ดลับด้านล่างนี้จะช่วยคุณประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

กำหนดตารางเวลาและจัดระเบียบ

การเผยแพร่เนื้อหาเป็นสิ่งที่ดี แต่การโพสต์เป็นประจำเป็นสิ่งที่ดีกว่า การทำตามกำหนดเวลาเป็นประจำจะช่วยให้ผู้ชมทราบว่า เมื่อใดที่พวกเขาจะได้รับเนื้อหาคุณภาพสูงจากคุณ และการโพสต์เป็นประจำยังช่วยในเรื่องอัลกอริธึมอีกด้วย

ดังนั้น เทคนิคที่ต้องรู้ของ Digital Creator คือ การบันทึกเนื้อหาเป็นชุด และวางแผนการเผยแพร่เนื้อหาตามช่วงเวลา ตัวอย่างเช่น คุณอาจบันทึกวิดีโอ TikTok 5 รายการในวันเดียว และกำหนดเวลาให้โพสต์ทีละรายการตลอดทั้งสัปดาห์ เป็นต้น

ประการที่สอง คุณสามารถสร้างปฏิทินเนื้อหาที่คุณระบุแนวคิดเกี่ยวกับเนื้อหาทั้งหมดที่คุณต้องการสร้าง และกำหนดวันที่บันทึก วันที่สร้าง และวันที่โพสต์ได้ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณคงความสม่ำเสมอเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงกระบวนการสร้าง และปกป้องคุณจากการถูกบล็อกได้ด้วย

ใช้งานโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ และมีส่วนร่วมกับผู้ติดตาม

นอกเหนือจากการโพสต์เนื้อหาแล้ว ความเคลื่อนไหวบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram และ Twitter จะช่วยให้คุณมีส่วนร่วมกับผู้ชม และสร้างการเชื่อมต่อที่เป็นธรรมชาติได้มากขึ้น

สิ่งนี้ไม่เพียงช่วยให้คุณจับผู้ชมและสมาชิกได้อยู่หมัดเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณเข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น และดึงดูดผู้ติดตามใหม่ ๆ ได้ด้วย นอกจากนี้ ยังเพิ่มโอกาสให้พวกเขาได้เข้าถึง เพราะรู้จักคุณได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วย

การเป็น Digital Creator คือเส้นทางที่เหมาะสมกับคุณจริงหรือไม่?

การตัดสินใจว่าการเป็น Digital Creator คือเส้นทางที่เหมาะสมสำหรับคุณหรือไม่ ? ต้องอาศัยการพิจารณาอย่างรอบคอบจากหลายปัจจัย คุณควรให้ความสนใจกับแพชชั่น ไม่ว่าจะมีทักษะที่จำเป็นหรือไม่ รวมถึงการมีเครื่องมือที่จำเป็นหรือมีวิธีที่จะได้มาหรือไม่ก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณเลือกที่จะเริ่มต้น ความสม่ำเสมอและความอดทนเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณดำเนินต่อไป และเริ่มสร้างรายได้ได้ด้วย เนื่องจากจะต้องใช้เวลาในขั้นตอนนี้ คุณจึงควรเริ่มต้นการเป็นครีเอเตอร์แบบนอกเวลาไปก่อน และทำไปพร้อมกับการทำงานอื่น ๆ เพื่อยังชีพของตัวเองไปด้วย

อ้างอิง:

SmallBusinessBlog

GoldmanSachs

InfluencerMarketingHub

คำถามที่พบบ่อย

Content Creator กับ Influencer แตกต่างกันอย่างไร?

Content Creator มีกี่ประเภท?

Content Creator ต้องมีทักษะอะไรบ้าง?