ถ้าคุณอยากให้ผู้คนสนใจธุรกิจของคุณ คุณจะต้องรู้จักการทำ Digital Marketing ก่อน นี่เป็นวิธีที่เร็วที่สุดที่คุณสามารถเข้าถึงผู้มีโอกาสเป็นลูกค้ามากที่สุดโดยใช้เวลาน้อยที่สุด อันที่จริง Digital Marketing จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งเป็นวิธีการโฆษณาที่ถูกใช้มากกว่ารูปแบบการโปรโมทอื่นๆ ก็ว่าได้
สำหรับใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งคุณจะเข้าใจดี คุณศึกษามาแล้ว คุณสร้างเว็บไซต์แล้ว และกำลังต้องการเพิ่มการมองเห็นทางออนไลน์ให้สูงสุดจากการใช้เงินในการโฆษณา อ่านบทความเพื่อศึกษา 9 วิธีโปรโมทเว็บไซต์เพื่อช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นกันเลย
Digital Marketing ต้องการเนื้อหาที่มีคุณค่า
ก่อนที่เราจะพูดถึงวิธีโปรโมทเว็บไซต์ทั้ง 9 ข้อ สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีเทคนิคการตลาดสำหรับเนื้อหาที่จะช่วยให้คุณจัดลำดับความสำคัญและกำหนดเป้าหมายผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
คุณอาจเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “เนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญ” ทุกอย่างที่เป็นการโปรโมททั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาทั้งนั้น โดยเนื้อหาอาจมีได้หลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมคือเนื้อหาที่คุณผลิตควรให้คุณค่าแก่ผู้ชมของคุณอยู่เสมอ
มูลค่าจะช่วยขับเคลื่อนผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าให้เข้ามาสู่ช่องทางการตลาดของคุณ เมื่อพวกเขาเชื่อถือแบรนด์หรือธุรกิจของคุณแล้ว คุณก็จะสามารถเริ่มต้นแนะนำพวกเขาผ่านกลยุทธ์ Customer Journey ของคุณได้ และแจ้งให้พวกเขาทราบถึงสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่คุณมอบให้เพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขา
เนื้อหาที่มีคุณค่ายังสามารถเพิ่มการมองเห็นให้กับเว็บไซต์ของคุณด้วย โดยผู้คนจะแชร์และนำเนื้อที่มีคุณค่ากลับมาใช้ใหม่บนเว็บไซต์ของตน ยิ่งเว็บไซต์ของคุณมองเห็นได้มากเท่าไร ลูกค้าก็ยิ่งมีโอกาสเห็นมากขึ้นเท่านั้นเมื่อพวกเขาค้นหาอะไรก็ตามที่ธุรกิจของคุณเกี่ยวข้องผ่านทางอินเทอร์เน็ต
การมีกลยุทธ์ที่ดีจะช่วยเพิ่มการมองเห็น สร้างแบรนด์ที่โดดเด่น และทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้ในเวลาอันรวดเร็ว
โดยวิธีโปรโมทเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพจะเกี่ยวข้องกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเนื้อหาเพื่อดึงดูดเป้าหมายและลูกค้าให้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ โดยในบล็อกโพสต์ต่างๆ ก็ควรจะมี Internal Link ไปยังหน้าผลิตภัณฑ์หรือบริการ ทำให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
ขอแนะนำให้มีเนื้อหาที่มีส่วนร่วมและกำหนดเป้าหมายไปที่ผู้ชมหลักของคุณ เนื่องจากเนื้อหาเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิด Conversion มากที่สุด
การแชร์เนื้อหาของคุณบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ จะช่วยเพิ่มการมองเห็นให้กับเว็บไซต์ของคุณ และอย่าลืมใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเหล่านั้นโดยรวมลิงก์เพื่อดึงดูดผู้ชมให้เข้าชมเว็บไซต์หลักของคุณด้วย
สิ่งสำคัญคือต้องสร้างเนื้อหาที่สดใหม่อยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นแบบรายวัน รายสัปดาห์ หรือครั้งละสองสัปดาห์ จ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO และมืออาชีพด้านการจัดการโซเชียลมีเดียเพื่อคุณในการโปรโมทหากจำเป็น
ด้วยการอัพเดทเว็บไซต์ของคุณตลอด คุณจะสามารถตรวจสอบความคิดเห็นของลูกค้าและตอบคำถามใดๆ ได้โดยการอ่านความคิดเห็นหรือเพิ่ม API ศูนย์ช่วยเหลือลูกค้า การพูดคุยกับลูกค้าอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าและความต้องการของพวกเขาได้มากขึ้น
และตอนนี้เราก็พร้อมที่จะเจาะลึก 9 วิธีโปรโมทเว็บไซต์เพื่อทำให้เว็บไซต์ของคุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นกันเลย
1. โปรโมทผ่านโทรศัพท์มือถือ
ทุกวันนี้ แทบทุกคนล้วนมีโทรศัพท์มือถือติดตัว ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต โดยปัจจุบัน มือถือเรียกได้ว่าเป็นเป้าหมายในการโปรโมทสินค้าและบริการเลยก็ว่าได้
คุณสามารถใช้กลยุทธ์ Mobile Marketing เป็นวิธีโปรโมทเว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ตได้ ซึ่งสามารถทำได้โดยการใช้บริการการตลาด SMS ออนไลน์ โดยบริการเหล่านี้จะมีโปรแกรมที่คุณสามารถใช้เพื่อสร้างรายการและข้อความที่ร่างขึ้นโดยเฉพาะสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่ใช้มือถือของคุณ
ข้อความที่ว่าอาจรวมถึงการแจ้งเตือนสั้นๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของธุรกิจของคุณ และคำเชิญให้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณโดยใช้ลิงก์ที่ให้ไว้ในข้อความ โดยผู้รับสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณผ่านลิงก์ได้อย่างง่ายดายหากโทรศัพท์มือถือของพวกเขาเปิดใช้งานอินเทอร์เน็ต
โทรศัพท์มือถือเป็นหนึ่งในวิธีที่เร็วที่สุดในการสื่อสารกับลูกค้าของคุณ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ล้วนมีมือถือติดตัวอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
2. กำหนดเป้าหมายในโซเชียลมีเดีย
ธุรกิจในปัจจุบันคงจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีโซเชียลมีเดีย เพราะนี่คือจุดที่ธุรกิจสามารถพบเห็นผู้บริโภคส่วนใหญ่ได้ การมี กลยุทธ์ Social Media Marketing ที่เหมาะสมจะสามารถทำให้ผลกำไรของคุณแตกต่างจากเดิมอย่างมาก
จากจำนวนผู้ใช้ที่แท้จริง แพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับโปรโมทเว็บไซต์คือ Facebook และ Instagram โดยทั้งสองแพลตฟอร์มนี้มีตัวเลือกในการโฆษณาและควรใช้ในทุกแคมเปญ Social Media Marketing
โฆษณา Facebook ควรเป็นที่แรกที่คุณเริ่มโปรโมทเว็บไซต์ของคุณ การสร้างโฆษณาก็ทำได้ง่ายและมีราคาค่อนข้างถูกที่จะลอง คำแนะนำของเราก็คือให้สร้าง Sponsored Post (โพสต์ที่ถูกโปรโมท) ที่ผู้ชมสามารถดูได้ในไทม์ไลน์ของพวกเขา และแบ่งการทดสอบด้วยข้อความโฆษณาสองประเภทที่แตกต่างกันและติดตามการคลิกเข้าชม
ทดลองเป็นเวลา 3-5 วันโดยเปลี่ยนโพสต์ในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน ได้แก่ เช้า บ่าย และเย็น เพื่อดูว่าช่วงใดที่ได้ผลดีที่สุด และหลังจากนั้นก็จะเป็นการทุ่มเงินให้ช่วงเวลาการโพสต์ที่ได้ผลมากที่สุดนั่นเอง
Facebook ช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายผู้ชมด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใคร โดยจะมีข้อมูลผู้ใช้และที่อยู่ทั่วไปที่คุณสามารถป้อนได้ แต่จุดที่ Facebook โดดเด่นจริงๆ ก็คือความสามารถในการรวมความสนใจและกลุ่มและเพจที่เกี่ยวข้องไว้ในเป้าหมายของคุณนั่นเอง
ค้นหาความสนใจและกลุ่มที่สอดคล้องกับธุรกิจของคุณอย่างใกล้ชิด ทดสอบข้อความโฆษณา และติดตามว่าอะไรที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุด
ในการติดตามผลลัพธ์ ให้ติดตั้ง Facebook Pixel ลงในส่วนบนของเว็บไซต์ จากนั้นคุณจะสามารถเก็บข้อมูลจากพิกเซลนั้นเพื่อสร้างรายการกำหนดเป้าหมายใหม่และกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันในส่วนกลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเองของ Facebook
Instagram ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นแพลตฟอร์มสำหรับวิธีโปรโมทเว็บไซต์ที่ทรงพลังเหมือนกัน แม้ว่าจะมีผู้ใช้ไม่มากเท่า Facebook แต่ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในทุกปี โดย Instagram Story คือฟีเจอร์ใหม่ที่ยอดเยี่ยมที่สุด และยังเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเป็นรูปแบบการโฆษณาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดอีกด้วย
เพื่อทำให้การโปรโมทบน Instagram ได้ผลสำหรับธุรกิจของคุณ ให้สร้างโฆษณาและโปรโมชั่นใน Instagram Story ของคุณ และอย่าลืมบันทึกและเก็บ Story ของคุณ เนื่องจาก Story จะหมดอายุใน 24 ชั่วโมงหลังจากโพสต์ครั้งแรก
เมื่อบันทึกแล้ว ให้รวบรวมโฆษณาและการโปรโมทของคุณ และกระจายไปยัง Instagram Highlight ของคุณ หรือจะสร้าง Highlight เฉพาะสำหรับการโฆษณาและโปรโมทก็ได้เหมือนกัน ซึ่งจะสามารถตั้งให้แสดงตรงด้านบนของหน้าบัญชีของคุณได้
โดยการทำแบบนี้จะทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักและผู้มาใหม่ทำการซื้อได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
3. ใช้อีเว้นท์วิดีโอและไลฟ์สด
การใช้วิดีโอและการไลฟ์สดคือเคล็ดลับการทำ Digital Marketing ที่มีประสิทธิภาพที่สุด โดย Facebook รายงานว่าผู้คน 500 ล้านคนบนแพลตฟอร์มมีการดูวิดีโอถึง 100 ล้านชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว
นอกจากนี้คุณยังสามารถดึงดูดผู้ชมของคุณด้วยการไลฟ์สด โดยการทำแบบนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคดูบริการและผลิตภัณฑ์ของคุณได้แบบเรียลไทม์ การไลฟ์สดยังช่วยให้คุณสร้างแบรนด์ที่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น
คุณยังสามารถโปรโมทผ่าน Video Ads บนแพลตฟอร์มวิดีโอ เช่น YouTube และ Vimeo โดยวิดีโอและการโฆษณาจะสร้างการมองเห็นให้กับธุรกิจของคุณได้
นอกจากนี้ การใส่ลิงก์ก็จะสามารถกระตุ้นให้ผู้ชมเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณได้ ซึ่งพวกเขาจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการที่คุณนำเสนอนั่นเอง ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีการโปรโมทเว็บไซต์ใน Google ที่ควรลอง
4. ใช้งานกลยุทธ์ Email Marketing
Email Marketing (การโฆษณาผ่านอีเมล) เป็นอีกหนึ่งรูปแบบการสื่อสารสำหรับวิธีโปรโมทเว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ต โดยเนื้อหาจดหมายข่าวทางอีเมลของคุณควรได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับสิ่งต่างๆ เช่น เคล็ดลับเชิงลึก กระแส และข้อมูลใหม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของคุณ
ผู้รับจะได้รับทราบเกี่ยวกับการพัฒนาใหม่ๆ เกี่ยวกับแค็ตตาล็อกผลิตภัณฑ์ของธุรกิจได้ผ่านจดหมายข่าวของคุณ นอกจากนี้ยังอาจรวมถึงข้อมูลใหม่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมของคุณโดยรวม ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนและมอบความบันเทิงให้กับกลุ่มเป้าหมายผ่านรูปแบบอีเมลที่หลากหลาย
กลยุทธ์นี้จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการพยายามขายให้กับผู้บริโภคโดยตรงโดยไม่มีข้อมูลใดๆ เพิ่มเติม ให้จำไว้ว่าข้อมูลใหม่มักจะจุดสร้างความอยากรู้อยากเห็นให้กับผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า และกระตุ้นให้พวกเขาเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ
Digital Marketing จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และสิ่งสำคัญคือต้องปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องผ่านการอัพเดตกลยุทธ์การตลาดผ่านเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพ
ด้วยการมีเว็บไซต์ที่อัพเดทตลอดเวลาและการติดตามการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณอย่างต่อเนื่องผ่านการตัวชี้วัดการตลาดดิจิทัล คุณก็จะสามารถประเมินกิจกรรมของผู้บริโภคทางอินเทอร์เน็ตได้อย่างแม่นยำ และใช้กลยุทธ์ในการพาผู้บริโภคไปยังหน้าเว็บที่สำคัญของคุณ เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตนั่นเอง
5. ค้นหาผู้ชมผ่านการ Podcast
Podcast (พอดแคสต์) กลายเป็นมาตรฐานใหม่แห่งการฟัง ทั้งยังน่ามีส่วนร่วมและมีความเฉพาะกลุ่มมากกว่าวิทยุทั่วไป เนื่องจากรายการวิทยุแบบดั้งเดิมมีจำนวนผู้ชมลดลง รายการ Podcast จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นแหล่งโปรโมทที่ยอดเยี่ยมทีเดียว
ผู้คนเชื่อมต่อกับผู้จัดรายการ Podcast เพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก Podcast ส่วนใหญ่ แม้ว่าจะมีการผลิตมาอย่างดี แต่ก็มีความเป็นตัวเองและมีความไม่เป็นทางการมากกว่า
เนื่องจากเป็นเรื่องง่ายมากที่จะฟังหลายตอนพร้อมกัน ผู้ฟังจึงเริ่มรู้จักผู้จัดรายการอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และให้ความไว้วางใจผู้จัดรายการอย่างลึกซึ้งมากขึ้นเมื่อพวกเขายังคงฟังตอนต่อๆ ไปอยู่
สิ่งนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้พวกเขาเปิดกว้างต่อการโฆษณามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้จัดนำบุคลิกของตนเองมาสู่โฆษณา Podcast ยังกำหนดเป้าหมายเฉพาะกลุ่มได้แม่นยำยิ่งขึ้นจากการอาศัยแค่เนื้อหาเพียงอย่างเดียว
หากมีใครสนใจเกี่ยวกับการออกแบบเว็บไซต์ พวกเขาก็จะสามารถค้นหา Podcast ที่เน้นการออกแบบเว็บไซต์ได้ง่ายกว่าการค้นหาในวิทยุหรือโทรทัศน์แบบเดิมๆ
ด้วยการเข้าถึง Podcast ผ่านโทรศัพท์มือถือ ผู้ฟังก็จะสามารถฟังไปพร้อมๆ กับการเดินทาง ทั้งยังได้เปลี่ยนเวลาเหล่านั้นให้เป็นการเรียนรู้หรือเป็นความเพลิดเพลินที่ทรงพลังได้อีกด้วย
รูปแบบการบริโภคสื่อที่เปลี่ยนแปลงไปแบบนี้กำลังสร้างโอกาสอันยิ่งใหญ่ให้นักการตลาดในการเข้าถึงผู้ชมของตนบ่อยขึ้นผ่านทาง Podcast
หากคุณต้องการรวมการโปรโมทผ่าน Podcast ไว้ในงบโฆษณาของคุณในปีนี้ ต่อไปนี้ก็คือราคามาตรฐานสำหรับการโฆษณา โดยอ้างอิงมาจาก Advertise Cast
- 500 บาทสำหรับ CPM 10 วินาที
- 600 สำหรับ CPM 30 วินาที
- 900 สำหรับ CPM 60 วินาที
(CPM ย่อมาจาก “ต้นทุนต่อการแสดงผล” และเป็นคำย่อสั้นๆ ของต้นทุนต่อการแสดงผล 1,000 อีกที)
6. เพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บแบบฟรีๆ จากฟอรัม
ฟอรัมเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าเนื่องจากทำงานเป็นแพลตฟอร์มบอกต่อแบบปากต่อปากทางอินเทอร์เน็ต ในชุมชนเหล่านี้ การสนทนาทุกรูปแบบจะเกิดขึ้นระหว่างแต่ละฝ่าย
ฟอรัมทางอินเทอร์เน็ตดูเหมือนจะมีอยู่มากมายไร้ที่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม จะใช้เวลาเพียงไม่กี่ขั้นตอนในการกระตุ้น Traffic (จำนวนคนเข้าเว็บไซต์) โดยทั่วไปแล้วผู้คนที่ได้รับความไว้วางใจจะให้คำข้อมูล คำแนะนำ และเสนอวิธีแก้ปัญหาให้กับผู้อื่นที่ต้องการคำตอบ
หากแบรนด์ของคุณรับเป็นแหล่งที่เชื่อถือได้ คุณก็สามารถเริ่มเสนอบริการของคุณเป็นทางแก้ปัญหาที่ให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้ ข้อแม้เดียวคือต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่คุณจะสามารถเป็นสมาชิกที่เชื่อถือได้
ใครที่ใจร้อนที่พยายามยัดเยียดเว็บไซต์ของตัวเอง อาจไปทำลายยอดขายในอนาคตได้ทันที เพราะพวกเขาไม่ได้คำนึงถึงภาพรวมที่กว้างขึ้น เพราะ Forum Marketing ถือเป็นกลยุทธ์การตลาดระยะยาว
โดยทั่วไปแล้วการโฆษณาแบบนี้จะไม่ให้ผลตอบแทนแบบที่คุณต้องการในเวลาเพียงไม่กี่เดือน อย่างเร็วที่สุด คุณควรรอประมาณ 5-6 เดือนก่อนที่จะโพสต์เกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา
อย่างที่พูดไป ถ้าคุณเข้าร่วมชุมชนและมีส่วนร่วมด้วยการโพสต์เพื่อแจ้งให้สมาชิกทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อที่พวกเขาสนใจ คุณก็จะสามารถเตรียมทำให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จในอนาคตได้แน่นอน
ชุมชนทางอินเทอร์เน็ตชอบที่จะสนับสนุนชุมชนของตนเอง ถ้าคุณสร้างความสัมพันธ์ที่ดีคุณจะได้รับผลประโยชน์โดยไม่ต้องลงทุนแม้แต่บาทเดียว โดย Forum Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดระยะยาว กลยุทธ์เหล่านี้จึงอาจครอบคลุมเป้าหมายหลักที่แตกต่างกันนอกเหนือจากการสร้างรายได้เพียงอย่างเดียว
หากคุณพบฟอรัมที่ไม่เหมาะในการสร้างรายได้ แต่มีการสนับสนุนให้ลูกค้าใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณในรูปแบบใหม่และน่าสนใจ คุณก็จะพบว่าธุรกิจของคุณจะมี Organic Growth จากการบอกต่อแบบปากต่อปากนั่นเอง
สิ่งสำคัญคือต้องให้ความสนใจกับชุมชนประเภทนี้ เนื่องจากชุมชนเหล่านี้สามารถเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณได้ฟรีๆ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะไม่เปลี่ยนใจไปใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ แต่ก็สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ และการวิเคราะห์เว็บไซต์คู่แข่ง
ระวังอย่าโพสต์บ่อยเกินไปด้วยตัวคุณเอง คุณต้องการให้ชุมชนควบคุมและสร้างการสนทนาด้วยตนเอง หากคุณเป็นผู้นำการสนทนาบ่อยเกินไป คุณอาจพลาดข้อมูลเชิงลึกว่าการใช้งานเว็บไซต์ของคุณมีการพัฒนาไปในทิศทางใหม่อย่างไรได้
ฟอรัมที่ใหญ่ที่สุดบนอินเทอร์เน็ต มีการเข้าถึงคำนับล้านและครอบคลุมเกือบทุกหัวข้อที่คุณนึกออก นี่ก็คือฟอรัมที่คุณอยากเจาะกลุ่มลูกค้าอย่างแน่นอน
เนื่องจากขนาดของฟอร์มที่ใหญ่เกินไป กุญแจสำคัญในการใช้ Reddit อย่างมีประสิทธิภาพก็คือการค้นหา subreddit ที่เหมาะกับตลาดของคุณ เริ่มต้นแผนการตลาดในฟอรัมของคุณด้วยการเข้าร่วม subreddit สองสามหัวข้อ เพิ่มคุณค่าให้กับกลุ่ม และโพสต์ให้สม่ำเสมอแต่ต้องสามารถจัดการได้ด้วย
เพื่อเริ่มการค้นหาครั้งแรก ให้ใส่โค้ดบรรทัดนี้ลงใน Google:
[site:reddit.com <ตลาดของคุณ> -inurl:”comments”]จากคำค้นหานี้ คุณก็จะพบกับฟอรัมที่คุณสามารถเข้าร่วมเพื่อกำหนดเป้าหมายผู้คนในตลาดของคุณเอง
แต่ต้องจำไว้ว่าคุณกำลังคุณต้องค่อยๆ ทำไปในระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้น คุณกำลังโปรโมทเว็บที่จะให้ผลดีประโยชน์ระยะยาว ต้องเย็นๆ และอดทน สร้างปฏิทินเนื้อหาและโพสต์เป็นประจำเพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับชาว Redditor
ผู้ที่ใช้ Reddit จะเข้าใจดี พวกเขาสามารถบอกได้ว่าตอนไหนที่มีนักการตลาดเข้ามาอยู่ในกลุ่ม วิธีแก้ไขคือต้องอดทน สร้างบัญชีในฐานะบุคคลแทนที่จะเป็นนิติบุคคล และให้คำแนะนำที่เกี่ยวข้องกับความต้องการของผู้ใช้
หากคุณผลักดันเว็บไซต์ของคุณเร็วเกินไป ผู้คนจะรู้สึกว่าคุณเป็นนักการตลาดและแบนคุณจาก subreddit ของพวกเขา จงเข้าใจไว้ว่าแต่ละ subreddit จะมีความเฉพาะของตัวเอง อะไรที่ได้ผลดีในบาง subreddit อาจจะไม่ได้ผลใน subreddit อื่นๆ นั่นเอง
Subreddit บางหัวข้อจะมีการรวมมีมไว้เพื่อสื่อสาร และบาง Subreddit จะเน้นไปที่โพสต์ยาวๆ ทำตามตามหลักเกณฑ์ทั่วไปของแต่ละ subreddit และพยายามช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มที่ ถ้าคุณทำแบบนี้ได้ คุณก็จะได้ประโยชน์แน่นอน
หลังจากนั้นสักพัก คุณจะมาถึงจุดที่คุณได้ตอบแทนชุมชนและสร้างความไว้วางใจขึ้นมา ในตอนนี้คุณจะสามารถเลือกคำถามที่เหมาะสมและให้คำตอบ รวมถึงลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณที่เสนอให้เป็นวิธีแก้ปัญหาได้นั่นเอง
7. ใช้เพจ vs กลุ่ม Facebook
คุณจะพบว่าวิธีโปรโมทเว็บไซต์ที่ใช้ในฟอรัมจะคล้ายกับกลยุทธ์การตลาดบนเพจและกลุ่ม Facebook ต่างๆ โดยทั้งหมดจะมุ่งเน้นไปที่แนวทางระยะยาวและใช้แนวทางที่ให้คุณค่ากับผู้ใช้
ซึ่งจะต่างจากทางเลือกที่ต้องชำระเงินของ Facebook เพราะผู้คนจะถูกดึงดูดไปยังเนื้อหาที่อาจช่วยพวกเขาได้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
เพจ
เพจเป็นวิธีง่ายๆ ในการสร้างโปรไฟล์สาธารณะสำหรับเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้ผู้คนสามารถรับข้อมูลจากคุณโดยตรงโดยไม่ต้องออกจาก Facebook ถือเป็นส่วนเสริมที่ดีเยี่ยมในเทคนิคการโฆษณา โดยคุณสามารถให้แหล่งข้อมูล เคล็ดลับ และโปรโมชันฟรีได้อย่างง่ายดาย
เพื่อที่จะใช้ประโยชน์สูงสุดจากเพจของคุณ ให้กำหนดเป้าหมายผู้ใช้ที่มีแนวโน้มจะมีส่วนร่วมกับเนื้อหาเพจของคุณและให้สามารถช่วยให้เพจคุณเติบโตได้ โดยคุณสามารถทำได้โดยการกำหนดเป้าหมายเพจ เช่น การโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก
การโปรโมทเพจของคุณด้วยโฆษณาเหล่านี้จะทำให้คุณมีโอกาสได้รับการดูจากผู้สนใจมากกว่าคำเชิญกดไลค์เพจทั่วไป
ถ้าเพจของคุณเริ่มล้าสมัย ให้ลองเปลี่ยนความถี่และเวลาในการโพสต์ โดยคุณสามารถทดลองโพสต์เนื้อหาได้ตลอดทั้งวันและติดตามว่าเวลาใดที่มีการโพสต์เนื้อหามากที่สุด
และหลังจากนั้นก็จะกลายเป็นเรื่องของการเพิ่มโพสต์ในช่วงที่คุณได้รับการมีส่วนร่วมมากที่สุดนั่นเอง
กลุ่ม
เมื่อเจาะลึกลงไป กลุ่มจะทำงานต่างจากเพจอยู่หน่อยๆ โดยคุณจะต้องขอเข้าร่วมกลุ่ม และจะไม่เปิดเผยต่อสาธารณะเหมือนกับเพจ
Facebook มีฟีเจอร์กลุ่มที่ยอดเยี่ยม โดยมีชุมชนทุกประเภทที่ครอบคลุมหัวข้อที่เหมาะกับทุกกลุ่ม โดยคุณจะพบว่าตลาดของคุณมีหลายกลุ่มที่เกี่ยวข้องกัน
สิ่งที่คุณต้องทำคือการค้นหากลุ่มเฉพาะเหล่านี้และจัดหมวดหมู่ตามความเกี่ยวข้อง การมีส่วนร่วม และผู้ใช้ เมื่อคุณพบกลุ่มสำหรับธุรกิจ ให้สร้างปฏิทินเนื้อหาที่ครอบคลุมสำหรับกลุ่มเหล่านั้นทั้งหมด
คำแนะนำของเราคือให้เลือกประมาณ 5 กลุ่มและกำหนดเวลาโพสต์ให้แต่ละกลุ่มสอดคล้องกับวันในสัปดาห์ โดยโพสต์แต่ละกลุ่มจะมีวันเป็นของตัวเอง เพื่อให้คุณได้มีส่วนร่วมในชุมชนเหล่านี้
มุ่งเน้นที่การให้คุณค่ากับคำตอบของคุณ และเริ่มทิ้งลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณในโพสต์เป็นครั้งคราว เมื่อผู้ใช้เห็นโพสต์ของคุณมากขึ้น คุณก็จะมีโอกาสเพิ่มปริมาณการเข้าชมกลุ่ม Facebook แบบออร์แกนิกมากขึ้นเท่านั้น
และอย่าลืมทำตามกฎของกลุ่มเด็ดขาด ใช้เวลาหาว่าผู้คนโพสต์ โต้ตอบ และแสดงความคิดเห็นยังไง คุณต้องจำลองพฤติกรรมผู้ใช้ทั่วไป คุณจึงไม่ควรผลักดันผลิตภัณฑ์หรือบริการสู่ชุมชนอย่างรวดเร็ว
จากนั้น คุณสามารถเริ่มวางลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณได้ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าสามารถใส่ลิงก์ในโพสต์ได้หรือไม่ ให้สอบถามผู้ดูแลกลุ่มนั้นๆ
8. โฆษณาแบบบอกต่อจากคำตอบ
เมื่อค้นหาคำถามในบล็อก คุณก็อยากได้คำตอบที่ดีและได้ยอดไลค์มากที่สุด ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากถ้าคุณต้องเลือกคำตอบที่มีหลากหลาย ให้หาคำถามที่ดีของคุณที่ไม่เหมือนใครหรือที่สามารถตอบได้ 1-2 คำตอบ
โดยคุณจะพบคำตอบเหล่านี้ซึ่งสามารถขยายไปสู่รายละเอียดเพิ่มเติมได้ การตอบคำถามเฉพาะกลุ่มเล็กๆ ได้ดีจะสามารถทำให้คุณโดดเด่นขึ้นมาได้นั่นเอง
หากคุณมีปัญหาในการหาคำตอบ ให้ดูคำตอบที่ได้รับไลค์มากที่สุด และแยกแยะความคล้ายกันของคำตอบเหล่านั้น ข้อมูลนี้สามารถให้โครงการตอบเพื่อใช้ในการพัฒนาคำตอบสำหรับคำถามเฉพาะได้
คุณจะพบว่าคำตอบอันดับต้นๆ ไม่ได้เป็นแค่คำตอบที่ตรงไปตรงมาแค่อย่างเดียว แต่ยังให้บริบทของปัญหาก่อนตอบอีกด้วย
ถ้าเกิดมีคำถามหลายข้อเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณตอบได้ ให้ใช้โอกาสนี้สร้างโพสต์พร้อมใส่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณ นี่เป็นกลยุทธ์อันทรงพลังในการดึงดูด Traffic แบบออร์แกนิกมายังเว็บไซต์ของคุณได้ ถ้าใช้ได้อย่างถูกต้อง
สิ่งสุดท้ายที่ต้องพิจารณาคือคุณชื่นชอบหัวข้อแค่ไหน คุณต้องมีความหลงใหลในหัวข้อที่คุณกำลังตอบเพราะมันแสดงให้เห็นว่า คุณต้องการให้คำตอบที่ดีจริงๆ
ถ้าหัวข้อดูแห้งๆ และต้องการอะไรมากระตุ้นบ้าง ให้ลองใส่ความเป็นตัวเองลงในคำตอบของคุณ โดยทุกคำตอบควรเจาะจง แต่ควรเขียนในลักษณะที่แสดงถึงความคิดริเริ่ม อารมณ์ขัน หรือความกระตือรือร้นของคุณด้วย
Quora
Quora เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีเยี่ยมสำหรับการค้นหาคำถามเกี่ยวกับตลาดที่คุณสามารถตอบได้ โดยคุณสามารถใช้สิ่งที่รู้มาในเรื่องการตอบได้กับที่นี่เหมือนกัน
ลองนึกถึงการตอบคำถามใน Quora ให้เหมือนกับ Guest Post: ค้นหากลุ่มเฉพาะและคนที่จะตอบ เมื่อคุณพบคำถามที่ดีที่สุดที่คุณสามารถตอบได้อย่างมั่นใจแล้ว ให้ตอบคำถามให้ครบถ้วนพร้อมใส่ลิงก์ไปยังเว็บไซต์ของคุณเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
คุณจะได้กลายเป็นผู้รอบรู้ในด้านนี้ พร้อมได้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการเป็นผู้นำคนใหม่
9. เสนอแหล่งข้อมูลฟรีสำหรับการสมัคร
สุดท้ายคือการนำเสนอแหล่งข้อมูลฟรีให้กับผู้เข้าชมของคุณ และต้องให้คุณค่าด้วย (ไม่อย่างนั้นก็ไม่ควรทำ) โดยผู้คนจะใช้เฉพาะสิ่งที่มีคุณค่าต่อตนเองเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นของฟรีหรือไม่ก็ตาม
โดยแหล่งข้อมูลฟรีทั่วไปส่งผลดีในปีที่ผ่านมา ได้แก่ คำแนะนำและอินโฟกราฟิก ลองสร้างเอกสารเหล่านี้เพื่อใช้เป็นเนื้อหาเพื่อการตลาดและรวมไว้ในเว็บไซต์ของคุณและให้เป็นลิงก์ดาวน์โหลด
เมื่อคลิกแล้ว คุณสามารถแจ้งให้ผู้เข้าชมสมัครรับจดหมายข่าวทางอีเมลของคุณเพื่อแลกกับแหล่งข้อมูลของคุณ
สิ่งที่ควรทำต่อไป
การเปิดธุรกิจขนาดเล็กนั้นอาจต้องใช้เงินจำนวนมาก นั่นเป็นเหตุผลที่คุณจะสังเกตเห็นว่าวิธีโปรโมทเว็บไซต์ในบทความของเราไม่จำเป็นต้องใช้เงินเยอะเลย ลองมาดูเทคนิคการโฆษณาให้ละเอียด และหาเวลาในการนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้กันเลย
ถ้าคุณทำได้ ธุรกิจของคุณก็จะต้องเติบโตอย่างแน่นอน