defi ย่อมาจาก decentralized finance เป็นระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีจุดมุ่งหมายเพื่อปฏิวัติวงการการเงินและการให้สินเชื่อในรูปแบบดั้งเดิม
defi จะให้คุณได้รับดอกเบี้ยจากโทเค็นที่ที่อยู่ในบัญชีที่ฝากไว้ โดยไม่ผ่านสถาบันที่เป็นบุคคลที่สามแต่อย่างใด
ในคู่มือนี้ จะอธิบายให้คุณได้ทราบว่า defi crypto คืออะไร และคุณจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนในช่องทางนี้อย่างไร ผ่านการลงทุนง่าย ๆ ที่ทำที่ไหนก็ได้
ทำความรู้จักกับ DeFi Crypto
โดยสรุปแล้ว DeFi เป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่ของวงการสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน DeFi ถูกสร้างขึ้นเพื่อแทนที่ธนาคารและสถาบันการเงินที่มีอยู่ด้วยการซื้อขายแบบกระจายอำนาจผ่าน smart contract
- เช่น หากคุณต้องการได้รับดอกเบี้ยจากเงินฝากของคุณ
- เมื่อฝากเงินเข้าไปในบัญชีแบบเดิม คุณจะได้ผลตอบแทนประมาณ 0.1% ต่อปี
- แต่ถ้าลองเทียบกับการฝากโทเค็นในแพลตฟอร์ม DeFi คุณสามารถจะได้ผลตอบแทนในสองหรือสามหลักได้เลยทีเดียว
- นอกจากนี้ คุณไม่จำเป็นต้องผ่านรูปแบบการเงินรวมศูนย์ เพราะแพลตฟอร์ม DeFi มีการกระจายอำนาจ
- ดังนั้น คุณก็วางใจได้เลยว่าเงินของคุณได้รับการดูแลอย่างดีจากการทำสัญญาอัจฉริยะที่ปลอดภัย
จากตัวอย่าง คุณสามารถทำตามได้หลายวิธี เช่น การฝากไว้ในบัญชีคริปโตเพื่อทำ staking หรือ yield farming ซึ่งเราจะทำการอธิบายแนวทางเกี่ยวกับ defi คริปโตเหล่านี้ต่อไป
สำหรับส่วนอื่นที่จะอธิบายคือ defi ที่เกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน ที่ปกติหากคุณต้องการกู้เงินก็ต้องกู้ผ่านธนาคารหรือผู้ให้กู้ในรูปแบบออนไลน์
ปัญหาคือผู้ให้กู้จะขอให้คุณกรอกรายละเอียดเกี่ยวกับโปรไฟล์ทางการเงินและประวัติเครดิตของคุณที่ยุ่งยากและเสียเวลา
- แต่อีกทางหนึ่ง ถ้าคุณเลือกใช้แพลตฟอร์มสินเชื่อ defi คริปโต
- ผู้ให้บริการ defi เหล่านี้จะที่อนุญาตให้คุณยืมโดยไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ หรือมีการตรวจสอบเครดิตกับคุณให้ยุ่งยาก
- และก็ยังไม่จำเป็นต้องอัปโหลดเอกสารเพื่อรองรับการขอสินเชื่อด้วย
- ผู้ให้บริการ defi คริปโตต้องการแค่ให้คุณวางประกันในรูปแบบคริปโตและการกู้ของคุณจะได้รับการอนุมัติทันที
โดยรวมแล้ว แพลตฟอร์ม defi คริปโตเป็นแพลตฟอร์มที่พาบริการทางการเงินกลับคืนสู่มือของทุกคน ทำให้คุณสามารถควบคุมธุรกรรมทางการเงินได้เต็มที่ แทนที่จะต้องดำเนินการผ่านสถาบันการเงินที่เป็นบุคคลที่สาม
วิธีการทำงานของ DeFi
ตอนนี้เราได้นำเสนอข้อมูลพื้นฐานไปแล้ว และต่อจากนี้ไปคือคู่มือเริ่มต้นเกี่ยวกับ defi เริ่มต้นซึ่งเป็นพื้นฐานหลักของคู่มือนี้
เริ่มต้น เราจะอธิบายถึงวิธีการการลงทุน defi ที่น่าสนใจ ที่จะช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน
บัญชีดอกเบี้ย DeFi Crypto
การเข้ามาของตลาด defi จะทำให้เกิดการแทนที่ของตลาดการเงินที่มีรูปแบบการจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากแบบเดิม ๆ ซึ่งในอเมริกา สถาบันการเงินรายย่อยมีการจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำกว่า 0.10% ต่อปี ที่แม้จะมีการปรับเพิ่มบ้างตามอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง แต่ก็อย่างหวังเลยว่าธนาคารจะปรับให้เกินระดับ 1% ต่อปี
สำหรับคนที่มีการฝาก CD accounts (ฝากประจำ) ที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงเมื่อทำการฝากไว้แบบรายเดือนหรือปี แต่ก็ยังน้อยอยู่ดี กับผลตอบแทนแค่ 2-3% ต่อปีที่ธนาคารให้
ลองมาเปรียบเทียบกับ แพลตฟอร์ม defi คริปโตที่ดีที่สุดในตลาดที่จะให้ผลตอบแทนสูงกว่ามาก
ตัวอย่างเช่น
- คุณสามารถฝาก USD, EUR, หรือ GBP เข้าไปไว้ในบัญชีดอกเบี้ยคริปโตชั้นนำของแพลตฟอร์ม Aqru
- จากนั้นคุณสามารถแปลงเงินฝากของคุณเป็น เหรียญมูลค่าคงที่ (Stablecoin) เช่น USD Coin (USDC) ซึ่งผูกติดกับดอลลาร์สหรัฐ
- การทำแบบนี้จะทำให้คุณจะได้รับผลตอบแทนที่ 12% ต่อปี
- ยิ่งไปกว่านั้น การลงทุนในแพลตฟอร์ม Aqru นี้ไม่เหมือนกับ CD accounts ทั่วไป เพราะจะไม่มีข้อจำกัดในการกำหนดเวลาของการฝาก
นอกเหนือจากผลตอบแทน 12% ต่อปี จาก Stablecoin แพลตฟอร์ม Aqru ยังเสนอผลตอบแทนที่ 7% สำหรับทั้งการลงทุนใน Bitcoin และ Ethereum
การทำ DeFi Crypto Staking
การนำเงินเข้าบัญชีดอกเบี้ยคริปโต DeFi ไม่ใช่วิธีเดียวในการสร้างผลตอบแทนในตลาด DeFi เพราะคุณสามารถเลือกใช้การทำ Staking เพื่อสร้างผลตอบแทนได้ด้วย
การทำ Staking จะให้ผลตอบแทนต่อปีที่ดี ในการล็อคโทเค็นของคุณตามกรอบเวลาที่กำหนด ซึ่งจะให้ผลตอบแทนที่สูงมากกว่าถ้าเลือกทำผ่าน DEX (decentralized exchange)
ตัวอย่างเช่นกระดานแลกเปลี่ยน DeFi Swap ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม DEX ชั้นนำ ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่สูงถึง 75% เมื่อทำ Staking เป็นเวลา 365 วัน แต่คุณก็สามารถเลือกรับผลตอบแทนที่น้อยกว่านั้นได้กับการทำ Staking เป็นเวลา 30, 90, หรือ 180 วัน
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เมื่อครบกำหนดเวลาที่เลือกได้ คุณจะได้รับโทเค็นของคุณคืนพร้อมกับดอกเบี้ยซึ่งเป็นผลตอบแทนที่คุณสร้างขึ้นจากการทำ Staking
การทำ DeFi Yield Farming
คุณอาจสนใจการทำ defi farming ว่า defi เล่นยังไงถ้าเป็นลงทุนในรูปแบบของการฟาร์มเมื่อเริ่มจะเข้าใจถึงการทำงานของตลาด defi คริปโต ซึ่งการลงทุนรูปแบบนี้จะมีความคล้ายกับการทำ defi staking แต่จะต่างกันตรงที่โทเค็นที่คุณเอาไปฝากถูกนำไปให้คนอื่นยืมไปใช้และคุณจะได้รับผลตอบแทนกลับมาในรูปแบบต่าง ๆ
ในขณะที่การทำ Staking คุณจะต้องใช้คริปโตรายการเดียว แต่การฟาร์ม defi จะเป็นการที่คุณให้ผู้ยืมทำการยืมสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณไป และจะถูกนำไปใช้ในระบบที่ทำให้เกิดสภาพคล่องสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายในแพลตฟอร์ม DEX
ตัวอย่างเช่น
- หากในแพลตฟอร์ม DEX มีให้เทรดคู่ ETH/DAI
- ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถใช้ DEX เพื่อแลกเปลี่ยนโทเค็น ETH กับ DAI หรือกลับกัน
- แต่เพื่อให้นักลงทุนสามารถเทรดได้โดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม ในระบบจะต้องมีจำนวนโทเค็นที่ฝากไว้ให้มีสภาพคล่องที่เพียงพอ
- และเพื่อให้การทำรายการเทรดสำเร็จระบบก็จะต้องมีการขอยืมโทเค็นที่ไม่ได้ใช้งานของคุณ นั่นก็เลยจะทำให้คุณจะได้รับผลตอบแทนกลับมา
ในการจะเป็น defi farmer ได้ คุณจะต้องมีการเตรียมโทเค็นแต่ละรายการในจำนวนที่เท่ากันไว้เพื่อทำการขุด DeFi ภายในคู่ที่เกี่ยวข้องเอาไว้ เช่น หากคุณเลือกกำหนดการทำฟาร์ม Ethereum ไว้ที่มูลค่า 500$ คุณก็จะต้องระบุจำนวนเงินที่เท่ากันในเหรียญ DAI ด้วย
ในแง่ของอัตราส่วนของผลตอบแทนต่อปี จะต่างจากการทำ Staking เพราะคุณจะได้รับส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าธรรมเนียมที่ DEX เรียกเก็บ เมื่อผู้ซื้อและผู้ขายได้ทำการเทรดคู่เหรียญที่คุณฝากไว้ในระบบ
ผู้ช่วยในการกู้ยืมผ่านระบบ DeFi
จากที่ได้อธิบายไปแล้วว่า แพลตฟอร์มผู้ให้บริการ Decentralized Finance จะมีการให้สินเชื่อที่สะดวกกว่า โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องถูกตรวจสอบเครดิตหรือกรอกข้อมูลส่วนบุคคล
และเพื่อการรับเงินที่คุณกู้ได้จากระบบ คุณเพียงแค่ต้องวางหลักประกันตามอัตราส่วน LTV (Loan-to-Value) ของเงินที่กู้ได้ โดยเฉลี่ยในแพลตฟอร์มทั่วไปแล้วจะอยู่ที่ 50%
หมายความว่าจากการฝากหลักประกันจำนวน 4,000$ คุณจะสามารถเข้าถึงวงเงินสินเชื่อ 2,000$ ได้ทันที ยิ่งไปกว่านั้นแพลตฟอร์ม defi ยังมีข้อเสนอในการให้เลือกรับกู้เป็นเงินสกุลทั่วไป (fiat money) ให้กับคุณด้วย
ดังนั้น วิธีนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการเข้าถึงแหล่งเงินลงทุน โดยไม่จำเป็นต้องขายเหรียญที่ถืออยู่ในบัญชีออกไป และแน่นอนว่าถ้ามูลค่าของเหรียญที่ฝากอยู่เพิ่มในขณะที่ยังมียอดกู้ค้าง คุณก็ยังจะได้รับผลตอบแทนอยู่
DeFi Swaps
อีกหลักการทำงานที่ได้รับความนิยมของแพลตฟอร์ม defi ก็คือการแลกเปลี่ยนแบบไม่ผ่านนายหน้าที่เป็นการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์
- เช่น หากคุณต้องการแลกเปลี่ยน Tether เป็น DAI ที่คุณเชื่อว่านี่เป็น Stablecoin ที่ปลอดภัยที่สุด
- ที่ตามปกติแล้ว คุณจะต้องโอนโทเค็น Tether จากกระเป๋าเงินส่วนตัวของคุณเข้าสู่การแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์
- จากนั้นคุณก็ต้องแลกเปลี่ยน Tether เป็น DAI ด้วยตัวเอง
- ต่อไปคุณก็ต้องทำการถอนเอา DAI กลับไปเก็บไว้ที่กระเป๋า
ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนั้นสามารถจบได้โดยการคลิกปุ่มบนแพลตฟอร์ม DeFi คริปโต ที่คุณไม่ต้องโอนโทเค็นใด ๆ ไปยังการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์
เพราะกระบวนการจะดำเนินการทันทีผ่าน smart contract ตามกระบวนการก่อนหน้าที่เป็นการทำ yield farming
ซึ่งในอนาคต จากความเป็นไปได้ที่ไม่มีสิ้นสุดของแพลตฟอร์ม DeFi คาดว่าเราจะได้เห็น DeFi swaps ก้าวไปไกลกว่าแค่แลกเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่เราจะแลกเปลี่ยนทองคำเป็นเงินหรือหุ้นกับพันธบัตรต่าง ๆ
ความต่างระหว่าง การเงินแบบกระจายอำนาจ กับ การเงินแบบรวมศูนย์
หัวใจสำคัญของ DeFi คือการกระจายอำนาจ หมายความว่าเมื่อทำการแลกเปลี่ยนโดยใช้แพลตฟอร์ม DeFi ชั้นนำ เช่น DeFi Swap จะไม่มีบุคคลที่สามจากการเงินแบบรวมศูนย์เข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
เพราะผู้ให้บริการทางการเงินแบบกระจายอำนาจได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี smart contract ที่มีความปลอดภัย โปร่งใส เช่นเดียวกับระบบบล็อคเชน
smart contracts บนแพลตฟอร์ม defi คือกลไกที่จะทำให้แพลตฟอร์มสามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง ซึ่งตรงนี้เองที่ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มสามารถมส่วนร่วมในการลงทุนกับเหรียญ defi และให้ระบบยืมเอาโทเค็นไปใช้ไม่จำเป็นต้องฝากเงินจริง ๆ
สิ่งที่ต้องทำเพียงแค่ต้องเชื่อมต่อกระเป๋าเงินกับแพลตฟอร์ม DeFi และเลือกรูปแบบการลงทุนที่สนใจ ซึ่งสิ่งนี้จะตรงกันข้ามกับวิธีการทำงานของผู้ให้บริการทางการเงินแบบรวมศูนย์
เช่น หากคุณต้องการลงทุนในหุ้นกับโบรกเกอร์แบบดั้งเดิม คุณจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
- ทำการเปิดบัญชีโดยให้ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลทางการเงิน พร้อมรายละเอียดการติดต่อและหมายเลขประกันสังคม
- อัปโหลดเอกสารเพื่อยืนยันตัวตน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวหรือเอกสารที่ทางราชการออกให้รวมถึงหลักฐานที่อยู่
- ฝากเงินเข้าบัญชี
- ค้นหาสินทรัพย์เพื่อลงทุนและฝากไว้ในพอร์ตของโบรกเกอร์ของคุณ
ซึ่งพบว่ามีปัญหามากมายเกี่ยวกับกระบวนการพวกนั้นซึ่งเป็นรูปแบบการให้บริการของสถาบันทางการเงินแบบรวมศูนย์ ไม่ว่าจะเป็นการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลมากมายกับการสำรองข้อมูลด้วยเอกสารประกอบที่ยุ่งยาก
แต่ถ้าเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจที่ไม่ต้องการข้อมูลส่วนบุคคลหรือรายละเอียดของช่องทางการติดต่อให้ยุ่งยาก
จากนั้นจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับเงินฝากและการลงทุน ในการใช้แพลตฟอร์มการเงินแบบรวมศูนย์ สิ่งที่ต้องระวังก็คือคุณจะวางใจผู้ให้บริการได้แค่ไหนว่าสถาบันพวกนั้นจะเก็บรักษาข้อมูลการชำระเงินและข้อมูลการลงทุนคุณไว้อย่างปลอดภัย
ในทางกลับกัน แพลตฟอร์มการเงินแบบกระจายอำนาจจะไม่ได้ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลเงินทุนหรือการลงทุนของคุณ เพราะการทำธุรกรรมของคุณจะได้รับการจัดการผ่าน smart contracts โดยอัตโนมัติ ซึ่งแพลตฟอร์ม DeFi ไม่สามารถเข้าไปจัดการแก้ไขได้
ดังนั้น นักลงทุนหลายคนมีความเห็นเหมือนกันว่าการใช้งานแพลตฟอร์ม DeFi นั้นสะดวกกว่าการลงทุนในแพลตฟอร์มการเงินแบบรวมศูนย์ แถมยังปลอดภัยกว่าอีกด้วย
ทำไม DeFi ถึงมีความสำคัญ
จากการเปิดตัวของ Bitcoin และบล็อคเชนในปี 2009 ได้สร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในมุมมองที่เรามีต่อเงินไปทั้งหมด
นับแต่นั้นมา เห็นได้ชัดว่าเราไม่ต้องการให้ธนาคารและสถาบันการเงินแบบรวมศูนย์เข้าถึงบริการทางการเงินในชีวิตประจำวันของเราอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็น การออม ดอกเบี้ย เงินกู้ และการโอนเงินระหว่างประเทศ
แพลตฟอร์ม DeFi ได้ช่วยให้เราเข้าถึงบริการทางการเงินโดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สามหรือตัวกลาง กับการทำงานร่วมกันของระบบและผู้ใช้ผ่านการทำงานแบบ peer-to-peer
- หมายความว่าคุณสามารถโอนเงินให้เพื่อนและครอบครัวโดยไม่ต้องขออนุมัติจากธนาคาร
- นอกจากนี้คุณยังสามารถรับดอกเบี้ยจากสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้ใช้โดยไม่ต้องฝากเงินเข้าบัญชีของส่วนกลางด้วย
- คุณสามารถเข้าถึงการจัดหาเงินทุนโดยไม่จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการสมัครที่ยุ่งยากกับสถาบันการเงินดั้งเดิม ที่ทั้งเสียเวลาและต้องผ่านการตรวจสอบที่กินเวลานาน
DeFi ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราสามารถทำธุรกิจโดยไม่ผ่านคนกลางได้เท่านั้น แต่ยังช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกิจเช่นเดียวกับการใช้คริปโต open source
เช่น หากคุณต้องการกู้ยืมเงินระยะสั้น ตามกระบวนการมาตรฐานดั้งเดิม คุณต้องกรอกแบบฟอร์มใบสมัครที่ขอข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลการเงินย้อนหลัง
ธนาคารจะทำการตรวจสอบเครดิตเพื่อประเมินความสามารถในการชำระคืน ซึ่งขั้นตอนการสมัครที่ยุ่งยากนี้อาจมีค่าใช้จ่ายสูงสำหรับผู้ให้กู้ ทำให้การกู้ครั้งนี้มีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงตามไปด้วย
แต่ถ้าเป็นการกู้ผ่านแพลตฟอร์ม DeFi คริปโต จะไม่มีการตรวจสอบเครดิตหรือความสามารถในการจ่ายคือ ดังนั้นคุณจะได้รับประโยชน์จากส่วนต่างของอัตราร้อยละต่อปีที่ต่ำกว่ามาก
ประโยชน์ของ DeFi
เนื้อหาสำหรับสำหรับผู้เริ่มต้นในส่วนนี้ จะเป็นการอธิบายถึงประโยชน์ defi คริปโต
ผลตอบแทนที่ดึงดูดใจนักลงทุน
ประโยชน์ที่เป็นจุดเด่นที่สุดของ defi คริปโต ก็คือการสร้างผลตอบแทนที่สูงซึ่งดึงดูดใจนักลงทุนได้ดี
แม้ว่าอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยรายปีของคุณจะขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มและโทเค็นที่เลือก รวมไปถึงเงื่อนไขเกี่ยวกับกรอบเวลาในการลงทุนในโทเค็น defi ต่าง ๆ ที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้สูงถึงสองถึงสามหลัก
สิ่งนี้จะช่วยสร้างผลตอบแทนให้คุณได้ในอัตราที่เร็วกว่ามากเมื่อเทียบกับการฝากเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป
Stablecoins กับการลดความเสี่ยงจากความผันผวน
เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าสินทรัพย์คริปโตมีความผันผวน แม้กระทั่งกับเหรียญผู้นำตลาดรายใหญ่อย่าง Bitcoin และ Ethereum
หมายความว่าแม้ว่าคุณอาจได้รับผลตอบแทนที่สูงจากโทเค็นที่ลงทุน แต่ถ้ามูลค่าตลาดลดลงมากกว่าอัตราผลตอบแทนต่อปีที่ทำได้ผลก็คือคุณจะขาดทุน
ดังนั้น คุณอาจพิจารณาเลือกลงทุนในผู้ให้บริการ defi คริปโต ที่รองรับ stablecoins แทน เพราะท้ายที่สุดแล้ว Stablecoin จะถูกตรึงกับมูลค่าไว้กับสกุลเงินต่าง ๆ เช่น ดอลลาร์สหรัฐ
สำคัญที่สุด เช่น USD และ DAI นั้นเป็นเหรียญที่ได้รับการสนับสนุนด้วยทุนสำรอง ที่เหรียญแรกสำรองด้วยดอลลาร์สหรัฐ และเหรียญตัวที่สองสำรองด้วย Ethereum
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด คุณสามารถรับอัตราผลตอบแทนรายปีที่ 12% ได้ จากทั้ง USD และ DAI เมื่อลงทุนในแพลตฟอร์ม Aqru ที่จะช่วยให้คุณเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนใน DeFi โดยไม่ต้องเสี่ยงกับความผันผวนของตลาด
หมายเหตุ: Stablecoins ยังคงจะมีความเสี่ยงโดยธรรมชาติ เช่น Terra USD เพิ่งถูกปลดออกจากการตรึงราคาตามดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งลงมาแตะระดับต่ำสุดที่ 0.13$ แสดงให้เห็นว่า Stablecoin เป็นสิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากอัลกอริธึมมากกว่าการใช้เงินสำรองจริง
การควบคุมผลตอบแทนได้อย่างเต็มที่
ไม่ว่าคุณจะมีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในบัญชีธนาคาร มีสินทรัพย์ดิจิทัลในการแลกเปลี่ยน หรือมีหุ้นในบัญชีของโบรกเกอร์ สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ คุณไม่สามารถควบคุมการลงทุนและผลตอบแทนของคุณได้อย่างเต็มที่
เพราะท้ายที่สุด จะเกิดอะไรขึ้นถ้าธนาคารตัดสินใจที่จะระงับบัญชีของคุณ หรือผู้ให้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตถูกแฮ็ก ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด คุณไม่มีทางมั่นใจได้ 100% ว่าเงินของคุณปลอดภัย
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม DeFi ถึงสำคัญ เพราะข้อแรกหากคุณถือทรัพย์สินดิจิทัลในกระเป๋าเงิน DeFi จะมีคุณเพียงคนเดียวที่สามารถเข้าถึงคีย์ส่วนตัวและรหัสผ่านได้
หมายความว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผู้ให้บริการกระเป๋าเงิน DeFi จะไม่สามารถเข้าถึงเงินของคุณได้ ดังนั้น คุณจึงสามารถควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณอย่างเต็มที่ตลอดเวลา
อีกสิ่งหนึ่งคือแพลตฟอร์ม DeFi จะไม่แตะต้องโทเค็นของคุณเมื่อคุณลงทุนด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์การลงทุนเพียงตัวเดียว
- เช่น สมมติว่าคุณต้องการใช้ DeFi Swap เพื่อรับผลตอบแทนแบบรายปีจากการทำ Staking ที่ 75%
- ขั้นต่อไปคุณเพียงแค่เชื่อมต่อกระเป๋าเงินเข้ากับเว็บไซต์ DeFi Swap
- หลังจากเลือกเงื่อนไขการลงทุนที่ต้องการ DeFi Swap smart contract จะทำการโอนโทเค็นจากกระเป๋าเงินที่เชื่อมต่อของคุณและเอาไปไว้ยัง Pool ที่คุณเลือกทำ Staking ไว้
- เมื่อครบตามเวลา Staking ตัว smart contract จะโอนโทเค็นเดิมของคุณพร้อมผลตอบแทนกลับเข้ากระเป๋าเงินของคุณให้
ถึงแม้ว่าโดยรวมแล้วการลงทุนใน DeFi รูปแบบนี้อาจให้ผลตอบแทนช้า แต่จะเป็นการลงทุนที่ไร้ตัวกลางซึ่งธนาคารหรือสถาบันการเงินแบบรวมศูนย์จะไม่มีสิทธิเข้ามายุ่งกับการลงทุนของคุณได้เลย
รายได้แบบพาสซีฟ
ข้อดีอีกข้อของ defi คริปโต คือมันช่วยให้คุณสามารถสร้างรายได้แบบพาสซีฟได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกลงทุนด้วยการ Staking หรือ yield farming เพราะเมื่อคุณทำการฝากเงินแล้ว ก็ไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่นอีกเลย
ผลตอบแทนลักษณะนี้จะดึงดูดนักลงทุนประเภทที่ต้องการสร้างผลตอบแทนจากเงินทุนโดยไม่ต้องศึกษาตลาดอย่างต่อเนื่องได้ดี
DeFi Crypto เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?
เช่นเดียวกับการลงทุนในหลายรูปแบบ DeFi เองก็เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงซึ่งเราจะพูดถึงในรายละเอียดที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากที่กล่าวมา ประเภทของผลตอบแทนที่เสนออาจมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่คุณเป็นนักลงทุนที่เลือกลงทุนในคริปโตแบบระยะยาว
ท้ายที่สุดแล้ว คำถามคือคุณจะเก็บโทเค็นไว้ในกระเป๋าโดยไม่ใช้ไปทำไม ในเมื่อคุณสามารถฝากมันไว้ในแพลตฟอร์ม DeFi เพื่อรับผลตอบแทนได้
อันที่จริงแล้วคุณมีโอกาสสร้างรายได้จากทั้งสองทาง เพราะนอกเหนือจากผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน DeFi แล้ว คุณจะได้รับประโยชน์เพิ่มหากมูลค่าของโทเค็นนั้น ๆ เพิ่มขึ้นด้วย
ตัวอย่างเช่น
- หากคุณลงทุน 10,000$ ใน Bitcoin และมูลค่าของเหรียญได้เพิ่มขึ้น 20% ในช่วง 365 วัน ก็จะทำให้พอร์ตของคุณจะมีมูลค่าสูงขึ้นเป็น 12,000$
- แต่ถ้าสมมติว่าหลังจากลงทุนไปแล้ว 10,000$ คุณได้ฝากเงินเข้าไปที่แพลตฟอร์ม Aqru
- หลังจากหนึ่งปีผ่านไป ไม่เพียงแต่การลงทุนใน Bitcoin จำนวน 10,000$ จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 20% แต่คุณยังจะได้รับดอกเบี้ย 7% ด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรทราบเกี่ยวกับ DeFi ก็คือ มีหลายวิธีในการได้รับผลตอบแทนจากอุตสาหกรรมนี้
เช่น คุณสามารถลงทุนใน DeFi ผ่านหุ้น การจัดการพอร์ตการลงทุนอัจฉริยะ การลงทุนใน leveraged tokens การทำ yield farming การทำ staking บัญชีดอกเบี้ยคริปโต และอื่น ๆ อีกมากมาย
แพลตฟอร์ม DeFi ที่ดีที่สุด
คู่มือนี้ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการทำงานของ defi คริปโต ไปแล้ว ในส่วนนี้ เราจะมาพูดถึงแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการลงทุน ว่าแพลตฟอร์ม defi มีอะไรบ้างกัน
ซึ่งรายการแพลตฟอร์ม DeFi ต่อไปนี้ จะเป็นตัวเลือกการลงทุน การปล่อยสินเชื่อ การให้ผลตอบแทน ผ่านเงื่อนไขและวิธีการชำระเงินที่หลากหลาย เพราะฉะนั้นแล้วดังนั้นโปรดศึกษาอย่างตั้งใจและอ่านให้ครบถ้วนทุกประเด็น
1. DeFi Swap – แพลตฟอร์ม DeFi ที่ดีที่สุด
แพลตฟอร์ม DeFi ยอดนิยมที่ดีที่สุดตอนนี้คือ DeFi Swap กับการทำงานด้วยการกระจายอำนาจแบบ 100% ซึ่งหมายความว่าการทำธุรกรรมจะดำเนินการโดยผ่าน smart contracts ที่เป็นอิสระ
DeFi Swap มีเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงเครื่องมือการทำ Staking ที่คุณสามารถเลือกแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับคุณได้ ตั้งแต่ 30 วันไปจนถึงหนึ่งปี ทำให้คุณสามารถทำ Staking เพื่อสร้างอัตราผลตอบแทนรายปีได้สูงสุดถึง 75%
defi coin เป็นโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์ม DeFi Swap ซึ่งเราจะทำการอธิบายในส่วนต่อไป อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งจุดเด่นของ DeFi Swap ก็คือการมีเครื่องมือในการทำ yield farming ที่ทำให้คุณสามารถใช้แพลตฟอร์ม DeFi Swap สำหรับฟาร์มเพื่อรับส่วนแบ่งของค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่เรียกเก็บจากการเทรดของคู่การซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญนั้น ๆ ได้
หากคุณต้องการแลกเปลี่ยนจากโทเค็นหนึ่งไปเป็นโทเค็นอื่น คุณสามารถทำได้ผ่าน DeFi Swap เช่น การแลกเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ DEX โดย Binance Smart Chain ซึ่งแพลตฟอร์มสามารถทำงานข้ามเชนบนความเข้ากันได้ ที่ทำให้คุณสามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นจากบล็อกเชนหนึ่งไปยังสินทรัพย์ในเครือข่ายอื่นได้
DeFi Swap มีรูปแบบการใช้งานที่ง่ายที่เหมาะสำหรับมือใหม่ และ DeFi Swap ยังมีแผนที่จะขยายรูปแบบการให้บริการไปยังการใช้งานแอปบนมือถือสำหรับ Android และ iOS และยังมีแผนที่จะรวมการซื้อขาย NFT เข้ากับ DEX ด้วย
ข้อดี
- แพลตฟอร์ม DeFi ที่ดีที่สุดในตลาด
- ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูง
- เป็นหนึ่งในแอป DeFi ที่ดีที่สุดในตลาด
- รองรับการทำ yield farming และการเป็นผู้ให้บริการสภาพคล่อง
- เป็นการกระจายอำนาจทางการเงิน 100% แพลตฟอร์มได้รับการสนับสนุนด้วยการใช้ smart contracts
- จะมีการเพิ่มการเทรด NFT และพัฒนาการใช้งานบนมือถือในเร็ว ๆ นี้
- สนับสนุนโดย DeFi Coin โทเค็นคริบโตที่มีการเติบโตสูงสุด
ข้อควรพิจารณา
- ยังไม่เป็นที่นิยมเหมือนแพลตฟอร์ม DeFi อื่น ๆ
สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
2. Aqru – รับผลตอบแทน 12% ต่อปีจาก Solid Stablecoins
แพลตฟอร์ม DeFi คริปโต ที่น่าสนใจต่อไปคือ Aqru ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เสนอบัญชีดอกเบี้ยคริปโตที่ดีที่สุดในตลาด ไม่เพียงแต่ผลตอบแทนที่สูงแต่บัญชีดอกเบี้ยคริปโตของ Aqru ยังมีความยืดหยุ่นให้นักลงทุนสามารถเลือกปรับรูปแบบการลงทุนตามความต้องการได้
หมายความว่าคุณสามารถรับผลตอบแทนจากโทเค็นที่ไม่ได้ใช้งานโดยไม่ต้องเลือกล็อกเวลาขั้นต่ำ และคุณยังสามารถเข้าใช้งานบัญชีได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีค่าปรับ Aqru ยังโดดเด่นในการลงทุนกับเหรียญ stablecoin ที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 12% ต่อปี
การลงทุนนั้นครอบคลุมถึง USD Coin, DAI, และ Tether ด้วย Stablecoin ที่ผูกดอลลาร์ ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากความผันผวน และทำให้คุณสามาถคาดการณ์รายได้ในแต่ละปีได้ นอกจากนี้ Aqru ยังมีการจ่ายดอกเบี้ยออกไปให้นักลงทุนทุก ๆ 24 ชั่วโมง ด้วย
เมื่อคุณได้รับผลตอบแทน คุณสามารถเลือกเอาโทเค็นฝากกลับเข้าสู่บัญชี กลยุทธ์นี้จะช่วยให้คุณเพิ่มผลตอบแทนให้มากขึ้นได้อย่างรวดเร็ว จุดเด่นของ Aqru อีกข้อก็คือ คุณยังสามารถได้รับผลตอบแทนจากอัตราที่ 12% ต่อปี อยู่ แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นเจ้าของโทเค็นใด ๆ ก็ตาม
คุณสามารถทำรายการผ่านการโอนเงินด้วยธนาคาร บัตรเดบิต/เครดิต แล้วแปลงเงินเป็นสกุลเงินดิจิทัลได้ทันที นอกจากการลงทุนใน stablecoins แล้ว Aqru ยังมีตัวเลือกที่ให้ผลตอบแทนถึง 7% แก่คุณจากการลงทุนใน Bitcoin และ Ethereum โดยไม่มีข้อจำกัด
ข้อดี
- รับผลตอบแทน 7% จากการลงทุนใน Bitcoin และ Ethereum
- การลงทุนใน Stablecoin ที่ให้ผลตอบแทน 12%
- ไม่มีการกำหนดกรอบเวลาล็อคหรือจำกัดระดับในการลงทุน
- ยอดคงเหลือขั้นที่กำหนดในบัญชีเพียง 100$
- ทำรายการถอนเงินสดได้ฟรี
ข้อควรพิจารณา
- ค่อนข้างเป็นแพลตฟอร์มใหม่ในอุตสาหกรรม
- มีค่าธรรมเนียม 20$ สำหรับการถอนคริปโต
สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
3. PrimeXBT – แพลตฟอร์มเทรดคริปโตสำหรับมือใหม่ที่ดีที่สุด
ถ้าคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มการลงทุนในคริปโตที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์ในการลงทุนกับคริปโต ขอแนะนำให้เลือก PrimeXBT
PrimeXBT มีรายการสินทรัพย์ดิจิทัลให้เลือกลงทุนมากกว่า 150 รายการ ที่คุณสามารถเลือกจัดพอร์ตลงทุนได้ตามความต้องการอย่างอิสระ กับค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำเพียง 0.05%
นอกจากนั้นแล้ว PrimeXBT ยังมีเครื่องมือช่วยนักลงทุนมือใหม่ที่ดีที่สุดกับฟังก์ชัน Copy Trading ที่จะช่วยคุณจัดพอร์ตตามแบบของนักลงทุนมืออาชีพได้ง่าย ๆ และรับผลตอบแทนแบบเดียวกัน
สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
4. Nexo – แพลตฟอร์มสินเชื่อที่ใช้คริปโตเป็นหลักประกัน
Nexo แพลตฟอร์มสินเชื่อที่ใช้คริปโตเป็นหลักประกัน ซึ่งรองรับสกุลเงินคริปโตกว่า 40 รายการ ไม่ว่าจะเป็น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Litecoin (LTC), หรือ XRP (XRP) ซึ่งสมาชิกจะได้รับสินเชื่อเป็นเงินสดในสกุล USD หรือ EUR และเมื่อทำการชำระคืนเงินลดที่กู้ยืมไปแล้ว สมาชิกก็จะได้รับคริปโตของตัวเองที่เป็นหลักประกันคืน
Nexo มีเหรียญ NEXO เป็นเหรียญหลัก ซึ่งสมาชิกสามารถนำเหรียญนี้มาใช้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ในแพลตฟอร์มได้ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายดอกเบี้ย หรือการใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อ ซึ่งจะมีดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการใช้คริปโตตัวอื่น
แพลตฟอร์มนี้มีกลไกการให้ยืมเป็นแบบอัตโนมัติด้วยการใช้ smart contracts และ oracle บนบล็อคเชนของ Ethereum ซึ่งทำงานโดยให้สมาชิกฝากสกุลเงินดิจิทัลไว้ในกระเป๋าและทาง Nexo จะมอบสินเชื่อเป็นเงินสดให้กับสมาชิกผู้ใช้ทันที
ที่ทำการฝาก
สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
5. Youhodler – แพลตฟอร์มลงทุนให้ผลตอบแทนสูง
YouHodler เป็นแพลตฟอร์มการลงทุนที่มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ DeFi นวัตกรรมใหม่ที่แยกตัวเองออกมาจากรูปแบบของการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์โดยสมบูรณ์
YouHodler มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์และไซปรัส แพลตฟอร์มนี้รองรับการซื้อขายคริปโตยอดนิยมหลายรายการ ไม่ว่าจะเป็น Tether, USDC, Pax Dollar, TrueUSD, DAI, HUSD, EURS, Uniswap และจะมีการเพิ่มเหรียญใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
คุณลักษณะสำคัญของแพลตฟอร์ม YouHodler คือการให้ผลตอบแทนที่เป็นดอกเบี้ยจากการลงทุนที่สูงถึง 12.3% ต่อปี สำหรับการลงทุนใน stablecoin และมากถึง 8% สำหรับการลงทุนในคริปโตสกุลอื่น
สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
เหรียญ DeFi ยอดนิยม
นอกจากการเลือกแพลตฟอร์มแล้ว คุณจะต้องเลือกด้วยว่าจะลงทุนในเหรียญ defi มีอะไรบ้างที่คุณจะเอามาไว้ในพอร์ตของคุณ
เหรียญ DeFi ที่คุณเลือกอาจมีอัตราดอกเบี้ยสูงผ่านการทำ Staking หรือจะเลือกเหรียญที่ตรึงราคาไว้กับเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวน
หรือคุณอาจเลือกลงทุนในเหรียญ DeFi ที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดในแง่ของราคาของโทเค็น
ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เราพบว่ามีโปรเจกต์ทั้งหมด 4 ตัวที่ตัวแทนของเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดที่ ณ เวลานี้
1. Tamadoge – เหรียญที่มียอดระดมทุนสูงกว่า 19 ล้านดอลลาร์
Tamadoge (TAMA) โทเค็นที่นักลงทุนสามารถนำไปใช้เพื่อเล่นเกม play-to-earn (P2E) ได้ กับการสร้างตัวละครสัตว์เลี้ยงของผู้เล่นมาเพื่อเลี้ยง ผสมพันธุ์ และทำการแลกเปลี่ยน ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผู้เล่นทำการแข่งขันกันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งในการจัดอันดับรายเดือนเพื่อรับของรางวัล
TAMA มีการกำหนดอุปทานสูงสุดของเหรียญไว้ที่ 2 พันล้านโทเค็น นักลงทุนจึงมั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์การเพิ่มอุปทานที่สูงเกินไปอย่าง Dogecoin ที่ไม่ได้มีการกำหนดเพดานขั้นต่ำไว้
และด้วยมูลค่าปิดการพรีเซลไปที่ 19 ล้านดอลลาร์ จากอุปทานทั้งหมด 2 พันล้านโทเค็น ก็แสดงให้เห็นชัดแล้วว่า TAMA คือโทเค็นที่ได้รับความสนใจและมีอนาคตไกลซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้สูงในอนาคต
2. Battleinfinity.io – เกมรูปแบบใหม่น่าลงทุนกับโลก metaverse
Battle Infinity หนึ่งในเหรียญคริปโตน่าลงทุน ในแพลตฟอร์ม DeFi ซึ่งรวมเอา Web 3.0 เข้ากับคุณสมบัติ Play-to-Earn (P2E) มาใช้ได้อย่างลงตัว
Battle Infinity จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเข้าร่วม Battle Arena กับการแข่งขันเพื่อคว้ารางวัลเป็นเหรียญคริปโตในเกม P2E เช่น IBAT Premier League เกมที่ใช้บล็อกเชน NFT แบบ DeFi ที่ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมการแข่งขันและทำการสร้างทีมเพื่อแข่งขันกับผู้เล่นคนอื่น
IBAT โทเค็นของ Battle Infinity ที่สร้างขึ้นบน Binance Smart Chain (BSC) จะมีการรวบรวมเอาโทเค็นบางส่วนจากการทำธุรกรรมไปวางไว้ใน Liquidity Pools เพื่อรองรับการแลกเปลี่ยนโทเค็นและสร้างสภาพคล่องระยะยาวของแพลตฟอร์มด้วย
3. Lucky Block (LBLOCK) – โปรเจ็กต์เกม DeFi ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
Lucky Block (LBLOCK) โปรเจกต์ DeFi น่าสนใจสุด ๆ ที่เน้นไปที่การจับรางวัลคริปโตแบบรายวัน ซึ่งนักลงทุนที่ซื้อสลากไว้จะมีโอกาสที่จะชนะการจับรางวัลและรับส่วนแบ่งของแจ็กพอต
ราคาสลากแต่ละใบมีราคาเพียง 5$ ซึ่งจ่ายเป็นโทเค็น LBLOCK แต่ถ้าคุณได้ทำการเชื่อมต่อกระเป๋าคริปโตของคุณกับ Lucky Block คุณจะได้รับสลากฟรีหนึ่งใบต่อวัน และ ณ ตอนนี้โปรจกต์นี้มีมูลค่าที่มากกว่า 2 ล้านดอลลาร์แล้วที่พร้อมจะเอาไปแจกรางวัลแจ็กพอตให้กับนักลงทุน
ในแง่ของโทเค็น LBLOCK ถือว่าโทเค็นนี้เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในปี 2022 เช่น หากคุณซื้อโทเค็น Lucky Block ในช่วงพรีเซลในช่วงเดือนมกราคม 2022 คุณจะจ่ายแค่เพียง 0.00015$
ซึ่งหลังจากเปิดตัวในวันที่ 26 มกราคม 2022 Lucky Block ใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ในการทำสถิติสูงสุดที่ราคา 0.009$ สิ่งนี้แสดงถึงการเติบโตได้เป็นอย่างดีของโทเค็น นอกจากนั้นแล้ว Lucky Block ยังได้มีการเปิดตัว NFTs อีกกว่า 10,000 รายการที่มีหมายเลขไม่ซ้ำกัน ที่จะถูกนำไปออกรางวัลที่คุณมีโอกาสจะได้รับส่วนแบ่งของรางวัลแจ็กพอตรายวันด้วย
โดยที่การถือ Lucky Block NFT คุณจะมีสิทธิเข้าถึงการจับรางวัลของโครงการได้ทุกวันไปตลอดชีวิตเลยด้วย
สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
4. Defi Coin (DEFC) – โปรเจกต์การลงทุน DeFi ที่ดีที่สุด
DeFi Coin (DEFC) เป็นโทเค็นที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนในแพลตฟอร์ม DeFi Swap ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการกระจายอำนาจทางการเงินที่ดีที่สุด ดังนั้น ด้วยลงทุนใน DeFi Coin ก็เปรียบได้กับการลงทุนทางอ้อมเพื่อสนับสนุนความสำเร็จในอนาคตของ DeFi Swap ไปพร้อมกันด้วย
อย่างไรก็ตาม ที่คุณควรรู้คือ DeFi Coin ไม่เพียงแต่ให้โอกาสคุณในการกำหนดเป้าหมายการลงทุนที่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนค่าเฉลี่ยเท่านั้น แต่คุณยังสามารถรับผลตอบแทนแบบพาสซีฟได้ด้วยผ่านการลงทุนในแพลตฟอร์ม DeFi Swap ในตัวเลือกแรก คุณสามารถจัดหาสภาพคล่องผ่านการลงทุนในการเทรดคู่เหรียญ DEFC/BNB ที่คุณจะต้องลงทุนทั้งสองโทเค็นไว้เท่า ๆ กัน
วิธีนี้จะทำให้คุณได้รับผลตอบแทนเป็นเปอร์เซ็นต์ของค่าธรรมเนียมในทุกครั้งที่มีคนทำการแลกเปลี่ยน DEFC เป็น BNB (หรือกลับกัน) และกับตัวเลือกที่สอง คือการฝาก DeFi Coin ของคุณลงในกลุ่ม Staking ใน DeFi Swap กับตัวเลือกรอบเวลา 1, 3, 6, หรือ 12 เดือน ที่จะทำให้คุณสามารถสร้างรายได้สูงถึง 75% ต่อปีจากโทเค็น DEFC ของคุณ
อีกเหตุผลที่ทำให้ DeFi Coin เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ก็คือการให้ผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนที่ลงทุนแบบระยะยาว จากการเก็บภาษี 10% สำหรับคำสั่งซื้อและขายแต่ละรายการ ที่นักลงทุนที่ถือ DeFi Coin จะได้รับด้วย และแน่นอนว่ายิ่งถือมากก็จะได้มาก
สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
DeFi Crypto ปลอดภัยหรือไม่?
สิ่งสำคัญคือ แม้แพลตฟอร์ม DeFi จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนรูปแบบอื่นในตลาด แต่ก็เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงกว่าเช่นกัน
และนี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนตัดสินใจลงทุนใน DeFi
ไม่มีการประกันเงินฝาก
สิ่งแรกที่ต้องรู้คือเมื่อคุณฝากเงินเข้าบัญชี DeFi คุณจะไม่ได้รับการคุ้มครองแบบเดียวกับในอุตสาหกรรมสถาบันการเงินทั่วไป
- เช่น ในอเมริกา FDIC ที่จะมีการคุ้มครองเงินฝากธนาคารสูงสุดที่ 250,000$ แรก หากสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องเกิดล้มละลาย
- หรือในสหราชอาณาจักร ที่มี FSCS ให้ความคุ้มครองเงินฝากธนาคารสูงถึง 85,000£ แรก
อย่างไรก็ตาม หากคุณฝากเงินลงในแพลตฟอร์ม DeFi และพบว่ามีบางอย่างผิดพลาด เช่น การทำงานของ smart contract เกิดล้มเหลว หรือบัญชีถูกแฮ็ค ถ้ามันเกิดขึ้นคุณจะแก้ไขสิ่งนี้ไม่ได้
เนื่องจากแผนประกันเงินฝากแบบดั้งเดิมนั้นไม่ครอบคลุมสินทรัพย์ดิจิทัลที่คุณลงทุนอยู่นั่นเอง
ความผันผวนของการลงทุน
ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งที่ควรพิจารณาก่อนลงทุนในแพลตฟอร์ม defi คือการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้มีความผันผวนอย่างมาก
มีตัวอย่างที่สำคัญคือการสูญเสียมูลค่าตลาดกว่า 50% ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2022
นั่นหมายความว่าคุณมีโอกาสที่จะเสียเงินได้เมื่อลงทุนใน defi สิ่งนี้จะเกิดขึ้นหากโทเค็นที่คุณถืออยู่มีมูลค่าลดลงกว่าที่ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุน
สรุป
ปฏิเสธไม่ได้ว่า DeFi จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของบริการทางการเงิน ซึ่งคู่มือนี้ได้ทำการอธิบายทุกอย่างที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ defi คริปโต รวมไปถึงวิธีการเพิ่มผลตอบแทนสูงสุดจากการลงทุน
ซึ่งโดยรวมแล้ว DeFi Swap คือแพลตฟอร์มที่เป็นตัวเลือกการลงทุนดีที่สุด นอกเหนือจากการทำ Staking กับการทำ yield farming เพื่อสร้างผลตอบแทนแล้ว การแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจยังช่วยให้คุณสามารถแลกเปลี่ยนเหรียญ DeFi ได้ทันทีแบบไร้ตัวกลางผ่านการคลิกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง