การเทรดคริปโตรายวัน คือการที่คุณเทรดสกุลเงินดิจิทัลภายในวันเดียว
ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่ คุณมักจะซื้อและขายคริปโตด้วยผลกำไรเพียงเล็กน้อย ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่นาที
ในคู่มือนี้ เราจะรีวิวแพลตฟอร์มการเทรดรายวันที่ดีที่สุดในตลาดคริปโต ควบคู่ไปกับข้อมูลสำคัญบางประการที่เกี่ยวข้องกับเดย์เทรด
แนะนำแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตรายวันที่ดีที่สุด
การเทรดคริปโตรายวันที่ดีควรเริ่มจากการเปิดบัญชีในแพลตฟอร์มยอดนิยม
และนี่คือแพลตฟอร์มเว็บเทรดคริปโตรายวันที่ดีที่สุด
- eToro – กระดานเทรดคริปโตชั้นนำ ที่มีค่าธรรมเนียมการเทรดคริปโตรายวันต่ำ
- Capital.com – กระดานเทรดคริปโตรายวันพร้อมเครื่องมือช่วยสนับสนุนการลงทุน
- Crypto.com – กระดานเทรดคริปโตรายวันที่ดีที่สุดพร้อมเครื่องมือช่วยเทรดที่หลากหลาย
- Binance – กระดานเทรดคริปโตรายวันที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำ
- Bitstamp – กระดานเทรดคริปโตรายวันที่เลือกใช้ได้ทั้งเว็บเบราว์เซอร์และแอพมือถือ
เปรียบเทียบกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดรายวัน
การเทรดรายวัน เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยทำเงินจากคริปโตเคอเรนซี่ ทั้งนี้ มีเกณฑ์บางอย่างที่ควรศึกษาก่อนการรีวิวแพลตฟอร์มเทรดคริปโตรายวันที่ดีที่สุด ได้แก่ การมีค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นต่ำ การมีตลาดที่รองรับมากมาย และการเข้าถึงเครื่องมือและฟีเจอร์การลงทุน
แน่นอนว่าเราจะพิจารณาเฉพาะผู้ให้บริการ day trading ที่ปลอดภัยเท่านั้น ซึ่งสามารถรวบรวมแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตรายวันที่ดีที่สุดในปี 2024 ได้ดังนี้
1. eToro – กระดานเทรดคริปโตชั้นนำ ที่มีค่าธรรมเนียมการเทรดรายวันต่ำ
eToro ให้บริการที่ดีที่สุดทั้งในเรื่องกฎระเบียบ ค่าธรรมเนียมต่ำ ความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน และความหลากหลายของตลาด แพลตฟอร์มการเทรดรายวันนี้ เป็นตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมากกว่า 40 แห่ง ตั้งแต่ Bitcoin, XRP, Dogecoin, Shiba Inu, Ethereum, Celo และ AAVE นอกจากนี้ คุณยังสามารถเทรดคริปโตด้วยสกุลเงินอื่น ๆ เช่น ยูโรและปอนด์ได้ด้วย
นักเทรดรายวันน่าจะชอบคู่เหรียญ crypto-cross ที่มีให้เลือกลงทุนมากมายบน eToro ซึ่งรวมถึง ETH/BTC, EOS/XLM และ BTC/XLM ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจเทรดคู่เหรียญใด eToro คิดเฉพาะค่าสเปรดเท่านั้น สำหรับผู้ที่ไม่ทราบความหมายของศัพท์นี้ สเปรด คือ ค่าส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายของเหรียญที่คุณเลือก และเพราะสิ่งนี้ทำให้ eToro เป็นหนึ่งในเว็บไซต์เทรดคริปโตรายวันที่ดีที่สุดในแง่ค่าธรรมเนียม
ข้อดีอีกอย่างของ eToro คือ เป็นแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตรายวันที่คุณสามารถซื้อคริปโตเคอเรนซี่ได้ในราคาเพียง 10 ดอลลาร์ โดยเงิน 10 ดอลลาร์เป็นเพียงข้อกำหนดการฝากขั้นต่ำ จึงเหมาะสมกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด เรายังชอบ eToro เพราะไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากและถอนเงินดอลลาร์ ที่ไม่ใช่แค่เพียงการชำระเงินด้วยการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ และ ACH เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบัตรเดบิต/บัตรเครดิต, Paypal, WebMoney, Neteller และอื่น ๆ ด้วย
ในส่วนของฟีเจอร์การลงทุน eToro มีเครื่องมือ copy trading ที่ช่วยให้คุณเลียนแบบนักลงทุนที่มีประสบการณ์ได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกเทรดรายวันที่ความเสี่ยง 10% ของพอร์ตการลงทุนด้วย BTC/USD การซื้อขายแบบเดียวกันจะถูกคัดลอกไปที่บัญชีของคุณ สิ่งสำคัญที่สุดคือ eToro เป็นเว็บไซต์เทรดคริปโตที่ปลอดภัยที่สุดในตลาด เนื่องจากผู้ให้บริการได้รับการอนุญาตและถูกควบคุมโดย SEC, FCA, ASIC และ CySEC หรือหากคุณกำลังมองหาหุ้นที่ซื้อขายรายวัน eToro ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับมือใหม่และนักลงทุนที่มีประสบการณ์
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง
2. Capital.com – กระดานเทรดรายวันพร้อมเครื่องมือช่วยสนับสนุนการลงทุน
Capital เป็นแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตรายวันที่เราแนะนำอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม โดยมีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 500,000 บัญชี และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ที่ Capital มีระบบให้ความช่วยเหลือที่สามารถติดต่อได้ 24 ชั่วโมง ในทุก ๆ วัน และมีสินทรัพย์ให้คุณเลือกลงทุนมากกว่า 5,000 รายการ
ที่สำคัญที่สุด คือ ไม่มีค่าธรรมเนียมและค่าคอมมิชชั่นในการเทรด จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเทรดรายวัน เพื่อสร้างผลกำไรที่นักลงทุนต้องการ
นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมที่ต่ำแล้ว Capital ยังมีเครื่องมือที่ช่วยสนับสนุนนักลงทุนอีกมากมาย ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ล้วนแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนให้มากขึ้นไปกว่าเดิม รวมถึงช่วยจัดพอร์ตการลงทุนให้มีความหลากหลาย และกระจายความเสี่ยงได้มากขึ้น
Capital.com จึงเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดี หากคุณต้องการที่จะหาแพลตฟอร์มเพื่อใช้ในการเทรดคริปโตรายวัน
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง
3. Crypto.com – กระดานเทรดคริปโตรายวันที่ดีที่สุดพร้อมเครื่องมือช่วยเทรดที่หลากหลาย
กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดรายวันตัวต่อไป คือ Crypto.com ที่เปิดตัวในปี 2016 และได้รับความนิยมจากนักลงทุนทุกกลุ่ม โดยรวมแล้ว Crypto.com มีคริปโตเคอเรนซี่มากกว่า 250 สกุลเงิน ทั้งเหรียญขนาดใหญ่และขนาดกลาง ส่วนค่าธรรมเนียมก็เป็นไปตามโครงสร้างราคาที่กำหนดโดย maker และ taker ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการเทรดคริปโตรายวัน
สำหรับผู้ที่ไม่รู้ maker จะใช้ Crypto Wallet ที่มีสภาพคล่อง ที่ช่วยให้ได้รับค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้น โดยนักลงทุนมือใหม่ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น taker และจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นไม่เกิน 0.4% อย่างไรก็ตาม คุณจะจ่ายค่าคอมมิชชั่นลดลง หากเทรดในปริมาณที่มากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณเทรดมากกว่า 50,000 ดอลลาร์ ในระยะเวลา 30 วัน ค่าคอมมิชชั่นจะลดลงเหลือ 0.15%
นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมจะลดลงอีกในกรณีที่ถือโทเค็น CRO ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจาก Crypto.com อีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบเกี่ยวกับ Crypto.com คือ แพลตฟอร์มนี้ง่ายต่อการรับและจ่ายเงิน ตัวอย่างเช่น หากคุณไม่สามารถฝากเงินผ่านคริปโตได้ แพลตฟอร์มยังรองรับการซื้อด้วยบัตรเดบิต, บัตรเครดิต, การโอนเงินผ่านธนาคาร หรือการสมัครบัตรเดบิตของ Crypto.com
บัตรเดบิตของ Crypto.com สามารถถอนเงินผ่านตู้ ATM ได้ทันที นอกจากนี้ Crypto.com ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มีผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากประโยชน์ ไม่ใช่แค่การเทรดคริปโตรายวันด้วยเลเวอเรจที่สูงถึง 10 เท่าเท่านั้น แต่ยังเข้าถึงการเทรดฟิวเจอร์สได้ตลอด และเป็นเว็บเทรดคริปโตที่มีเครื่องมือขั้นสูง และฟีเจอร์สร้างแผนภูมิให้ได้ใช้ด้วย
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง
4. Binance – กระดานเทรดคริปโตรายวันที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำ
หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มเทรดคริปโตรายวันที่ดีที่สุดที่มีค่าคอมมิชชั่นต่ำ Binance คือ กระดานแลกเปลี่ยนที่โดดเด่นกว่าใคร ซึ่งเปิดตัวในปี 2017 ด้วยอัตราค่าคอมมิชชั่นเพียง 0.10% และหากคุณเทรดในปริมาณมากตลอดทั้งเดือน ค่าคอมมิชชั่นก็จะลดลงอีก โดยอาจจะลดลงได้ถึง 25% สำหรับผู้ที่ชำระค่าธรรมเนียมผ่าน BNB
นักลงทุนในสหรัฐอเมริกาสามารถเทรดคริปโตเคอเรนซี่บนเว็บไซต์ Binance ได้ 60 สกุลเงิน รวมถึงซื้อเหรียญ Binance เอง สามารถเข้าถึงได้กว่า 1,000 แห่ง ไม่ว่าจะวิธีใด คุณสามารถฝากเงินเข้าบัญชี Binance ได้อย่างง่ายดายด้วยสกุลเงิน fiat ตัวอย่างเช่น นักลงทุนสามารถฝากเงินผ่าน ACH, โอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ หรือจ่ายด้วยบัตรเดบิต/บัตรเครดิต รวมถึงรองรับการฝากคริปโตด้วย เมื่อมีเงินในบัญชี คุณสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์ม Binance แบบคลาสสิกหรือแบบขั้นสูงก็ได้
แพลตฟอร์มแบบคลาสสิกเหมาะสำหรับนักลงทุนมือใหม่ แต่หากคุณต้องการใช้ฟีเจอร์การเทรดที่มีความซับซ้อนสูง, แผนภูมิที่ปรับแต่งได้, ตัวชี้วัดทางเทคนิค และเครื่องมือวาดภาพ แพลตฟอร์มขั้นสูงจะเหมาะสมมากกว่า นอกจากนี้ หากคุณอยู่นอกสหรัฐอเมริกาหรือสหราชอาณาจักร Binance ยังมีตราสารอนุพันธ์คริปโตที่หลากหลาย รวมถึงการเทรดคริปโตด้วยเลเวอเรจให้เลือกลงทุนอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น เมื่อทำการเทรด BTC/USDT คุณสามารถใช้เลเวอเรจได้สูงสุด 10 เท่า ซึ่งหมายความว่า ที่สถานะการเทรด 100 ดอลลาร์สามารถเพิ่มเป็น 1,000 ดอลลาร์ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถเทรด future และ option ในตลาดต่าง ๆ ได้อีกด้วย ในด้านความปลอดภัย จะสังเกตได้ว่า Binance ไม่ได้ถูกควบคุมจากประเทศใด ๆ ที่ดำเนินการอยู่ แพลตฟอร์มดังกล่าวมีเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่ได้รับความนิยมสูงสุด เช่น การยืนยันตัวตนแบบ 2FA และแพลตฟอร์มดังกล่าวยังมีกองทุนสำรอง ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรือถูกแฮ็กอีกด้วย
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูงไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนในประเทศไทย
5. Bitstamp – กระดานเทรดคริปโตรายวันที่เลือกใช้ได้ทั้งเว็บเบราว์เซอร์และแอพมือถือ
กระดานเทรดคริปโตรายวันอันดับหนึ่งของเรา คือ Bitstamp ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดนี้ Bitstamp ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 สามารถรองรับลูกค้าได้มากกว่า 4 ล้านคนทั่วโลก โดยมีคริปโตเคอเรนซี่ให้เลือกเทรดมากกว่า 50 รายการ
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ควรพิจารณาเมื่อต้องเลือกใช้กระดานเทรดคริปโตรายวันคือ การค่าธรรมเนียมต่ำ ซึ่ง Bitstamp เป็นหนึ่งในนั้น โดยคุณสามารถลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ด้วยค่าธรรมเนียมเพียง 0.5% ต่อการซื้อขาย ด้วยจำนวนเงินทุนขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์ สำหรับสินทรัพย์ที่เป็น USD และ 0.0002 BTC สำหรับสินทรัพย์ที่เป็น BTC ซึ่งทำให้ Bitstamp เหมาะสำหรับเดย์เทรดอย่างยิ่ง
นักลงทุนที่มีปริมาณการเทรดมากกว่า 10,000 ดอลลาร์ต่อเดือน จะเสียค่าธรรมเนียมเพียง 0.25% ต่อการซื้อขาย และ Bitstamp ยังให้คุณฝาก ACH ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม และถอนเงินฟรีผ่าน ACH เช่นกัน ทั้งนี้ คุณสามารถเลือกซื้อคริปโตได้ทันทีด้วยบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต แต่จะ มีค่าธรรมเนียมที่ 5% ต่อการทำธุรกรรม
ประสบการณ์การเทรดที่ Bitstamp เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเลือกเทรดได้ทั้งเบราว์เซอร์หรือแอพมือถือ ซึ่งเหมาะสำหรับการเทรดรายวันทั้งคู่ แม้ว่าแพลตฟอร์ม ‘Tradeview’ ของ Bitstamp จะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์มากกว่า แพลตฟอร์มนี้ยังมีฟีเจอร์บันทึกคำสั่งตั้งค่าซื้อขายเชิงลึก, ตัวชี้วัดทางเทคนิค และคำสั่งซื้อขั้นสูง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการเทรดคริปโตรายวัน
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง
การเทรดคริปโตรายวัน คืออะไร?
การเทรดคริปโตรายวัน คือการซื้อขายเหรียญคริปโตภายใน 1 วันซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการลงทุนซื้อระยะยาว และนักเทรดรายวันที่มีประสบการณ์จะไม่ถือเหรียญนานหลายชั่วโมง
หากคุณกำลังค้นหาว่าควรเทรดคริปโตรายวัน ตัวไหนดี ลองอ่านรีวิว Bitcoin Evolution ของเราเพิ่มเติม
ในบางตลาด คุณอาจพบว่าเดย์เทรดเดอร์ซื้อและขายสินทรัพย์ภายในเวลาเพียงไม่กี่นาที
คอนเซปที่สำคัญที่สุดคือ คุณจะต้องใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาดในระยะสั้น ที่สร้างส่วนต่างของกำไรเพียงเล็กน้อย แต่หลาย ๆ ครั้ง
ตัวอย่างพื้นฐานของการเทรดคริปโตรายวัน:
- หากคุณคิดว่า Bitcoin จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ดังนั้น คุณจึงเทรดคู่สกุลเงิน BTC/USD
- คุณตัดสินใจเทรด 500 ดอลลาร์
- หลายชั่วโมงต่อมา BTC/USD ราคาเพิ่มขึ้น 7%
- คุณขายและได้กำไร 35 ดอลลาร์
จากตัวอย่างข้างต้น นักเทรดรายวันพอใจที่จะขาย BTC/USD ที่กำไร 7%
แม้ว่าพวกเขาจะเชื่อว่า Bitcoin จะมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ดังนั้น ต้องมีวินัยเป็นอย่างมาก
ทางเลือกอื่นนอกจากการเทรดคริปโตรายวัน สามารถดูคำแนะนำเกี่ยวกับ trading robots ที่ดีที่สุด ในปี 2024 ได้
คู่สกุลเงิน
สิ่งแรกที่ต้องรู้เมื่อเทรดคริปโตรายวัน คือสกุลเงินดิจิทัลมีการซื้อและขายเป็นคู่ เช่น Bitstamp จะเทรดคู่เงิน fiat-to-crypto และ crypto-cross
- Fiat-to-crypto จะมีสินทรัพย์ดิจิทัลหนึ่งรายการ (เช่น XRP) คู่กับสกุลเงิน fiat (เช่น USD) ซึ่งง่ายต่อการเดย์เทรด โดยวัดมูลค่าจากสกุลเงินที่ต้องการ
- Crypto-cross จะมีสินทรัพย์ดิจิทัลสองรายการ เช่น การ day trading ETH/EOS จะเป็นการเก็งกำไรว่า Ethereum จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงเมื่อเทียบกับ EOS
ในฐานะมือใหม่ควรหลีกเลี่ยงคู่เงิน crypto-cross เนื่องจากไม่มีเกณฑ์มาตรฐานที่ช่วยประเมินมูลค่าได้อย่างง่ายดาย
คำสั่งซื้อขายคริปโตรายวัน
นอกจากคู่เงินแล้ว การเทรดรายวันยังต้องเข้าใจคำสั่งซื้อขายด้วย
สิ่งที่ควรระวังมีดังนี้:
- คำสั่งซื้อใช้เพื่อเข้าสู่ตลาด ในขณะที่ คำสั่งขายใช้เพื่อออกจากตลาด แต่หากคุณขายชอร์ตจะกลับกัน เช่น หากคุณขาย ชอร์ต BTC/USD คุณจะต้องเข้าด้วยคำสั่งขาย และออกด้วยคำสั่งซื้อ
- คำสั่ง Limit จะให้คุณระบุราคาขาย แต่หากคุณต้องการปรับเปลี่ยนราคา คุณสามารถใช้คำสั่ง Market ได้
- เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เสียเงินมากเกินไป ให้ใช้คำสั่ง stop-loss
- หากต้องการกำหนดกำไรแบบอัตโนมัติ ให้ใช้คำสั่ง take-profit
ไม่ใช่ว่าเว็บเทรดคริปโตทุกเว็บจะมีคำสั่งเหล่านี้ จึงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ต้องใช้พิจารณาเลือกแพลตฟอร์มเทรดคริปโตรายวันที่ดีที่สุด
กฎการเทรดคริปโตรายวัน
สำหรับการลงทุนทั่วไป นักลงทุนจะต้องปฏิบัติตามกฎของการเทรดรายวัน ซึ่งหากคุณทำการซื้อขายมากกว่า 4 ครั้ง ใน 5 วัน จะถือว่าเป็นนักเทรดรายวัน
นั่นหมายความว่า คุณจะต้องมีเงินทุนอย่างน้อย 25,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นเหตุผลให้เดย์เทรดไม่สามารถเข้าถึงได้ทุกคน
แต่ข่าวดีคือ คริปโตเคอเรนซี่ไม่อยู่ภายใต้กฎการเทรดรายวันทั่วไป ด้วยเหตุนี้ คุณจึงสามารถเทรดคริปโตได้ทุกวันในจำนวนเงินที่ต้องการ
หากคุณอยากเทรดคริปโตด้วยเลเวอเรจ และใช้แพลตฟอร์มที่ควบคุมโดย SEC จะมีข้อกำหนดขั้นต่ำที่ 2,000 ดอลลาร์
เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดคริปโตรายวัน คืออะไร?
หนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการเทรดคริปโตรายวันคือ ไม่จำกัดว่าจะเป็นสกุลเงินดิจิทัลใด
คุณแค่เปิดสถานะเอาไว้ในช่วงเวลาหนึ่ง และกำหนดเป้าหมายในการสร้างกำไรระยะสั้น
ด้วยเหตุนี้ สกุลเงินดิจิทัลบางสกุลจึงเหมาะกับการเดย์เทรดมากกว่า โดยเฉพาะสกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูง
นอกจากนี้ นักเทรดควรมองหาคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนสูง ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการทำกำไรให้มากขึ้นได้ตลอดทั้งวัน
หากคุณยังไม่แน่ใจว่าเหรียญไหนที่ดีที่สุดในการเทรดรายวันตามวัตถุประสงค์การลงทุน ให้พิจารณา 5 รายการด้านล่าง
1. Lucky Block
หนึ่งในเหรียญ altcoins ที่ดีที่สุดที่ควรเทรดรายวัน คือ Lucky Block เพราะ Lucky Block เป็นแพลตฟอร์มเกมลุ้นรางวัลที่น่าตื่นเต้น และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบล็อคเชน เพื่อการจับรางวัลรายวันที่โปร่งใส พร้อมโอกาสในการถูกรางวัลที่มากขึ้น โทเค็นหลักของ Lucky Block คือ LBLOCK ที่ลิสบน PancakeSwap ในเดือนมกราคม 2022 และมีผลให้ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในวันถัดไปตลอดทั้งสัปดาห์
ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ LBLOCK เพิ่มขึ้นมากกว่า 3,200% จากราคาขายพรีเซล ทำให้นักลงทุนที่ซื้อในช่วงแรกได้รับผลตอบแทนที่น่าประทับใจ แม้ว่าราคาปัจจุบันจะลดลง แต่ Lucky Block ก็ยังคงมีมูลค่าตลาดกว่า 318 ล้านดอลลาร์ ความนิยมของ LBLOCK เป็นโอกาสที่ดีในการเทรดรายวัน ซึ่งการเคลื่อนไหวมากกว่า 10% ในแต่ละวันไม่ใช่เรื่องแปลก
การโพสต์ล่าสุดในกลุ่ม Telegram ของ Lucky Block น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะมีรายละเอียดของโทเค็น LBLOCK V2 ซึ่งเข้ากันได้ดีกับกระดานแลกเปลี่ยนแบบ centralized นี่เป็นข่าวดีสำหรับนักเทรดรายวัน เนื่องจากเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึง LBLOCK มากขึ้น นำไปสู่สภาพคล่องที่มากขึ้น และการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยรวมแล้วจึงทำให้ LBLOCK เป็นตัวเลือกการเทรดรายวันที่ดีที่สุดในปีนี้
สินทรัพย์ครปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม มีความผันผวนสูง
2. Bitcoin
หากคุณเป็นคริปโตเดย์เทรดเดอร์มือใหม่ ควรเริ่มฝึกเทรดด้วย Bitcoin ไปก่อน และก็ต้องขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่เลือก ว่าจะเป็นการเทรดด้วย BTC/USD หรือ BTC/USDT แต่ทั้งสองคู่สามารถแลกเปลี่ยนระหว่าง Bitcoin กับดอลลาร์ได้ทั้งสิ้น
เพราะ Bitcoin มีสภาพคล่องและมีปริมาณการซื้อขายสูงกว่าสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ และด้วยเหตุนี้ คุณจะได้รับประโยชน์จากสเปรดที่แคบลง นอกจากนี้ แม้ว่า Bitcoin จะยังคงผันผวน แต่การพุ่งขึ้นของราคาไม่ได้เป็นรูปแบบของพาราโบลาเหมือนสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ
3. Ethereum
เช่นเดียวกับ Bitcoin เหรียญ Ethereum ถือเป็นคริปโตเคอเรนซี่ขนาดใหญ่ ที่มีปริมาณซื้อขายและสภาพคล่องสูง ในฐานะที่เป็นคริปโตเคอเรนซี่ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก จึงไม่มีปัญหาในการหาแพลตฟอร์มการเทรดที่มีเหรียญนี้
การเปลี่ยนแปลงของราคาในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา Ethereum ทำสถิติสูงสุดที่ 4,900 ดอลลาร์ และต่ำสุดที่ 1,300 ดอลลาร์ ด้วยสเปรดมากกว่า 110% จากความผันผวนนี้ ทำให้ Ethereum เป็นเหรียญที่เหมาะสำหรับการเทรดรายวัน นอกจากนี้ Ethereum ยังสามารถเทรดได้ทั้งสกุลเงินดอลลาร์ และสินทรัพย์ดิจิทัลทางเลือกอีกหลายร้อยรายการ
4. Dogecoin
Dogecoin เป็นหนึ่งในคริปโตเคอเรนซี่ที่ร้อนแรงที่สุดในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 เพราะราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000% ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน อย่างไรก็ตาม หลังจากแตะระดับสูงสุดที่ 0.74 ดอลลาร์ต่อโทเค็น Dogecoin ก็ได้เข้าสู่วงจรขาลงแล้ว โดยราคาต่ำสุดในปี 2022 อยู่ที่ 0.17 ดอลลาร์
หากคุณชอบติดตามแนวโน้มตลาดและการเทรดคริปโตรายวัน ที่ขึ้นกับความผันผวนและกระแส Dogecoin เป็นอีกเหรียญที่ควรพิจารณา เนื่องจากมูลค่าของเหรียญถูกกำหนดด้วยการเก็งกำไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Elon Musk ทวีตเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล
5. BNB
หากคุณเป็นนักลงทุนที่ต้องการเทรดรายวันในโทเค็นที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงนี้ เหรียญ BNB เป็นเหรียญที่ควรค่าแก่การลงทุน สกุลเงินดิจิทัลนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระดานแลกเปลี่ยน Binance และเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าสูง 5 อันดับแรกของตลาด
BNB แตะระดับสูงสุดที่เกือบ 700 ดอลลาร์ในช่วงปลายปี 2021 แต่หลังจากนั้น ราคาก็ลดลงต่ำกว่าระดับ 400 ดอลลาร์ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงสามารถเทรดคริปโตรายวันในเหรียญนี้ได้
วิธีการเลือกเหรียญคริปโตสำหรับการเทรดรายวัน?
มีตัวชี้วัดหลายประการที่ทำให้คู่เหรียญบางคู่เหมาะสำหรับการเทรดคริปโตรายวัน
ซึ่งรวมถึงสิ่งต่อไปนี้:
ปริมาณซื้อขายและสภาพคล่อง
สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อต้องเลือกเหรียญคริปโตสำหรับการเทรดคริปโตรายวัน คือ ปริมาณซื้อขายและสภาพคล่อง
- ปริมาณซื้อขาย หมายถึง ความมากน้อยของกิจกรรมการเทรดในแต่ละคู่เงิน ณ ช่วงเวลาหนึ่ง โดยปกติคือ 24 ชั่วโมง
- สภาพคล่อง หมายถึง จำนวนเงินทุนในแต่ละตลาดหรือในแต่ละเหรียญ
โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งคู่เงินมีปริมาณซื้อขายมาก สภาพคล่องก็จะยิ่งมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดก็คือ การเทรดคู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องสูง จะช่วยให้สถานะการเข้าและออกจากตำแหน่งเกิดขึ้นง่ายในราคาที่เหมาะสม
- ตัวอย่างเช่น การเทรดเหรียญขนาดใหญ่ เช่น Bitcoin, Ethereum, Cardano หรือ BNB เป็นเรื่องง่ายในการหาผู้ซื้อเมื่อคุณตัดสินใจถอนเงินออก
- และในทางกลับกัน สเปรดของตลาดจะมีการแข่งขันมากขึ้น ดังนั้น สเปรดจึงมีราคาถูกเพื่อปิดสถานะการเทรดรายวัน
ในทางกลับกัน เมื่อคุณเทรดคริปโตเคอเรนซี่ที่มีขนาดเล็กลง คุณจะพบว่าปริมาณการซื้อขายต่ำกว่ามาก ส่งผลให้สภาพคล่องอยู่ในระดับต่ำ
ผลที่ตามมาทันทีคือ เป็นการยากที่จะหาผู้ซื้อที่เหมาะสมเมื่อคุณตัดสินใจที่จะปิดสถานะการเทรดรายวัน
หากเป็นกรณีนี้ คุณอาจต้องยอมขายราคาที่ต่ำกว่าเพื่อดึงเงินออก ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งอาจทำให้ไม่เหลือกำไรเลย
ความผันผวน
ตัวชี้วัดถัดไปที่ควรพิจารณาเมื่อเทรดคริปโตรายวัน คือ ความผันผวนของคู่เงินที่เกี่ยวข้อง และแน่นอนว่าคริปโตเคอเรนซี่มีความผันผวนมากกว่าตลาดหุ้นแบบดั้งเดิมเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม แต่ละเหรียญคริปโตมีความผันผวนไม่เท่ากัน ยิ่งมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมีขนาดเล็กเท่าไหร่ ก็จะยิ่งผันผวนมากขึ้น
เนื่องจากไม่มีกิจกรรมการเทรดมากนัก ส่งผลให้การแกว่งของราคารุนแรงมากกว่า
ตัวอย่างเช่น:
- ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อน ตามข้อมูล CoinMarketCap เหรียญ Bitcoin แตะระดับสูงสุดที่ 38,359 ดอลลาร์ และต่ำสุดที่ 36,488 ดอลลาร์ คิดเป็นความผันผวนไม่ถึง 5%
- ในทางตรงข้าม Anchor Protocol แตะระดับสูงสุดและต่ำสุดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ 3.04 ดอลลาร์ และ 2.38 ดอลลาร์ตามลำดับ ซึ่งคิดเป็นความผันผวนมากถึง 25%
ดังนั้น คุณจึงควรกำหนดเป้าหมายของระดับความผันผวน ซึ่งขึ้นอยู่กับประสบการณ์การเทรดคริปโตรายวันของแต่ละบุคคล
กล่าวคือ เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์จะตามหาเหรียญที่มีความผันผวน เนื่องจากราคาที่ผันผวนจะทำให้มีโอกาสเข้าและออกจากตำแหน่ง เพื่อทำกำไรได้บ่อยครั้ง ในทางกลับกัน หากคุณเป็นมือใหม่ คุณอาจเริ่มต้นจากคริปโตที่ผันผวนน้อยกว่า
สเปรดแคบ
การค้นหาตลาดคริปโตที่มีสเปรดแคบเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเทรดรายวัน เพราะสเปรดหมายถึงเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายของคู่เหรียญที่คุณกำลังเทรด
เพื่อให้เทรดคริปโตรายวันได้สำเร็จ คุณต้องทำกำไรให้มากกว่าค่าสเปรด ตัวอย่างเช่น หากสเปรดของ BTC/USD เท่ากับ 0.75% ดังนั้น คุณต้องปิดการขายให้ได้มากกว่าตัวเลขนี้เพื่อให้ได้กำไร
สเปรดที่ถูกเรียกเก็บเงินไม่ได้ถูกกำหนดโดยแพลตฟอร์มการเทรดคริปโตเท่านั้น แต่ยังขึ้นกับสินทรัพย์ดิจิทัลบางตัวด้วย
โดยปกติ หากคุณเทรดคู่เหรียญที่มีสภาพคล่องสูง เช่น BTC/USD หรือ ETH/USD คุณจะได้รับประโยชน์จากสเปรดที่แคบกว่า แต่ถ้าซื้อขายในตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำ และปริมาณซื้อขายต่ำ สเปรดที่กว้างจะทำให้สร้างกำไรได้ยาก
โครงการคริปโตมาใหม่
การเทรดรายวันที่ทำกำไรได้มากที่สุดบางครั้งเกิดจากเหรียญที่เพิ่งเปิดตัวใหม่
เช่นเดียวกับหุ้น IPO บ่อยครั้งที่เหรียญคริปโตจะมีราคาต่ำเมื่อเปิดตัวบนกระดานแลกเปลี่ยนครั้งแรก และด้วยเหตุนี้ การติดตามการลิสเหรียญใหม่ ๆ จึงเป็นวิธีเทรดคริปโตรายวันที่สร้างกำไรได้
ประกาศโครงการและการพัฒนาต่างๆ
อีกวิธีที่ยอดเยี่ยมในการค้นหาคริปโตที่ดีที่สุดในการเทรดรายวัน คือ การติดตามประกาศของโครงการ
- ตัวอย่างเช่น หากคุณพบว่ามีเหรียญที่เพิ่งลิสบน Binanceข จะทำให้ราคาเหรียญนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
- ยิ่งคุณเปิดการเทรดรายวันเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้โอกาสทำกำไรมากเท่านั้น
ในทางตรงข้าม เหรียญที่มีข่าวเชิงลบอาจส่งผลให้ราคาตกอย่างรวดเร็ว
ตัวอย่างเช่น ในเดือนพฤษภาคม 2021 ที่มีการประกาศว่ากระดานแลกเปลี่ยน Binance ถูกแฮ็กมากกว่า 40 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่าของ BNB ได้รับผลกระทบอย่างมาก
เพื่อยังให้มีกำไรแม้ราคาจะร่วงลง คุณสามารถใช้คำสั่งขายชอร์ตในแพลตฟอร์มเดย์เทรดของคุณได้
กลยุทธ์การเทรดคริปโตรายวัน
วิธีเดียวที่จะทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอเมื่อเทรดคริปโตรายวัน คือ การกำหนดกลยุทธ์บางอย่าง ไม่เพียงแค่เป้าหมายการทำกำไรเท่านั้น แต่เพื่อปกป้องเงินทุนผ่านการจัดการความเสี่ยงด้วย
เพื่อช่วยให้คุณไม่หลงทาง ด้านล่างนี้คือกลยุทธ์การเทรดคริปโตรายวัน ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
กลยุทธ์ที่ 1: การจัดการบริหารเงินทุน
กลยุทธ์แรกเกี่ยวกับการจัดการบริหารเงินทุน ซึ่งหมายถึงวิธีการที่จะช่วยปกป้องเงินลงทุนของคุณ
- วิธีที่เหมาะสมคือ การกำหนดข้อจำกัดที่ชัดเจนเกี่ยวกับจำนวนเงินทุนที่คุณเสี่ยงได้ในแต่ละครั้ง
- ตัวอย่างเช่น คุณอาจกำหนดว่าจะไม่เสี่ยงเกิน 2% ของเงินทุนต่อการเทรด
- หมายความว่าถ้ามียอดคงเหลือ 10,000 ดอลลาร์ ต้องทำการเทรดไม่เกิน 200 ดอลลาร์
- หากเดือนต่อ ๆ ไป ยอดเงินคงเหลือของคุณเพิ่มเป็น 20,000 ดอลลาร์ การเทรดของคุณจะทำได้ไม่เกิน 400 ดอลลาร์
การใช้แนวทางนี้ จะช่วยให้เงินทุนของคุณไม่มีวันหมด หรือแม้ว่ายอดคงเหลือของคุณลดลง ปริมาณการเทรดสูงสุดก็ลดลงเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น หากยอดเงินคงเหลือลดจาก 10,000 ดอลลาร์ เหลือ 5,000 ดอลลาร์ จำนวนเงินสูงสุดที่คุณสามารถเทรดได้ที่ 2% จะลดลงจาก 200 ดอลลาร์ เหลือ 100 ดอลลาร์ นั่นเอง
กลยุทธ์ที่ 2: คำสั่ง Stop-Loss
เราได้กล่าวถึงคำสั่ง Stop-Loss ไปพอสังเขปแล้ว แต่เมื่อพิจารณาถึงเป้าหมายการเทรดรายวันในระยะยาว ขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานอย่างละเอียด
เมื่อคุณตั้งค่าการเทรดรายวัน สามารถเลือกคำสั่ง Stop-Loss ซึ่งหมายถึง หากถึงราคาที่กำหนด แพลตฟอร์มจะหยุดการลงทุนโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างเช่น:
- สมมติว่าคุณต้องการเทรด ETH/USD 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าคุณคิดว่าราคาของคู่เหรียญนี้จะเพิ่มขึ้น
- เมื่อคุณเปิดคำสั่งซื้อ ราคาของ ETH/USD อยู่ที่ 3,000 ดอลลาร์
- สมมติว่าคุณคาดการณ์ผิด แต่คุณได้ตั้งค่าคำสั่ง stop-loss ไว้ที่ 2,700 ดอลลาร์
- หมายความว่าหากราคา ETH/USD ลดลง 10% แพลตฟอร์มจะปิดการขายให้โดยอัตโนมัติ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อคุณพิจารณาถึงความผันผวนของตลาดคริปโตภาพรวม การตั้งค่าคำสั่ง stop-loss ในแต่ละตำแหน่งมีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง
การทำเช่นนี้จะช่วยควบคุมการเทรดที่ขาดทุนได้ และทำให้แน่ใจว่ายอดคงเหลือในบัญชีของคุณจะไม่หายไปจนหมด
กลยุทธ์ที่ 3: คำสั่งล็อกกำไร
ในทางตรงข้าม คุณสามารถใช้คำสั่ง take-profit เพื่อล็อกเป้าหมายกำไรโดยอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องนั่งรอเวลาที่เหมาะสมเพื่อถอนเงิน
ตัวอย่างเช่น:
- สมมติว่าคุณต้องการทำกำไรใน BNB/USD จากการเทรดรายวันที่ 3% โดยการเปิดสถานะ Long
- เมื่อคุณเปิดคำสั่งซื้อ ตอนราคาของ BNB/USD อยู่ที่ 400 ดอลลาร์
- หมายความว่าคำสั่ง take-profit ควรตั้งไว้ที่ 412 ดอลลาร์
ไม่ว่าคุณจะเห็นราคาที่ขึ้นมา 3% หรือไม่ หากตลาดถูกกระตุ้นจนถึงราคาที่กำหนด แพลตฟอร์มจะปิดการเทรดให้โดยอัตโนมัติ
กลยุทธ์ที่ 4: มุ่งเน้นตลาดขนาดเล็ก
อีกหนึ่งกลยุทธ์การเทรดรายวันที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว คือ การมุ่งเน้นไปที่ตลาดขนาดเล็ก แต่การทำเช่นนี้จะต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ว่าคู่เหรียญนั้นทำงานอย่างไร
- ตัวอย่างเช่น คุณอาจพบว่า BTC/USD ดึงดูดแนวรับจำนวนมากที่ระดับ 42,000 ดอลลาร์ และแนวต้านที่ 44,000 ดอลลาร์
- ในทำนองเดียวกัน คุณอาจพบว่า ETH/USD มักจะทำงานได้ดีเมื่อ RSI อยู่เหนือ 40
ประเด็นสำคัญคือ การเป็นผู้เชี่ยวชาญในตลาดคริปโตขนาดเล็ก จะช่วยให้มีโอกาสที่ดีที่สุดในการทำกำไรอย่างสม่ำเสมอ
มิฉะนั้น คุณอาจจะทำได้หลายอย่าง แต่ไม่สำเร็จสักอย่าง และยิ่งหลงทางไปเรื่อย ๆ
กลยุทธ์ที่ 5: ใช้เครื่องมือ Copy Trading
หากคุณไม่มีเวลาเรียนรู้วิธีการเทรดรายวัน ยังมีทางเลือกอื่นให้พิจารณา
หนึ่งในโบรกเกอร์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ SEC คือ eToro ซึ่งมีเครื่องมือ Copy Trading ที่จะช่วยให้คุณเก็งกำไรในสกุลเงินดิจิทัลได้ง่าย ๆ
เพียงแค่คุณเลือกเลียนแบบคำสั่งซื้อและขายของนักเทรดคริปโตรายวันที่มีประสบการณ์ ตำแหน่งการเข้าและออกจะถูกคัดลอกลงในพอร์ตการลงทุน ตามสัดส่วนเงินลงทุนของคุณ
นี่คือตัวอย่างการทำงานของเครื่องมือ Copy Trading ที่ eToro:
- คุณตัดสินใจลงทุน 3,000 ดอลลาร์ ตามนักเทรดคริปโตรายวัน ที่มีประวัติยาวนานบนแพลตฟอร์ม eToro
- ตำแหน่งแรกที่เทรดเดอร์เข้า คือ สั่งซื้อ BTC/USD ที่ 10% ของพอร์ตการลงทุน
- eToro จะคัดลอกการซื้อขายไปยังพอร์ตของคุณโดยอัตโนมัติ ด้วยเงินลงทุน 300 ดอลลาร์ (10% ของการลงทุนทั้งหมด 3,000 ดอลลาร์)
- นักเทรดรายวันปิดการเทรดในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาที่กำไร 6%
- การขายของคุณจะถูกปิดเช่นกัน และคุณสามารถทำกำไรได้ 18 ดอลลาร์
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับตัวอย่างข้างต้น คือ คุณสามารถทำกำไรได้ 6% โดยไม่ต้องใช้คำสั่งใด ๆ และไม่จำเป็นต้องทำการศึกษาใด ๆ เช่นกัน
การเทรดคริปโตรายวันสร้างกำไรได้จริงหรือไม่?
ไม่มีวิธีการที่แน่นอนที่จะบอกว่าเทรดรายวันทำกำไรให้แก่คุณได้จริงไหม เพราะมีปัจจัยมากมายที่เกี่ยวข้อง
สิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับว่า คุณมีทักษะที่จำเป็นในการเทรดคริปโตเพื่อทำกำไรอย่างสม่ำเสมอหรือไม่ กล่าวคือ หากคุณไม่สามารถต่อสู้กับนักเทรดคนอื่น ๆ ได้ ก็มีโอกาสที่คุณจะสูญเสียเงินลงทุน
อีกปัจจัยที่ต้องพิจารณา คือ สิ่งสำคัญของเทรดคริปโตรายวัน คือการทำกำไรเพียงเล็กน้อย แต่บ่อยครั้ง
ซึ่งหมายความว่าหากคุณมีเงินทุนในการเทรดเพียงเล็กน้อย อาจยากต่อการทำกำไรให้เพียงพอและคุ้มค่าในรูปของเงินดอลลาร์
- ตัวอย่างเช่น หากคุณลงทุนเทรดที่ 500 ดอลลาร์ และทำกำไรได้ 2% ในวันนั้น เท่ากับได้เงินเพียง 10 ดอลลาร์
- ในทางกลับกัน หากคุณอาศัยอยู่ในประเทศที่อนุญาตให้ใช้ CFD คุณสามารถใช้เลเวอเรจได้
- ซึ่งหมายความว่า คุณสามารถเพิ่มมูลค่าการเทรดได้ แต่ก็เพิ่มโอกาสการขาดทุนได้เช่นกัน ดังนั้น ต้องระมัดระวังให้ดี
สุดท้าย ทั้งหมดคือเหตุผลที่ควรใช้เครื่องมือ copy trading ของ eToro เพราะคุณไม่จำเป็นต้องมีความรู้ใด ๆ เกี่ยวกับ day trade นักลงทุนที่คุณเลือกจะช่วยคุณเอง
เริ่มต้นการเทรดคริปโตรายวันอย่างไร
เราได้กล่าวถึงหลักการทำงานของการเทรดรายวันไปแล้ว ต่อไปจะเป็นการอธิบายวิธีเริ่มต้นการเทรดรายวันทีละขั้นตอน โดยแสดงให้คุณเห็นวิธีการเทรดคริปโตด้วยแพลตฟอร์ม eToro
ขั้นตอนที่ 1 – ลงทะเบียนบัญชี
ขั้นแรกคือ เปิดบัญชี eToro โดยคลิก ‘Join Now’ จากนั้น กรอกข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดการติดต่อ และยืนยันอีเมลของคุณ
ขั้นตอนที่ 2 – ยืนยันตัวตนของคุณ
ผู้ใช้ใหม่จะต้องยืนยันตัวตน โดยคุณจะต้องอัปโหลดข้อมูลหนังสือเดินทาง ใบขับขี่ หรือบัตรประจำตัวของรัฐก็ได้
ขั้นตอนที่ 3 – ฝากเงิน
การฝากเงินที่ eToro สามารถดำเนินการได้ทันทีจากบัตรเดบิต บัตรเครดิต หรือ e-wallet โดยไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ และลงทุนขั้นต่ำที่ 10 ดอลลาร์
ขั้นตอนที่ 4 – เลือกเหรียญคริปโตที่ต้องการเทรด
คุณสามารถเลือกเหรียญที่ต้องการเทรดได้ถึง 60 สกุลเงินดิจิทัล จากนั้น คลิกที่ ‘Discover’ เพื่อดูว่าตลาดใดบ้างที่รองรับ
ขั้นตอนที่ 5 – เริ่มการเทรดรายวัน
กรอกจำนวนเงินที่ต้องการ และคลิกที่ปุ่ม ‘Trade’ เพื่อยืนยันคำสั่งซื้อ
ภาษีคริปโตสำหรับการเทรดคริปโตรายวัน
เช่นเดียวกับหุ้น กองทุนรวมดัชนี ฟอเร็กซ์ หรือเครื่องมือทางการเงินใด ๆ คุณต้องศึกษาว่าประเทศที่อาศัย มีนโยบายการเก็บภาษีจากผลกำไรของคริปโตหรือไม่
นอกเหนือจากมีข้อยกเว้นบางประการขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ประเทศใด โดยส่วนใหญ่จะเก็บภาษีจากกำไรการขาย ตัวอย่างเช่น หากคุณเทรด EOS/USD 1,000 ดอลลาร์ และได้กำไร 10% กำไรของคุณคือ 100 ดอลลาร์
จากที่กล่าวมา ภาษีคริปโตสำหรับการเทรดรายวันเป็นเรื่องซับซ้อน ดังนั้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่ไม่มีการควบคุม
บทสรุป
คู่มือการเทรดคริปโตรายวัน ครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ เพื่อเริ่มต้นการลงทุนอย่างถูกต้อง เราได้พูดถึงกลยุทธ์การเทรดคริปโตรายวันที่ดีที่สุด ความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา และคู่สกุลเงินดิจิทัลที่ควรใช้
โดยสรุปแล้ว หากคุณต้องการเริ่มต้นการเทรดคริปโตรายวันด้วยต้นทุนต่ำ eToro ก็เป็นแนวทางที่คุ้มค่า เพราะเริ่มต้นเทรดรายวันได้ที่ 10 ดอลลาร์เท่านั้น