ในขณะที่โลกกำลังตามล่าหาคริปโตเคอเรนซี่ที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การลงทุนในเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดถือเป็นกลยุทธ์ที่ดี อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องยากที่จะแยกเหรียญที่ไม่น่าสนใจ ออกจากเหรียญที่มีโอกาสการเติบโตสูง
คู่มือนี้จะรีวิวบรรดาเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุด รวมถึงอธิบายว่าเหรียญ proof of stake คืออะไร เหรียญ proof of stake มีอะไรบ้าง ข้อดี ข้อเสีย proof of stake และดูว่า Proof of Work vs Proof of Stake ต่างกันยังไง ไปดูกัน
- มีม Pepe มีเชน Ethereum Layer-2 เป็นของตัวเอง
- Staking โทเค็น $PEPU เพื่อรับรางวัลสองเท่าผ่านเทคโนโลยี Layer-2
- Pepe Unchained ตั้งเป้าที่จะจำลองความสำเร็จของ Pepe ด้วยระบบนิเวศของตัวเอง
- Ethereum
- Tether
- BNB
- +1 more
- เหรียญมีม $SLAP ที่ทุกคนมีโอกาสเท่าเทียมกันในการซื้อ สร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส
- เหนือไปอีกขั้นจากเหรียญมีมทั่วไป ด้วยเกมแมวตบที่เล่นแล้วติดหนึบ พร้อมรางวัลสำหรับคนในชุมชน
- $SLAP กำลังเกาะกระแสความสำเร็จของเหรียญแมวยอดนิยมในไตรมาส 3-4 ปี 2024
- Ethereum
- Debit
- ซื้อ, สเตก และรับรางวัล 3 เท่าด้วยโทเค็น $STARS
- Crypto All-Stars ได้พัฒนา “MemeVault,” สัญญาอัจฉริยะสำหรับสเตกที่มีเอกลักษณ์เพื่อมอบรางวัลสูงสุด
- โครงการมีมล่าสุดเสนอรางวัลสเตกสำหรับโทเค็นมีมชั้นนำ รวมถึง PEPE และ DOGE
- Ethereum
- BNB
- DAO รูปแบบใหม่ Vote-To-Earn ที่แรกของโลก ให้ผู้ถือโทเค็นมีอำนาจควบคุมและกำหนดอนาคตของโครงการ
- ผู้ที่เข้าร่วมในช่วงต้นของเหรียญมีมนี้จะได้รับรางวัลมหาศาลจากการซื้อและ staking เหรียญของพวกเขาในช่วงพรีเซล
- 25% ของอุปทานถูกสำรองไว้สำหรับการสเตกเหรียญ $FLOCK และรับรางวัลที่เพิ่มขึ้น
- Ethereum
- BNB
- Tether
- +1 more
- ผู้ถือโทเค็น $BEST จะได้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงรอบพรีเซลของโทเค็นฮอตฮิตในตลาดก่อนใคร
- เพิ่ม APY จากการ Staking บน Best Wallet ด้วยการถือโทเค็น $BEST
- ผู้ถือโทเค็น $BEST สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรมได้ถูกลงในระบบนิเวศของ Best Wallet
- BNB
- Ethereum
- เหรียญมีมแบบโต้ตอบที่อิงจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
- Stake และโหวตให้กับ Magatron หรือ Kamacop เพื่อรับรางวัล
- หากผู้สมัครที่คุณเลือกชนะการโต้วาที คุณจะได้รับแอร์ดรอปโทเค็น $DUM
- Ethereum
- BNB
- Solana
สุดยอด 13 เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดในปี 2024
เราได้สรุป 13 เหรียญ proof of stake ที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถค้นหาโครงการที่จะเติบโตในอนาคตได้ง่ายขึ้น และรีวิวเหรียญ pos โดยละเอียดด้านล่างนี้
- Pepe Unchained – เหรียญ Proof-of-Stake ที่มี APY ถึง 1,036%
- Crypto All Stars – เหรียญ Proof-of-Stake ที่มี APY สูงสุด 1,882%
- Flockerz – เหรียญที่เหมาะแก่การ Stake เพราะมี APY สูงสุด 3,443%
- FreeDum Fighters – ทั้ง MAGATRON และ Kamacop 9000 กำลังเสนอรางวัลจากการ Staking ที่สูงให้กับผู้ถือ DUM โดยผสมผสานผลตอบแทนทางการเงินเข้ากับการแสดงจุดยืนทางการเมือง Stake อย่างชาญฉลาดเพื่อรับรางวัลสูงสุด
- Sponge V2 – $SPONGE เหรียญมีมที่น่าสนใจซึ่งเคยมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นเป็น $100 ล้านเมื่อปี 2023 พร้อมเปลี่ยนไปใช้โทเค็น V2 ผ่านกลไก Stake-to-Bridge เริ่ม Stake โทเค็น V1 เพื่อรับโทเค็น V2 จำนวนเท่ากันได้ฟรีก่อนเหรียญเข้ากระดานเทรด
- Mega Dice Token — เหรียญ Gamefi มาแรงบนเครือข่าย Solana
- BNB – เหรียญคริปโตสัญญาอัจฉริยะที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
- Tezos – Blockchain ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- Polkadot – เหรียญ proof of stake ที่เน้นการทำงานร่วมกัน
- Solana – เครือข่ายสัญญาอัจฉริยะความเร็วสูง
- Avalanche – เหรียญทางเลือกจาก Ethereum ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ
- Algorand – เครือข่ายที่รวดเร็วและยั่งยืน
- Cardano – Blockchain Layer 1 ที่มีความปลอดภัยสูง
รีวิวสุดยอดเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดที่น่าซื้อ
คงจะไม่มีเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุด หากไม่มีการรีวิวในส่วนต่อไปนี้
1. Pepe Unchained – เหรียญ Proof-of-Stake ที่มี APY ถึง 1,036%
Pepe Unchained ($PEPU) คือเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในไตรมาศที่ 2 ของปี 2024 โดยจุดประสงค์ในการก่อตั้งเหรียญคือเพื่อความบันเทิงและการระดมทุน ถูกพัฒนาต่อมาจากเหรียญ Pepe ($PEPE) หนึ่งในเหรียญมีมที่ประสบความสำเร็จแห่งปี 2024 เพราะสามารถระดมทุนไปได้มากกว่า $39.89 ล้าน (ประมาณ 1,300 ล้านบาทไทย)
การออกแบบของเหรียญ Pepe Unchained ยังคงเหมือนกันกับเหรียญ Pepe คือมาในธีมกบสีเขียวตาโต แต่เหรียญนี้มีการใส่เลเยอร์ 2 (Layer 2) ที่ทำให้เหรียญมีคุณสมบัติสามารถปรับเปลี่ยนขนาดได้อย่างยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งส่งผลให้ระยะเวลาในการทำธุรกรรมบนบล็อกเชนสั้นลงและมีค่าธรรมเนียมที่ถูกลง
นับตั้งแต่เหรียญ Pepe Unchained ได้เปิดขายในรอบพรีเซล ดูเหมือนว่าเหรียญจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เพราะเหรียญสามารถระดมทุนไปได้มากกว่า $1.8 ล้าน (ประมาณ 60 ล้านบาทไทย) และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนี่อาจจะเป็นเพราะว่าเหรียญมีค่า APY สูงถึง 1,036% ซึ่งนับว่าเป็นผลตอบแทนที่สูงมากเมื่อเทียบกับเหรียญมีมเหรียญอื่น ๆ ในตลาดคริปโทเคอร์เรนซี
นอกจากนี้ เจ้าของโครงการเหรียญ Pepe Unchained ยังได้พัฒนาเครือข่ายบล็อกเชนเป็นของตนเองที่ชื่อว่า ‘Pepe Chain’ และจะมีการนำเหรียญมาใช้เป็น Utility Token ในการชำระค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่าย นี่จึงอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่เหรียญสามารถดึงดูดความใจจากนักลงทุนได้เป็นอย่างมากในรอบพรีเซลเช่นเดียวกัน
นักลงทุนที่สนใจในเหรียญ Pepe Unchained สามารถติดตามข่าวสารและการอัปเดตที่สำคัญได้บนบัญชีอย่างเป็นทางการของเหรียญบน X และ Telegram
เริ่มขายพรีเซล | ไตรมาศที่ 2 ของปี 2024 |
วิธีการซื้อ | ETH, USDT และบัตรธนาคาร |
เชน | Ethereum |
ลงทุนขั้นต่ำ | ไม่มี |
ลงทุนสูงสุด | ไม่มี |
2. Crypto All Stars – เหรียญ Proof-of-Stake ที่มี APY สูงสุด 1,882%
Crypto All Stars ($STARS) เป็นเหรียญคริปโตที่ถูกสร้างและเปิดตัวในไตรมาศที่ 4 ของปี 2024 ผ่านการตรวจสอบและได้รับใบรับรองจากสถาบัน SolidProof.io ซึ่งเป็นผู้ให้บริการตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) ที่อยู่ภายใตบริษัท FutureVisions Deutschland ประเทศเยอรมัน
Crypto All Stars เป็นเหรียญ Proof-of-Stake ที่มีคุณสมบัติเด่นหลายประการ เช่น การออกแบบเหรียญที่เป็นการนำเหรียญมีมชื่อดังของวงการคริปโต เช่น Doge Coin, Pepe Coin และ Floki Coin มารวมกันและมาในรูปแบบภาพ 8 บิตที่ดูแปลกตาและน่าสนใจ
จุดมุ่งหมายหลักในการก่อตั้งเหรียญ Crypto All Stars คือเพื่อการใช้เป็นโทเค็นสำหรับการจ่ายผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนที่นำเหรียญมีมมาฝากบน MemeVault ซึ่งเป็นโปรโตคอลสำหรับการ Stake เหรียญและนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนสูงสุดถึง 3 เท่าตัว
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสามารถซื้อเหรียญ Crypto All Stars เพื่อการเก็งกำไรได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าของโครงการเหรียญได้ระบุว่าเหรียญมีอัตราผลตอบแทนประจำปี (Annual Percentage Yield: APY) สูงสุดถึง 1,882%
นักลงทุนที่สนใจในเหรียญ Crypto All Stars สามารถติดตามข่าวสารและการอัปเดตที่สำคัญได้บนบัญชีอย่างเป็นทางการของเหรียญบน X และ Telegram
เริ่มขายพรีเซล | ไตรมาศที่ 4 ของปี 2024 |
วิธีการซื้อ | ETH, BNB และบัตรธนาคาร |
เชน | Ethereum |
ลงทุนขั้นต่ำ | ไม่มี |
ลงทุนสูงสุด | ไม่มี |
3. Flockerz – เหรียญที่เหมาะแก่การ Stake เพราะมี APY สูงสุด 3,443%
Flockerz ($FLOCK) เป็นเหรียญมีมที่ถูกสร้างบนเครือข่าย Ethereum และเปิดตัวในไตรมาศที่ 4 ของปี 2024 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ $0.005 (ประมาณ 0.18 บาทไทย) และสามารถระดมทุนไปได้มากกว่า $500,000 (ประมาณ 17 ล้านบาทไทย) เป็นเหรียญที่กำลังเป็นที่จับตามองเพราะมีประโยชน์หลายประการ
เริ่มต้นที่เหรียญเหมาะสำหรับการ Stake เพราะเหรียญมีอัตราผลตอบแทนต่อปี (Annual Percentage Yield; APY) สูงสุด 3,443% อย่างไรก็ตาม อัตรานี้อาจจะมีการปรับลดลงในทุก ๆ ครั้งที่มีการถือครองเหรียญเพิ่ม ซึ่งนี่หมายความว่านี่อาจจะเป็นข้อได้เปรียบของนักลงทุนกลุ่มแรกที่สามารถครอบครองเหรียญที่มีราคาต่ำกว่าได้ก่อนในรอบพรีเซล
ประโยชน์ถัดมาคือการเป็นรางวัลสำหรับผู้ที่เข้าร่วม โดยเหรียญมีระบบ Vote-to-Earn ที่เปิดให้ผู้ถือเหรียญสามารถเข้าร่วมในการโหวตเพื่อการกำหนดทิศทางการบริหารและการดำเนินงานต่าง ๆ ภายในโครงการได้โดยสมบูรณ์ ยิ่งผู้ถือเหรียญเข้าร่วมในการโหวตบ่อยครั้ง ผู้ถือเหรียญก็จะยิ่งได้รับเหรียญเพิ่มมากขึ้นซึ่งหมายถึงอำนาจในการโหวตที่มากขึ้นเช่นเดียวกัน
ประโยชน์ถัดมาคือการเก็งกำไร เพราะเหรียญถูกเปิดขายในรอบพรีเซลด้วยราคาต่ำมากและเจ้าของโครงการได้มีการปรับเพิ่มราคาเหรียญในทุก 2-3 วัน ซึ่งนี่หมายความว่านักลงทุนกลุ่มแรก ๆ จะได้ราคาเหรียญที่ดีที่สุดและมีข้อได้เปรียบในการทำกำไรมากกว่า ยังไม่นับรวมกับราคาเหรียญที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางบวกหากเหรียญได้ถูกนำไปลิสต์บนกระดานเทรดหลังจากสิ้นสุดการขายรอบพรีเซล
นักลงทุนที่สนใจในเหรียญ Flockerz สามารถติดตามข่าวสารและการอัปเดตที่สำคัญได้บนบัญชีอย่างเป็นทางการของเหรียญบน X และ Telegram
เริ่มพรีเซล | ไตรมาศที่ 4 ของปี 2024 |
วิธีการซื้อ | ETH, USDT และบัตรธนาคาร |
เครือข่าย | Ethereum |
เงินลงทุนขั้นต่ำ | ไม่ระบุ |
เงินลงทุนสูงสุด | ไม่ระบุ |
4. FreeDum Fighters – เหรียญมีมการเมืองที่มี APY มากกว่า 1,600%
FreeDum Fighters ($DUM) เป็นเหรียญมีมที่ถูกสร้างและเปิดตัวในไตรมาศที่ 4 ของปี 2024 ด้วยจุดประสงค์เพื่อความบันเทิง โดยเจ้าของโครงการเหรียญได้ออกแบบเหรียญมาในรูปของผู้นำจักรกลแห่งจักรวรรดิจักรวาล 2 คนได้แก่ MAGATRON ที่มาในรูปหุ่นเหล็กบินได้หน้ากลม ผิวสีขาว และมีผมสีทอง และ Kamacop 9000 ที่มาในรูปสตรีเหล็กผู้มีพลังจิตร
การออกแบบเหล่านี้เป็นการล้อเลียนผู้สมัครประธานาธิบดีครั้งที่ 60 ของสหรัฐอเมริกา 2 คนที่เป็นตัวเต็งและกำลังเป็นที่จับตามองจากผู้คนทั่วโลก ได้แก่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ และกมลา แฮร์ริส (Kamala Harris) รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลำดับที่ 49
ความน่าสนใจของเหรียญ FreeDum Fighters คือคุณสมบัติการเป็น Vote-to-Earn โดยนักลงทุนที่ถือเหรียญจะสามารถเข้าร่วมในเกมทายผลว่าผู้นำจักรกลคนใดจะชนะและคว้าตำแหน่งจักรวรรดิจักรวาลไป ซึ่งผลลัพธ์ของเกมจะอ้างอิงจากผลลัพธ์การเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 60 ของสหรัฐอเมริกาจริง ๆ หากผู้เข้าร่วมสามารถทายผลได้อย่างถูกต้อง ผู้เข้าร่วมจะได้รับเหรียญนี้เพิ่มเป็นรางวัลซึ่งเจ้าของโครงการได้จัดสรรอุปทานเหรียญเพื่อการมอบเป็นรางวัลมากถึง 20%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถ Stake เหรียญได้ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ หาก Stake ฝั่ง Kamacop 9000 เหรียญจะมี APY ประมาณ 1,600% แต่ถ้าหาก Stake ฝั่ง MAGATRON เหรียญจะมี APY ประมาณ 300% ทั้งนี้ อัตราดังกล่าวสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาในทุก ๆ ครั้งที่มีการถือครองเหรียญเพิ่ม ซึ่งนี่หมายความว่า นักลงทุนที่ครอบครองเหรียญก่อนจะได้ถือเหรียญที่มี APY มากกว่า
นักลงทุนที่สนใจในเหรียญ FreeDum Fighters สามารถติดตามข่าวสารและการอัปเดตที่สำคัญได้บนบัญชีอย่างเป็นทางการของเหรียญบน X และ Telegram
เริ่มขายพรีเซล | ไตรมาศที่ 4 ของปี 2024 |
วิธีการซื้อ | ETH, BNB, SOL, USDT, USDC และอื่น ๆ |
เชน | Ethereum |
ลงทุนขั้นต่ำ | ไม่มี |
ลงทุนสูงสุด | ไม่มี |
5. Sponge V2 – โทเค็น Proof of Stake มาใหม่ที่เปิดโอกาสให้แลกเหรียญเป็น V2 พร้อมเสนอรางวัล Staking มหาศาล
$SPONGE ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นหลังจากเปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 เพราะนี่เป็นเหรียญมีมที่มีเสน่ห์แปลกตาและกลยุทธ์ทางการตลาดที่แข็งแกร่ง ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน $SPONGE ก็มีมูลค่าตลาดพุ่งไปเกือบ $100 ล้านเลยทีเดียว
ขณะนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะขยายชุมชนด้วยสิ่งใใหม่ๆ อย่าง ใหม่โทเค็น Sponge V2 ($SPONGEV2) ซึ่งเป็นโทเค็นในกลุ่ม ERC-20 มาใหม่ที่สามารถเข้าถึงได้ผ่านกลไก Proof of Stake
ด้วยการใช้กลไก Stake-to-Bridge เหรียญ $SPONGEV2 จะเปิดโอกาสให้ผู้ถือโทเค็น V1 สามารถล็อคโทเค็นของตนในสัญญาอัจฉริยะ V2 ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่นี้ได้ การนำเหรียญไปล็อคเอาไว้จะให้รางวัลแก่คุณเป็นโทเค็น V2 ตามสัดส่วนเป็นรางวัลการซื้อโบนัส ในอีก 4 ปีข้างหน้า โดยคุณจะได้รับ APY (เปอร์เซ็นต์ผลตอบแทนต่อปี) จากสัญญาอัจฉริยะ V2 ได้สูง
อย่างไรก็ตาม โทเค็น V1 จะถูกล็อคอย่างถาวร และไม่ได้รับการสนับสนุนอีกต่อไปหลังจากที่โทเค็น V2 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
Sponge V2 Whitepaper ได้ระบุว่าโปรเจ็กต์ดังกล่าวจะเปิดตัวเกมแข่งรถในรูปแบบ Play to Earn หลังจากเปิดตัวโทเค็น V2 เรียบร้อยแล้ว ดังนั้น ผู้ถือโทเค็นจะสามารถแข่งขันในเกมออนไลน์และรับโทเค็น $SPONGEV2 เพิ่มเติมบนแพลตฟอร์มได้
Sponge V2 จะถูกนำเข้ากระดานเทรดชั้นนำบางกระดาน ตามกระดานเทรดที่เหมาะสมกับเหรียญคู่หูอย่าง V1 ซึ่งถูกนำเข้าแพลตฟอร์มเทรดหลักๆ เช่น Gate.io และ MEXC โดยโปรเจกต์ Sponge V2 ยังเป็นที่นิยมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย – โดยมีผู้ติดตามมากกว่า 24,000 บน Twitter และผู้ติดตามเกือบ 8,000 คนบน Telegram
$SPONGEV2 มีมูลค่าตลาด 150 พันล้าน – ซึ่งมากกว่า 43% จะถูกสำรองเอาไว้เป็นรางวัล Staking สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าร่วม Sponge V2 Discord ที่นี่
เพดานเงินทุน | ไม่ระบุ |
โทเค็นทั้งหมด | 150 พันล้าน |
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์ | ไม่ระบุ |
Blockchain | เครือข่าย Ethereum |
ประเภทโทเค็น | ERC-20 |
ซื้อขั้นต่ำ | ไม่มี |
ซื้อด้วย | USDT, ETH, บัตรเครดิต/เดบิต |
6. Mega Dice Token — เหรียญ Gamefi มาแรงบนเครือข่าย Solana
เหรียญ Mega Dice Token ($DICE) เป็นเหรียญที่พัฒนาและก่อตั้งโดย Mega Dice คาสิโนออนไลน์ที่ถูกกฎหมายจากประเทศคูราเซาและถือใบอนุญาตของ eCOGRA
เหรียญ Mega Dice Token เปิดตัวขึ้นในปี 2024 ด้วยจุดประสงค์ในการเป็น Gamefi คือการมอบรางวัลให้แก่ผู้เล่นบนคาสิโนออนไลน์ ซึ่งวิธีการรับเหรียญคือการทำกิจกรรมบนเว็บไซต์ เช่น การฝากเงิน การเล่นเกม และการเข้าร่วมเกม
ทั้งนี้ บริษัท MIBS N.V. เจ้าของโครงการมีแผนที่จะนำ Mega Dice Token ลิสต์บนกระดานเทรด DEX และ CEX หลายกระดาน และได้เปิดการระดมทุนผ่านหน้าเว็บไซต์ ซึ่งดูเหมือนว่าเหรียญจะประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะเหรียญสามารถระดมทุนไปได้มากกว่า 700K ดอลลาร์สหรัฐฯ ในรอบพรีเซล
นักลงทุนที่สนใจสามารถเข้าร่วม Mega Dice Token บน X และช่อง Mega Dice Token Telegram เพื่อรับข่าวสารล่าสุดที่นี่
7. BNB – เหรียญคริปโตสัญญาอัจฉริยะที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
BNB ของ Binance เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในตลาด ซึ่งมีชื่อเสียงในปี 2021 ในฐานะเหรียญ Proof of Stake Blockchain ที่มีค่าธรรมเนียมไม่แพงซึ่งออกแบบโดย dApps บน Web 3.0
ตอนแรก เหรียญถูกสร้างขึ้นเพื่อเสริมระบบนิเวศของ Binance และให้รางวัลแก่ผู้สนับสนุนด้วยค่าธรรมเนียมการเทรดที่ต่ำและเป็นโอกาสการลงทุนที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้ หลังจากนั้น BNB ได้แยกไปสู่ตลาดสัญญาอัจฉริยะ โดยการเปลี่ยนจาก Binance Chain เป็น Binance Smart Chain (BSC) ตอนนี้สามารถสร้างโปรเจกต์โดยใช้ BEP ซึ่งคล้ายคลึงกับมาตรฐาน ERC ของ Ethereum นั่นเอง
เพื่อตรวจสอบการทำธุรกรรม BNB (และทุกโครงการที่ใช้ BEP) จะเป็นการใช้กลไก Proof of Staked Authority (PoSA) ซึ่งจะเป็นการให้ผู้ตรวจสอบการล็อคเหรียญต้อง Stake BNB จำนวนหนึ่งเพื่อยืนยันบล็อก โดยรับค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมบนบล็อกดังกล่าว
ด้วย Binance Smart Chain ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและกลายเป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ของ Blockchain ที่ใหญ่ที่สุดในตลาด จึงน่าจะเป็นหนึ่งในเหรียญ Proof of Stake ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน จากที่กล่าวมา อะไรก็เกิดขึ้นได้ในตลาดคริปโต ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบและศึกษาให้ละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน
8. Tezos – Blockchain ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
Tezos (XTZ) เป็นเหรียญ Proof of Stake ที่มีสัญญาอัจฉริยะเช่นเดียวกับ Ethereum อย่างไรก็ตาม Tezos มีข้อได้เปรียบที่ไม่เหมือนใครเพราะอัพเกรดได้ง่าย ซึ่งหมายความว่าการพัฒนาใหม่ๆ สามารถทำได้โดยไม่ต้องแยกเครือข่ายออกจากกัน แม้ว่าสิ่งนี้อาจฟังดูไม่สำคัญ แต่ก็ช่วยให้เครือข่ายอยู่ในระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วที่สุดในโลก
Proof of Work และ Proof of Stake Blockchain ที่เก่ากว่าจำนวนมากนั้นไม่สามารถอัพเกรดได้ง่ายๆ เนื่องจากสร้างขึ้นในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีมีขีดจำกัด แม้ว่าสิ่งนี้จะได้รับการแก้ไขบางส่วนด้วยการอัพเกรด Forks และ Merge แต่กระบวนการนี้ยังคงยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม Tezos ได้เปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นด้วยการสร้างเครือข่ายที่ขยายได้ง่าย ซึ่งสามารถอัพเกรดได้ตลอดเวลา และเป็นการอัพเดตที่คล่องตัวอย่างมาก
ด้วยการที่ Tezos สามารถพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทคโนโลยีใหม่ได้รับการพัฒนา จึงสมควรได้รับตำแหน่งเหรียญ Proof of Stake ที่น่าลงทุนมากที่สุดและยังเป็นเหรียญคริปโตมาแรงอีกด้วย
9. Polkadot – เหรียญ proof of stake ที่เน้นการทำงานร่วมกัน
Polkadot (DOT) เป็นเหรียญ proof of stake ที่เข้ามาแก้ปัญหาการทำงานร่วมกันข้ามเครือข่ายผ่านการใช้ Parachains ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ให้ทำธุรกรรมคู่ขนานกันได้
นับตั้งแต่มีการสร้างเหรียญคริปโต โปรเจกต์ที่สร้างขึ้นบนเครือข่ายที่แตกต่างกันจะทำงานร่วมกันได้ยาก สิ่งนี้นำไปสู่มาตรฐานของ Blockchain โดยเริ่มจาก ERC ของ Ethereum อย่างไรก็ตาม เพื่อแก้ปัญหาการทำงานร่วมกันได้อย่างแท้จริง สิ่งนี้จะต้องใช้สกุลเหรียญคริปโตใหม่ทุกสกุลเพื่อใช้มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งไม่น่ามีจะมีความเป็นไปได้แต่อย่างใด
Polkadot มุ่งเน้นไปที่การสร้าง Proof of Stake Blockchain ที่สามารถอำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนข้อมูลข้ามเชนแทน เพื่อจัดการกับปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น Polkadot ยังได้ใช้ระบบที่ให้ทำธุรกรรมพร้อมกันแบบขนานกัน (Parachains) ฟีเจอร์ทั้งสองนี้ทำให้การทำงานร่วมกันสะดวกขึ้นอย่างมากและทำให้ Polkadot เป็นที่นิยม
Polkadot ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้รับความนิยมอย่างมากจากทั้งนักลงทุนและนักพัฒนา แม้กระทั่งทุกวันนี้ หลังจากที่ตลาดคริปโตตกต่ำ Polkadot ก็ยังคงเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ใหญ่ที่สุดและเป็นหนึ่งในเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดอยู่นั่นเอง
10. Solana – เครือข่ายสัญญาอัจฉริยะความเร็วสูง
Solana (SOL) เป็นเหรียญ proof of stake Blockchain แบบ Layer 1 ที่ได้รับความนิยมและมีราคาพุ่งแรงในปี 2021 เนื่องจากความแออัดของเครือข่ายที่รุนแรงทำให้นักพัฒนาและผู้ใช้มองหาทางเลือกที่เร็วกว่า ถูกกว่า และประหยัดพลังงานมากกว่าเครือข่าย Ethereum
ตอนที่ Ethereum ดิ้นรนเพื่อจัดการกับปริมาณการทำธุรกรรมในช่วงตลาดขาขึ้นเมื่อปี 2021 โปรเจกต์นี้ก็ได้ออกสู่ตลาดในเวลาที่เหมาะสม โดย SOL มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเพียงไม่กี่ดอลลาร์เป็นมากกว่า $250 ที่จุดสูงสุด โดยการเติบโตนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก Solana รองรับปริมาณงานมหาศาล เวลาชำระบัญชีที่เกือบจะทันที และประสิทธิภาพพลังงานที่สูงขึ้นมากผ่านการใช้กลไก proof of history ที่ไม่เหมือนใคร
แม้ว่า Solana จะเพิ่งประสบกับความผิดพลาดเล็กน้อยเกี่ยวกับการรวมศูนย์และปัญหาด้านความปลอดภัย แต่ก็ยังเป็นโปรเจกต์ที่ยังอยู่ในช่วงต้นๆ ซึ่งแม้จะเปิดตัวมาไม่นาน แต่ระบบนิเวศของ Solana ก็เป็นหนึ่งในระบบนิเวศที่ใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ NFT เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ จึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า Solana จะเป็นหนึ่งในเหรียญ Proof of Stake ที่ดีที่สุดในปัจจุบันสำหรับนักลงทุน
11. Avalanche – เหรียญทางเลือกจาก Ethereum ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ
มาต่อกันที่เหรียญคริปโตที่พยายามจะเข้ามาแทนที่ Ethereum ซึ่งคือ Avalanche ซึ่งเป็นเครือข่าย Layer 1 ที่ออกแบบมาสำหรับ Blockchain ราคาถูกและรองรับปริมาณงานสูงเพื่อใช้สร้าง dApps
สิ่งที่ทำให้ Avalanche แตกต่างจากเหรียญคริปโตสัญญาอัจฉริยะอื่นๆ คือวิธีที่ใช้ตรวจสอบธุรกรรม แทนที่จะกำหนดให้ทุกโหนดต้องตรวจสอบธุรกรรมทุกรายการ Avalanche ใช้ Blockchain ย่อยสามบล็อก โดยแต่ละบล็อกจะใช้จัดการธุรกรรมประเภทต่างๆ
การส่งและรับเงินโดยตรงบนเครือข่าย Avalanche นั้นได้รับการจัดการโดย Exchange Chain (X-Chain) ธุรกรรมใดๆ ที่สร้างโดยสัญญาอัจฉริยะหรือ dApps จะได้รับการตรวจสอบใน Chain ของสัญญา (C-Chain) และธุรกรรมการ Stake/ตัวตรวจสอบธุรกรรมจะดูแลโดย Platform Chain (P-Chain) เครือข่ายหลักมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของ Blockchain ย่อยเหล่านี้ และกำหนดให้ผู้ Stake ต้องมี AVAX อย่างน้อย 2,000 เหรียญ
Avalanche เป็นอีกโปรเจกต์ที่ค่อนข้างใหม่ซึ่งสร้างความฮือฮาอย่างมากในอุตสาหกรรม ในช่วงตลาดขาขึ้นเมื่อปี 2021 เครือข่าย Avalanche ก็ได้รับความนิยมมากมายจากนักพัฒนาจำนวนมากเข้าร่วม แม้ว่ากระแสจะลดลดลงเล็กน้อย แต่เทคโนโลยียังคงอยู่และ AVAX มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวอีกครั้งเมื่อตลาดฟื้นตัว
12. Algorand – เครือข่ายที่รวดเร็วและยั่งยืน
Algorand (ALGO) เป็นเครือข่ายที่มุ่งเน้นความยั่งยืนและเป็นหนึ่งในเหรียญ Proof of Stake ที่ดีที่สุดในตลาด พร้อมรองรับฟังก์ชันสัญญาอัจฉริยะที่ให้สามารถพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ได้ด้วยสถาปัตยกรรม Algorand
เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมอย่างรวดเร็วและปลอดภัย Algorand ใช้กลไก Proof of stake แบบดัดแปลงที่มีชื่อว่า ‘Pure Proof of Stake (PPoS)’ แม้ว่าจะคล้ายกับกลไก Proof of Stake แบบดั้งเดิม แต่เวอร์ชันของ Algorand จะสุ่มเลือกว่าใครได้เป็นผู้ตรวจสอบธุรกรรมจากผู้ Stake ทุกคน สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและทำให้ระบบถูกเจาะได้ยากยิ่งขึ้น
ด้วยกลไกฉัน PPoS ทำให้ Algorand เป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ประหยัดพลังงานที่สุดในตลาดอยู่ ด้วยเหรียญคริปโต (โดยเฉพาะกับโปรเจกต์ proof of work) ที่หลายคนไม่ชอบในเรื่องการใช้พลังงานที่มากเกินไป ทำให้ Algorand กลายเป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักลงทุนและอาจเป็นเหรียญคริปโตที่น่าสนใจ
13. Cardano – Blockchain Layer 1 ที่มีความปลอดภัยสูง
Cardano (ADA) อยู่ภายใต้การดูแลของ Charles Hoskinson และถือเป็นเหรียญ Proof of Stake ที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดและยังเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตราคาไม่ถึงบาท ที่ดีที่สุดอีกด้วย
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2017 โปรเจกต์ Cardano ก็ได้กลายเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่ยั่งยืนที่สุดและเป็นที่รู้จักกันดีในตลาด ด้วยการเปิดตัว Alonzo Hard Fork ล่าสุด (เมื่อกันยายน 2021) ทำให้ Cardano กลายเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับ NFT และ dApps ทั้งยังเป็นในโปรเจกต์ที่ใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปี และด้วยการอัพเดตเพิ่มเติมที่วางแผนเอาไว้ ก็สามารถคงความนิยมของโปรเจกต์ไว้ได้ต่อไป
ในขณะที่โปรเจกต์คริปโตจำนวนมากถูกพัฒนาอย่างไม่ดีหรือเร่งรีบเกินไป Cardano ได้ตามกระบวนการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อให้ไม่มีข้อบกพร่องด้านความปลอดภัยหรือการใช้ประโยชน์จากโค้ด ด้วยจำนวนการแฮ็คเหรียญคริปโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงดูเหมือนว่า Cardano จะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม
Cardano ยังคงเป็นโปรเจกต์คริปโตที่ใหญ่ที่สุดและด้วยเหตุผลสนับสนุนที่ดี เพราะมีความปลอดภัยสูง มีทีมที่ยอดเยี่ยม และมีการเพิ่มฟีเจอร์อย่างต่อเนื่อง โดยรวมแล้ว ADA เป็นหนึ่งในเหรียญ Proof of Stake ดีที่สุดในตลาดและควรค่าแก่การพิจารณา
เหรียญ proof of stake คืออะไร ?
แม้ว่าการทำความเข้าใจการรับและส่งข้อมูลบนบล็อคเชนอาจเป็นเรื่องยาก แต่การอ่านคู่มือที่จะเราจะอธิบายกลไกของ proof of stake จะทำให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้น
เพื่อการทำธุรกรรมบนบล็อคเชนอย่างปลอดภัย แต่ละธุรกรรมต้องได้รับการตรวจสอบโดยโหนด มิฉะนั้น อาจจะมีบางคนที่ใส่ข้อมูลธุรกรรมที่เป็นเท็จลงในบัญชีแยกประเภท ซึ่งจะทำให้ความถูกต้องของเครือข่ายทั้งหมดผิดพลาด
เพื่อให้แน่ใจว่าการทำธุรกรรมถูกต้องตามกฎหมาย คริปโตเคอเรนซี่จะต้องมีระบบฉันทามติต่าง ๆ Proof of stake เป็นหนึ่งในตัวอย่างของระบบเหล่านี้ ที่ให้ผู้ที่มีคริปโตเคอเรนซี่จำนวนหนึ่ง สามารถตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมได้ เพียงแค่ทำการ staking และใช้เป็นหลักประกันเพื่อให้ได้โอกาสในการได้รับรางวัลจากการ Staking
เนื่องจากรางวัลที่ผู้ตรวจสอบจะได้รับ เป็นไปตามสัดส่วนของจำนวนโทเค็นที่มีการ stake กลไกนี้จึงไม่จูงใจผู้ไม่หวังดี เพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก นอกจากนี้ การ Stake ไม่ต้องใช้พลังงานในการประมวลผลมากเท่ากับเหรียญ proof of work เช่น Bitcoin เหรียญ proof of stake จึงถูกมองว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า
แม้ว่าจะมีรูปแบบของเหรียญ pos ที่หลากหลาย (เช่น proof of staked authority, pure proof of stake ฯลฯ) แต่ทั้งหมดล้วนคล้ายคลึงกัน เพราะกำหนดให้นักลงทุนต้อง stake โทเค็นจำนวนหนึ่ง จึงจะสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้
Proof of Work vs Proof of Stake คือ
ระบบฉันทามติที่เป็นที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลายมีอยู่ 2 แบบ ได้แก่ Proof of Work และ Proof of Stake แม้ว่าทั้งสองจะคล้ายกัน แต่มีข้อแตกต่างที่สำคัญบางประการ Proof of work ใช้พลังงานในการคำนวณเพื่อตรวจสอบธุรกรรม โดยนักขุดจะต้องตั้งค่าคอมพิวเตอร์และแก้ปริศนาคริปโตกราฟฟิค เพื่อยืนยันความถูกต้องของธุรกรรม โดยทั่วไป จะต้องใช้พลังงาน GPU จำนวนมาก ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่ใช้อาจจะเสื่อมเร็ว และต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก ทำให้ค่อนข้างไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ในทางกลับกัน เหรียญ proof of stake จะใช้สำหรับการตรวจสอบความถูกต้อง โดยการใช้โทเค็นเป็นหลักประกัน ส่งผลให้ระบบสามารถตรวจสอบธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้พลังงานลงอย่างมาก และทำให้เป็นเหรียญคริปโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
นอกเหนือจากการปรับปรุงความปลอดภัยและลดการใช้พลังงานแล้ว proof of stake ยังช่วยป้องกันการ centralization ในเครือข่ายของ proof of stake เนื่องจากมีผู้ให้บริการขุดเหมืองค่อนข้างน้อย แม้ว่าสิ่งนี้จะฟังดูดี แต่สิ่งสำคัญที่ต้องสังเกตคือ เนื่องจากต้นทุนเริ่มต้นที่สูงขึ้นจากการทำ proof of stake บล็อคเชน ทำให้เครือข่ายนี้มักจะตกเป็นของผู้ที่มีเงินทุนสำรองจำนวนมาก
โดยรวมแล้ว แม้ว่าระบบฉันทามติทั้งสองจะมีเป้าหมายเดียวกัน แต่วิธีทำแตกต่าง เนื่องจากปริมาณคริปโตเคอเรนซี่ที่เพิ่มขึ้น และระบบการตรวจสอบการใช้พลังงานที่ละเอียดมากขึ้น จึงดูเหมือนว่า ในอนาคตจะต้องพึ่งพาระบบ proof of stake มากกว่า
เหรียญ proof of stake เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่ ?
เนื่องจากมีเหรียญ proof of stake ที่แตกต่างกันมากมายในตลาด และบางเหรียญก็เป็นการลงทุนที่ดีกว่าแบบอื่น อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยสำคัญบางประการที่เหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดต้องมี
ความยั่งยืน
สื่อมักตอกย้ำว่าคริปโตเคอเรนซี่เป็นสินทรัพย์ที่ได้มาจากการใช้พลังงานสูง ทำให้เหรียญ proof of stake ดูน่าสนใจมากกว่า เหรียญ proof of work ในขณะที่บล็อคเชน pow ต้องใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีโอกาสเสื่อมลงอย่างรวดเร็วและไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนระบบ pos ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นสูง แต่เมื่อลงทุนเสร็จสรรพแล้วก็สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดที่พัฒนาอย่างรวดเร็วอย่างตลาดคริปโต เรื่องนี้จึงถือเป็นเรื่องใหญ่มาก
เทคโนโลยีที่เหนือกว่า
ระบบ proof of work อย่าง Bitcoin ได้รับความนิยมมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่า Bitcoin จะเปิดตัวในปี 2011 และไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม Proof of Stake เป็นแนวคิดที่ใหม่กว่ามาก ซึ่งหมายความว่าสามารถได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงคริปโตกราฟฟิค และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ได้ ทั้งนี้ proof of stake ก็ยังเป็นการลงทุนระยะยาวที่ยอดเยี่ยม
มุ่งสู่อนาคต
จากข้อมูลก่อนหน้านี้ คริปโตเคอเรนซี่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว สำหรับโครงการที่ใหญ่ที่สุดหลายแห่งในตลาด proof of stake ถือเป็นอนาคตของการตรวจสอบความถูกต้องทางธุรกรรม Ethereum ถือเป็นเหรียญคริปโตที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ซึ่งในไม่ช้าจะย้ายไปเป็นระบบ proof of stake รวมถึงทุกโปรเจกต์คริปโต ERC ด้วย
ด้วยเหตุนี้ จึงมีแนวโน้มว่าเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของเหรียญ pos มากขึ้นในอนาคตอันใกล้ ดูคำแนะนำของเราเกี่ยวกับเหรียญคริปโตในอนาคต
บทสรุป
ในบทความนี้ เราได้พิจารณาบรรดาเหรียญ proof of stake ที่ดีที่สุดที่มีในปัจจุบัน และอธิบายว่าเหรียญ pos แตกต่างจากเหรียญอื่น ๆ อย่างไร โดยการอธิบายกลไกการทำงานอย่างละเอียด
ระหว่างการศึกษาของเรา เราพบว่ามีหนึ่งเหรียญที่โดดเด่นในด้านของโอกาสการเติบโตสูง โดยเหรียญ Proof of Stake อันดับที่หนึ่งคือ Pepe Unchained ($PEPU) ที่เป็นเหรียญคริปโตพุ่งแรงบน Solana Blockchain และเพิ่งเปิดตัวบนเครือข่าย Ethereum ไปได้ไม่นาน ชูความโดดเด่นด้วยแผนการพัฒนาที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ระบบคะแนน SOL Airdrop อันเป็นเอกลักษณ์ และกลไก Proof of Stake ที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม
Pepe Unchained
- เชื่อมต่อระหว่าง ETH และ Pepe Chain ได้ทันที
- ค่าธรรมเนียมธุรกรรมถูก
- ความจุปริมาณมากขึ้น - เร็วกว่า ETH 100 เท่า
- เครื่องมือสำรวจบล็อกอย่างละเอียด