รายงานล่าสุดโดย McKinsey & Company ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทด้านการปรึกษาการจัดการชั้นนำของโลกระบุว่าตลาด metaverse จะมีมูลค่าสูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 การเติบโตของตลาดส่วนใหญ่อาจได้รับแรงหนุนจากแพลตฟอร์ม metaverse ใหม่ที่จะมาในอีกไม่กี่ปี โดยมีหลายแพลตฟอร์มที่ได้สร้างชื่อบนตลาดนี้เรียบร้อย
บทความนี้จะกล่าวถึง 8 แพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุด เราจะพาไปดูฟีเจอร์ต่างๆที่สร้างชื่อเสียงให้กับแพลตฟอร์ม ก่อนที่จะเจาะลึกถึงประโยชน์ของการลงทุนในโปรเจกต์ metaverse ต่างๆ
8 แพลตฟอร์ม Metaverse ที่ดีที่สุดแห่งปี 2024
ด้านล่างนี้คือ 8 แพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุดแห่งปี 2024 ที่ได้มาจากการรวบรวมข้อมูลและทดสอบเชิงลึก เราจะพูดถึงแต่ละแพลตฟอร์มในส่วนถัดไป โดยจะครอบคลุมทั้งฟีเจอร์ต่างๆ แผนการพัฒนา และศักยภาพด้านมูลค่า
- RobotEra – แพลตฟอร์ม Metaverseโดยรวมดีที่สุดแห่งปี 2024
- Tamadoge – แพลตฟอร์ม Metaverse P2E น่าลงทุนในปี 2024
- Battle Infinity – อีกหนึ่งแพลตฟอร์ม Metaverse ชั้นนำและระบบนิเวศแบบเกมมิ่ง
- Decentraland – แพลตฟอร์ม Metaverse สุดยิ่งใหญ่แห่งโลก Virtual Land
- The Sandbox – แพลตฟอร์ม Metaverse ที่ดีที่สุดแห่งการปรับแต่งตามใจชอบ
- Axie Infinity – เกมแนวแบทเทิลมอนสเตอร์ยอดฮิต ด้วยระบบการเล่น P2E
- Illuvium – เกมบล็อกเชนดาวรุ่ง ที่มอบโอกาสการรับรางวัล
- Bloktopia – ตึกระฟ้าโลกเสมือน 21 ชั้น
มาเจาะลึกกับแพลตฟอร์ม Metaverse ที่ดีที่สุด
ผู้ที่สงสัยว่าจะลงทุนใน metaverse อย่างไรอาจต้องพิจารณาถึงโปรเจกต์ต่างๆในลิสแพลตฟอร์ม Metaverse ด้านบน แต่ละโปรเจกต์เหล่านี้ได้สร้างกระแสฮือฮาอย่างมากบนโลกโซเชียลและสื่อหลักต่างๆ ทำให้แต่ละแพลตฟอร์มมีการเติบโตที่เยี่ยมยอด
เราจึงจะมาเจาะลึกและให้คุณเข้าถึงแพลตฟอร์ม metaverse ใหม่ๆเหล่านี้แบบละเอียดยิ่งขึ้น:
1. RobotEra – แพลตฟอร์ม Metaverseโดยรวมดีที่สุดแห่งปี 2024
RobotEra ตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเราสำหรับแพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุดที่จะลงทุนในปี 2024 คือ RobotEra – ระบบนิเวศเสมือนแบบ Sandbx ที่ผสานรวมโปรโตคอล NFT เพื่อเสนอโอกาสในการสร้างรายได้ในเกม
RobotEra ควบคุมระบบเศรษฐกิจในเกมด้วย TARO ซึ่งเป็นโปรโตคอล ERC-20 และสกุลเงินดิจิทัลหลักของโครงการ ซึ่งขณะนี้อยู่ในรอบแรกของการขายพรีเซลซึ่งเปิดตัวในกลางเดือนพฤศจิกายน 2022
RobotEra ดูเหมือนจะเป็นแอป metaverse ที่ดีที่สุดที่น่าลงทุน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้เข้าร่วมสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่เรียกว่า ‘Taro Planet’
ใน metaverse ผู้เล่นมีส่วนร่วมในฐานะหุ่นยนต์ ซึ่งเป็น NFT ที่สร้างขึ้นเป็นโปรโตคอลสัญญาอัจฉริยะ ERC-721
ผู้เล่นสามารถใช้ประโยชน์จากหุ่นยนต์เพื่อสำรวจ 7 ทวีปบน Taro Planet สร้างอะไรก็ได้ตั้งแต่โรงงานไปจนถึงวิลล่า และแข่งขันกันในชุมชนและทำภารกิจเพื่อรับรางวัล
ทวีปทั้ง 7 นำเสนอแปลงที่ดินแบบ metaverse หลายส่วน – ซึ่งแสดงเป็น NFT ด้วย ผู้เล่นสามารถซื้อที่ดินเพื่อสร้างสิ่งก่อสร้าง ขุดหาทรัพยากรต่างๆ และสร้าง NFT ใหม่ๆได้
แผน metaverse สามารถสร้างรายได้โดยการเรียกเก็บเงินค่าเข้าชมงานหรือโดยการขายพื้นที่ป้ายโฆษณาให้กับผู้ลงโฆษณา
ในความเป็นจริง ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ด RobotEra คาดว่าโปรแกรมอรรถประโยชน์ใหม่จะปรากฏขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากผู้เล่นดำเนินการโดยมีข้อจำกัดเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาสามารถสร้างได้ ในขณะที่โครงการกำลังพัฒนาความสามารถเสมือนจริงและความเป็นจริงเสริมในช่วงครึ่งแรกของปี 2023
โทเค็นแบบใช้งานได้หลากหลาย TARO สามารถใช้ stake บนแพลตฟอร์มเพื่อรับรายได้แบบพาสซีฟและเข้าถึงองค์กรปกครองตนเองแบบกระจายอำนาจ (DAO) ของ RobotEra ซึ่งให้สิทธิ์การลงคะแนนหนึ่งครั้งเพื่อควบคุมแพลตฟอร์ม
หากต้องการเข้าถึงกรณีการใช้งานเหล่านี้ทั้งหมด คุณสามารถซื้อ TARO ในช่วงพรีเซลล์ได้แล้วตอนนี้
RobotEra เป็นโปรเจ็กต์ของ LBank Labs และได้รับการพัฒนาโดยทีมงานที่ได้รับการตรวจสอบโดย doxxed และ KYC ในขณะที่สัญญาอัจฉริยะโทเค็น TARO ก็ได้รับการตรวจสอบอย่างสมบูรณ์เช่นกัน
ผู้อ่านที่สนใจสามารถอ่านเอกสารข้อมูลของ RobotEra และเข้าร่วม Telegram Channel เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม
2. Tamadoge – แพลตฟอร์ม Metaverse P2E น่าลงทุนในปี 2024
โปรเจกต์ใหม่อย่าง Tamadoge เป็นตัวแรกที่เราเลือกมาในฐานะแพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุดในแห่งปี 2024 ที่ได้สร้างกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม
ภายนอกอาจดูเหมือนเหรียญมีมทั่วไป แต่อาจให้ผลตอบแทนแบบ Dogecoin และ Shiba Inu ก็เป็นได้ แต่โปรเจกต์นี้ทำอะไรหลายอย่างมากกว่าภายในแพลตฟอร์ม metaverse ที่ให้คุณเป็นเจ้าของ NFT จากการเล่นแบบ play-to-earn เรียกว่า Tamaverse
ต่างจากเหรียญ DOGE กับ SHIB เพราะ Tamadoge ต้องการเป็นเหรียญมีมที่มีประโยชน์ใช้จริงและมีคุณค่าในระยะยาว ในขณะที่ DOGE มี supply ไม่จำกัดซึ่งตอนนี้มี 130,000,000,000 เหรียญที่หมุนเวียนในระบบ TAMA จะถูกจำกัดไว้ที่ 2 พันล้านโทเค็น โดยมีกลไกอัตราการเผาเหรียญทิ้ง 5% ในแต่ละธุรกรรมเพื่อทำให้อุปทานลดลงเมื่อเวลาผ่านไป
ผู้ถือโทเค็น TAMA จะสามารถสร้างสัตว์เลี้ยง NFT ได้ในช่วงปลายปี เหมือนเกม Tamagotchi ยอดฮิตยุค 90 คุณสามารถให้อาหาร ดูแล และดูพวกมันเติบโต เมื่อพวกมันโตเต็มที่ ผู้เล่นสามารถใช้สัตว์เลี้ยงต่อสู้กับสัตว์เลี้ยงของผู้เล่นคนอื่นเพื่อรับรางวัล ในภายหลังของแผนพัฒนา สัตว์เลี้ยงจะเปลี่ยนจาก 3 มิติ ไปเป็น Augmented Reality (AR) ทำให้เจ้าของสามารถนำพวกมันไปในโลกจริงและตามล่าโทเค็นได้
เราเรียก Tamadoge ว่าเป็นเหรียญคริปโต Pre-Sale ที่ดีที่สุดแห่งปี 2024 นักลงทุนช่วงแรกได้แห่กันซื้อเหรียญไปแล้ว มีการระดมทุนไปกว่า 19 ล้านดอลลาร์ เหรียญมากกว่า 50% ของการพรีเซลล์ก็หมดแล้ว และขายหมดเกลี้ยงแล้วช่วงกลางเดือนกันยายน 2022
นักลงทุนที่มองเห็นถึงศักยภาพควรเข้ากลุ่มที่มีสมาชิกเกือบ 30,000 ใน Telegram ของ Tamadoge เพื่อให้ทันข่าวสารโปรเจกต์ (แอดมินจะไม่ส่งข้อความถึงคุณก่อน ไม่ส่งลิงก์ให้กดหรือขอ seed phrase ของคุณ โปรดระวังผู้แอบอ้าง)
3. Battle Infinity – อีกหนึ่งแพลต์ฟอร์ม Metaverse และระบบนิเวศแบบเกมมิ่ง
Battle Infinity อีกแพลตฟอร์ม metaverse ที่น่าสนใจด้วยระบบนิเวศที่ตอนนี้กำลังเป็นที่พูดถึงและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
Battle Infinity เป็นแพลตฟอร์มเกมกีฬาแฟนตาซีแบบ ‘play-to-earn’ (P2E) พร้อมกับการผสาน NFT อย่างเต็มรูปแบบ โดยโฮสต์บน Binance Smart Chain ระบบนิเวศของ Battle Infinity เชื่อมโยงทุกอย่างไปที่ metaverse ผ่าน ‘Battle Arena’ ซึ่งเป็นโลก 3 มิติที่ให้ผู้เล่นสามารถสร้างอวาตาร์และโต้ตอบกับผู้เล่นคนอื่นๆได้
เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ metaverse NFT ที่ดีที่สุดที่จะเปิดตัวในปีนี้ Battle Infinity มีฟีเจอร์ที่น่าตื่นเต้นมากมายดังนี้
- IBAT Premier League – ลีกกีฬาแฟนตาซีที่ผู้เล่นทุกคนคือ NFT โดยจะนับคะแนนจากการเล่นบนโลกจริงของผู้เล่น และจะมอบรางวัลให้กับผู้เล่นทีมีศักยภาพสูง
- Battle Store – ระบบนี้ประกอบด้วยเกม play-to-earn ที่ดีที่สุด ซึ่งจะเพิ่มช่องทางให้ผู้ใช้ได้รับรางวัลมากยิ่งขึ้น
- Battle Market – นี่คือตลาด NFT ของ Battle Infinity ที่ผู้ใช้สามารถสร้างงานศิลปะดิจิทัล อัพเกรดอวาตาร์ของตน และซื้อที่ดินโลกเสมือนได้
- Battle Swap – ระบบนี้ทำงานคล้ายกับกระดานแลกเปลี่ยน DeFi ที่ดีที่สุด ที่ให้ผู้ใช้สามารถสลับโทเค็นในแบบ decentralized ได้ทันที
- Battle Stake – นี่คือกลไก stake เหรียญคริปโตของ Battle Infinity ทำได้ทั้งแบบเดี่ยว/คู่ หรือกระทั่งกล่องสุ่ม
ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ Battle Infinity อยู่ในอันดับต้นๆ ของการจัดอันดับแพลตฟอร์ม metaverse ของเรา แพลตฟอร์มนี้ใช้เหรียญ IBAT ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ Battle Infinity เหรียญ metaverse IBAT สามารถใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงการแจกรางวัลและการเก็งกำไร
ด้านความปลอดภัย Battle Infinity ได้รับการยืนยันและตรวจสอบ KYC โดย CoinSniper และ SolidProof.io ทำให้ผู้ที่กลัวว่าจะมีถูกต้มตุ๋นสบายใจขึ้นมาก ในอนาคต Battle Infinity ยังมีแผนการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นมากมาย รวมถึงการลิสบนกระดานเทรดและการขายที่ดิน NFT อีกด้วย
พรีเซลล์ Battle Infinity ขายหมดเกลี้ยงในเวลาเพียง 24 วัน ระดมเงินได้ประมาณ 5 ล้านดอลลาร์ ตั้งแต่นั้น Battle Infinity ก็ถูกลิสในกระดานเทรดแบบ decentralizaed บน PancakeSwap ซึ่งนักลงทุนช่วงแรกมองเห็นผลตอบแทนสูงสุดถึง 700% ด้วยมูลค่าตลาด 60 ล้านดอลลาร์
จุดหมายถัดไปของ Battle Infinity คือการถูกลิสในกระดานเทรดแบบ centralized ของ LBank โดยนักวิเคราะห์คาดว่าราคาจะพุ่งขึ้นอีกรอบ ในขณะที่มีข่าวลือว่าจะถูกลิสลงในกระดานเทรดเจ้าใหญ่ อย่าง Gate.io และ Coinbase
ใครที่สนใจติดตามการพัฒนาของ Battle Infinity ก็สามารถเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ของแพลตฟอร์มได้ อ่านบทความเพิ่มเติมของเราเกี่ยวกับการคาดการณ์ราคา Battle Infinity ปี 2022 ถึง 2025
4. Decentraland – แพลตฟอร์ม Metaverse สุดยิ่งใหญ่แห่งโลก Virtual Land
อีกหนึ่งชื่อยอดนิยมในลิสแพลตฟอร์ม metaverse ของเราคือ Decentraland โลกเสมือนจริง 3 มิติที่ขับเคลื่อนบนบล็อกเชน Ethereum ให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับผู้เล่นอื่นและสร้างรายได้จากคอนเทนต์ของตนเอง นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถซื้อที่ดินเสมือน (เรียกว่า LAND) โดยใช้โทเค็น MANA ซึ่งเป็นเหรียญหลักของ Decentraland
การออกแบบมาให้ LAND คือ NFT สิ่งนี้จึงมอบอิสระให้ผู้ใช้ควบคุมสภาพแวดล้อมของตนเอง ในทางกลับกัน ก็ให้ผู้ใช้สามารถสร้างฉาก 3 มิติ หรือแม้แต่สร้างเกมที่ให้ผู้อื่นเข้ามาเล่นได้ภายในนั้นอีกด้วย
Decentraland เป็นองค์กรอัตโนมัติแบบ decentralized (DAO) หมายความว่าผู้ใช้แพลตฟอร์ม ‘คือเจ้าของ’ ทำให้สามารถโหวตการกำกับดูแลในการจัดการดูแลต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลง UI หรือการแบ่งรางวัล แม้ความนิยมของ Decentraland จะลดลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่มันก็ยังเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม metaverse ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง
5. The Sandbox – แพลตฟอร์ม Metaverse ที่ดีที่สุดแห่งการปรับแต่ง
The Sandbox เป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์อสังหาริมทรัพย์ metaverse ที่ดีที่สุดแห่งปี 2024 เช่นเดียวกับ Decentraland เกม The Sandbox เป็นแนว 3 มิติที่โฮสต์บนบล็อกเชนของ Ethereum ผู้เล่นสามารถโต้ตอบกับผู้เล่นอื่น สร้างสถาปัตยกรรมในเกม และสร้างรายได้จากความคิดสร้างสรรค์ของตน ในฐานะหนึ่งในแพลตฟอร์ม metaverse ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ตอนนี้ The Sandbox มีผู้ใช้ที่ลงทะเบียนแล้วกว่าสองล้านคน
ระบบที่น่าสนใจที่สุดของ The Sandbox คือ ‘VoxEdit’ ซึ่งเป็นฟรีโปรแกรมสร้างแบบจำลอง 3 มิติแบบ voxel ที่จะเปิดให้ใช้งานบนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ โปรแกรมนี้มอบอิสระให้ผู้ใช้สร้างอะไรก็ได้ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้าง สัตว์ อาวุธ ฯลฯ และที่น่าสนใจก็คือ สิ่งที่สร้างขึ้นมาเหล่านี้จะจัดเป็น NFT และสามารถนำมาขายบนตลาด The Sandbox
ผู้ใช้คนอื่นสามารถซื้อสินทรัพย์เหล่านี้โดยใช้เหรียญ SAND ซึ่งเป็นหนึ่งในเหรียญ Metaverse ที่ดีที่สุดในช่วงปีที่ผ่านมา ผู้ใช้ยังสามารถสร้างเกม 3 มิติ โดยการใช้ The Sandbox Game Maker โดยไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการเขียนโค้ดมาก่อน ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้ The Sandbox เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุดในลิสของเรา
สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง
6. Axie Infinity – เกมแนวแบทเทิลมอนสเตอร์ยอดฮิต ด้วยระบบการเล่น P2E
ผู้ที่สนใจในแพลตฟอร์ม metaverse ที่แตกต่างจากที่กล่าวไว้ข้างต้นอาจต้องหันมามอง Axie Infinity โดยในปี 2021 นักลงทุนต่างพากันซื้อ Axie Infinity เมื่อความนิยมของโปรเจกต์พุ่งสูง ทำให้ราคาเหรียญ AXS พุ่งขึ้นกว่า 7,300% ในเวลาไม่กี่เดือน แม้กระแสจะลดลงเล็กน้อยแต่ Axie Infinity ยังคงเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม metaverse ชั้นนำของตลาด
พูดง่ายๆ ก็คือ Axie Infinity เป็นเกมบล็อกเชนที่ผู้ใช้สามารถซื้อมอนสเตอร์สุดน่ารัก (เรียกว่า Axies) และใช้มันต่อสู้กับผู้เล่นอื่น Axies เหล่านี้เป็น NFT หมายความว่าสามารถซื้อขายได้ในตลาดของเกมโดยใช้เหรียญ AXS ผู้ใช้ยังสามารถผสมพันธุ์ Axies ของตนเพื่อโอกาสในการได้มอนสเตอร์เพิ่ม และยังเป็นการสร้างรายได้เพิ่มเติมอีกด้วย
เกม P2E นี้ให้รางวัลผู้เล่นผ่านการเล่นที่ต้องใช้ทักษะ ซึ่งรวมถึงการต่อสู้กับผู้เล่นอื่นหรือกับ Axies ที่ถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ ในอนาคตทางทีมงานได้วางแผนที่จะพัฒนาเป็น DAO ซึ่งผู้ใช้จะสามารถควบคุมการกำกับดูแลของแพลตฟอร์มได้อย่างเต็มที่ เรื่องนี้ทำให้หลายคนตื่นเต้นอย่างมากในภาคตลาด metaverse นั่นหมายความว่าทุกสายตาจะจับจ้องไปที่ Axie Infinity ในช่วงปีถัดๆไป
สินทรัพย์คริปโตเป็นการลงทุนที่ไม่มีการควบคุมและมีความผันผวนสูง
7. Illuvium – เกมบล็อกเชนดาวรุ่ง ที่มอบโอกาสการได้รางวัล
อีกแพลตฟอร์ม metaverse ใหม่ที่น่าดึงดูดใจในตลาดคือ Illuvium ตามที่ Binance Academy ได้นิยาม Illuvium เป็นเกมบล็อกเชน open-world ที่รวมเอาองค์ประกอบ RPG หลายอย่างเอาไว้ ในเกมนี้ ผู้เล่นต้องต่อสู้และจับ ‘Illuvials’ ซึ่งสามารถใช้เพื่อต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่นได้
Illuvials เป็น NFT ที่มีเสน่ห์และคุณลักษณะเฉพาะของตัวเอง นอกจากนี้ยังสามารถรวม Illuvials เพื่อสร้างตัวที่แข็งแกร่งขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้ได้รางวัลที่สูงขึ้นจากการต่อสู้ รางวัลจะแจกจ่ายเป็นเหรียญ ILV ซึ่งเป็นโทเค็น ERC-20 หลักของ Illuvium
เหรียญ ILV สามารถใช้เพื่อซื้อไอเทมในเกมหรือ stake ใน ‘Illuvium Vault’ เหมือนกับแพลตฟอร์ม metaverse อื่นๆ ในลิสของเรา เหรียญ ILV สามารถใช้เพื่อโหวตการกำกับดูแลเนื่องจาก Illuvium มีการควบคุมโดย DAO ตัวเกมเต็มจะเปิดตัวในปี 2022 และ Illuvium อาจกลายเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่สนใจในแนว P2E
8. Bloktopia – ตึกระฟ้าเสมือนจริง 21 ชั้น
Bloktopia เป็นโลก metaverse แบบ 3 มิติที่จะมอบประสบการณ์สุดดื่มด่ำอย่างเต็มอิ่มแก่ผู้ใช้ โดยพื้นฐานแล้ว Bloktopia เป็นตึกระฟ้าเสมือนจริงสูง 21 ชั้น ซึ่งเป็นตัวเลข 21 เหมือนกับ 21 ล้านเหรียญ Bitcoin (BTC) ที่มีอยู่ในตลาด
เช่นเดียวกับแพลตฟอร์ม metaverse อื่นๆ Bloktopia ให้ผู้ใช้ซื้อพื้นที่ภายในตึกเป็น NFT แพลตฟอร์มนี้ขับเคลื่อนโดย Polygon Network และใช้เหรียญ BLOK ในฐานะเหรียญหลักเริ่มของแพลตฟอร์ม ผู้ใช้ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ภายในตึกรสามารถปล่อยเช่าให้กับผู้อื่นและสร้างรายได้เป็นเหรียญ BLOK
Bloktopia ยังกำหนดให้เป็นคริปโตเกมมิ่ง ภายในมีเกมมากมายที่ถูกออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้เล่นทุกวัย นอกจากนี้ยังมีส่วนสำหรับบริษัทต่างๆ ที่ต้องการซื้อพื้นที่โฆษณาเสมือนจริงใน Bloktopia ที่จะนำไปสู่การสร้างรายได้แบบครบวงจรรูปแบบใหม่ สุดท้ายนี้ Bloktopia ยังมีหอประชุมเสมือนจริงที่ผู้ใช้สามารถเข้าร่วม virtual event และรับเหรียญ BLOK เป็นรางวัล
แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริง Metaverse คืออะไร?
แนวคิด ‘metaverse’ มีมานานหลายทศวรรษ โดยเริ่มใช้ครั้งแรกในนวนิยายเรื่อง Snow Crash ของนีล สตีเวนสัน ซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี 1982 ตั้งแต่นั้นมา หลายบริษัทก็ได้ศึกษาในคำที่น่าสนใจคำนี้ การเปิดตัวของ Oculus Rift ในปี 2010 ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญ ตามมาด้วยภาพยนตร์ยอดฮิต Ready Player One ในปี 2018 ทำให้ผู้คนได้เห็นภาพว่า metaverse ในอนาคตที่ ‘แท้จริง’ จะเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม คำจำกัดความของแพลตฟอร์ม metaverse มีการเปลี่ยนแปลงตลอดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันใช้เพื่ออธิบายแพลตฟอร์มเสมือนจริง (มักเป็นแบบ 3 มิติ) ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างประสบการณ์ที่ไม่สามารถทำได้ในโลกแห่งความเป็นจริง เกม metaverse ที่ดีที่สุดหลายเกมใช้ประโยชน์จากโลกเสมือนเพื่อมอบประสบการณ์แบบเต็มอิ่มแก่ผู้ใช้
ทุกวันนี้ การพูดเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม metaverse มักจะอิงถึงแพลตฟอร์มที่โฮสต์บนบล็อกเชน หรือแพลตฟอร์มที่รวมเหรียญคริปโตและ NFT เอาไว้ สิ่งนี้ทำให้ง่ายต่อการสร้างตลาดแบบยั่งยืน ให้ผู้ใช้สามารถสร้างไอเทมในเกม (เป็น NFT) แล้วขายให้กับผู้อื่น
ตามที่พูดถึงในบทนำ รายงานล่าสุดของ McKinsey & Company ระบุว่า metaverse สามารถสร้างมูลค่าสูงถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ซึ่งจะทำให้มันเป็นหนึ่งในสิ่งที่เติบโตเร็วที่สุดบนตลาดบล็อกเชน หมายความว่าเราสามารถรอชมโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ที่จะเปิดตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าได้
แพลตฟอร์ม Metaverse ทำงานอย่างไร?
ตามที่เราบอกไว้ในลิส 7 อันแพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุด หลายโปรเจกต์ต่างมีฟีเจอร์ที่พิเศษกว่าโปรเจกต์อื่นๆ ซึ่งต้องขอบคุณวิธีการทำงานของแพลตฟอร์ม Metaverse
แพลตฟอร์มเหล่านี้ส่วนใหญ่จะทำงานร่วมกันกับเหรียญคริปโตและ NFT ผู้ใช้สามารถซื้อเหรียญคริปโตหลักของแพลตฟอร์ม metaverse (เช่น IBAT ของ Battle Infinity และ MANA ของ Decentraland) และใช้เพื่อซื้อสินค้าภายในเกม โดยส่วนใหญ่ ไอเท็มเหล่านี้เป็น NFT ซึ่งมอบความเป็นเจ้าของอย่าง ‘แท้จริง’ ในโลก metaverse
แพลตฟอร์ม metaverse ให้ผู้เล่นปรับแต่งและสร้างอวาตาร์ของตน ซึ่งจะแทนตัวผู้เล่นในเกม อวาตาร์เหล่านี้สามารถเดินไปรอบๆ โลกเสมือนจริง 3 มิติบนแพลตฟอร์มและสามารถโต้ตอบกับผู้เล่นคนอื่นๆได้ มอบโอกาสในการสร้างมิตรภาพกับคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัน
แพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุดหลายๆแพลตฟอร์ม เช่น Decentraland และ The Sandbox ให้ผู้เล่นสามารถสร้างไอเท็มภายในเกมได้ ระบบนี้มอบโอกาสอันไร้ขีดจำกัดในแง่ของการปรับแต่งและการสร้างรายได้ เนื่องจากการสร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาเหล่านี้จัดเป็น NFT และนำไปขายให้กับผู้เล่นอื่นได้
เนื่องจากโปรเจกต์ส่วนใหญ่ในลิสแพลตฟอร์ม metaverse ของเราสร้างบนบล็อกเชน โปรเจกต์เหล่านี้จะให้ประสบการณ์แบบ decentralized อย่างสมบูรณ์แก่ผู้ใช้ นอกจากนี้ยังหมายความว่าสินทรัพย์ในเกมของผู้ใช้จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และมีการระบุความเป็นเจ้าของไว้อย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น หากมีคนเป็นเจ้าของที่ดินเสมือนจริง ทุกคนในเครือข่ายจะสามารถเห็นได้เพราะข้อมูลดังกล่าวจะเปิดเป็นสาธารณะ
สุดท้ายนี้ หลายบริษัทกำลังหาวิธีรวมอุปกรณ์เสมือนจริง (VR) เข้ากับโลก metaverse เพื่อมอบประสบการณ์แบบเต็มอิ่มแก่ผู้ใช้ นักลงทุนมักซื้อหุ้น metaverse เหล่านี้เพื่อหวังผลตอบแทนจากเทรนด์ดังกล่าว ซึ่งดูเหมือนว่าจะเริ่มมีการเคลื่อนไหวในปีถัดๆ ไป
ประเภทของแพลตฟอร์ม Metaverse
ตอนนี้เราได้พูดถึง metaverse และวิธีการทำงานแล้ว มาดูแพลตฟอร์ม metaverse ต่างๆ ที่มีให้ใช้งานอย่างละเอียดกันดีกว่า โดยแพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นสามประเภทหลักๆ
ประเภทที่ไม่ใช่บล็อกเชน (Centralized)
ประเภทแรกของ metaverse ก็คือแบบที่ ‘ไม่ใช่บล็อกเชน’ หรือ metaverse แบบ centralized ตามที่ชื่อบอก แพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่ได้โฮสต์บนบล็อกเชน แต่ถูกสร้างและดำเนินการโดยบริษัทแบบ centralized ตัวอย่างหลักๆ ของ metaverse ประเภทนี้คือเกมแนว open-world เช่น Grand Theft Auto หรือ The Witcher
เกมบนเบราว์เซอร์ที่ปฏิวัติวงการอย่าง ‘Second Life’ ได้นำแนวคิดนี้มาสู่กระแสหลัก ซึ่งเป็นเกมโลกเสมือนจริง เกมแรกที่ไม่ใช่บล็อกเชน อย่างไรก็ตาม metaverse แบบ centralized เหล่านี้ได้ลดลงไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเพราะความนิยมของแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มากขึ้น
ประเภทบล็อกเชน (Decentralized)
แพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุดส่วนใหญ่ที่กล่าวถึงในบทความนี้โฮสต์บนบล็อกเชน ซึ่งหมายความว่าเป็นแบบ decentralized ทั้งหมด เรื่องนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะมันมอบสิทธิ์ความเป็นเจ้าของสินทรัพย์และการสร้างสรรค์แก่ผู้เล่นอย่างเต็มที่ ตัวอย่างเช่น หากมีคนสร้างไอเทมในโปรเจกต์ NFT ใหม่ๆ ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ไอเทมที่ว่านี้จะไม่สามารถถูกดัดแปลงได้
โปรเจ็กต์แบบ decentralized มอบความเป็นส่วนตัวอย่างมาก ผู้เล่นสามารถคงความเป็นส่วนตัวในขณะที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นอื่นโดยใช้อวาตาร์ สุดท้ายนี้ โปรเจกต์ metaverse จำนวนมากจัดเป็น DAO หมายความว่าผู้ใช้สามารถควบคุมอนาคตของแพลตฟอร์มได้
ประเภทแพลตฟอร์มเสมือนจริง (VR)
เทคโนโลยีโลกเสมือนจริงและ virtual event ได้รับความนิยมมากขึ้นในปีที่ผ่านมา เพราะมันมอบประสบการณ์เสมือนจริงที่แพลตฟอร์มบนเบราว์เซอร์ไม่สามารถเลียนแบบได้ ผู้ใช้ต้องเป็นเจ้าของแว่น vr เพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์มเหล่านี้ หมายความว่าจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ที่ผู้เล่นจะได้จากการเข้าถึงแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน เพราะผู้เล่นจะ ‘รู้สึก’ เหมือนกำลังอยู่ภายในเกม บริษัทต่างๆ เช่น Meta Platforms ได้ลงทุนอย่างมากในด้านเทคโนโลยี metaverse ซึ่งทำให้นักลงทุนจำนวนมากซื้อหุ้น Meta เพื่อหวังผลตอบแทนจากเทรนด์ที่กำลังเติบโตนี้
ประโยชน์ของแพลตฟอร์ม Metaverse
การลงทุนในแพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุดสามารถทำกำไรได้ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากมูลค่าที่ถูกคาดไว้ของตลาด metaverse ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยเหตุนี้ รายละเอียดด้านล่างคือประโยชน์หลักๆ ของการลงทุนบนแพลตฟอร์มเหล่านี้
มีโอกาสได้รับรางวัล
เช่นเดียวกับเกมคริปโตที่ดีที่สุด แพลตฟอร์ม metaverse จำนวนมากเปิดให้ผู้ใช้ได้รับรางวัลผ่านการเล่นที่ต้องใช้ทักษะ เทรนด์การเล่นแบบ ‘play-to-earn’ (P2E) เริ่มเป็นกระแสในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เปิดให้ผู้ใช้สร้างรายได้จากทักษะการเล่นของตน
รางวัลส่วนใหญ่ที่มอบให้จะเป็นโทเค็นหลักของแพลตฟอร์ม ตัวอย่างเช่น รางวัลในเกม Battle Infinity จะเป็นเหรียญ IBAT อย่างไรก็ตาม โทเค็นเหล่านี้สามารถเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิทัลอื่นได้ หมายความว่าสามารถนำรางวัลมาชำระค่าสินค้าและบริการได้
วิธีใหม่ในการเข้าสังคม
ประโยชน์หลักอีกอย่างของแพลตฟอร์ม metaverse ที่ดีที่สุดคือการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในรูปแบบใหม่ การล็อกดาวน์จากโรคระบาดใหญ่ โควิด-19 เปิดโอกาสในการมีปฏิสัมพันธ์แบบไม่ต้องอยู่ใกล้กัน ซึ่งเป็นสิ่งที่แพลตฟอร์ม metaverse สามารถทำได้
ในโลกเสมือนจริง เกม metaverse เหล่านี้ให้ผู้ใช้สามารถสร้างอวาตาร์และพูดคุยกับผู้อื่นได้ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนในโลกก็ตาม และด้วยการมีประสบการณ์ร่วมกันภายในโลก metaverse ก็อาจทำให้ผู้ใช้นำมิตรภาพเหล่านี้มาสู่โลกจริงอีกด้วย
การปรับแต่งที่ไร้ขีดจำกัด
โดยทั่วไป แพลตฟอร์ม metaverse เหล่านี้เป็นที่ที่ผู้ใช้สามารถแสดงออกอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ทั้ง Decentraland และ The Sandbox ก็ให้ผู้ใช้สร้างสถาปัตยกรรมต่างๆในเกมซึ่งผู้ใช้สามารถมีปฏิสัมพันธ์และขายในตลาดได้
ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดอวาตาร์ของตนเองได้ตามต้องการ เพื่อให้แสดงตัวตนในเกมได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์บนโลกเสมือน
แพลตฟอร์ม metaverse จำนวนมากมีอสังหาริมทรัพย์ NFT ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วหมายถึงแปลงที่ดินเสมือนจริงบนแพลตฟอร์มโลก 3 มิติ เนื่องจากแปลงที่ดินเหล่านี้เป็น NFT จึงให้สิทธิ์ความเป็นเจ้าโดยสมบูรณ์ในตลาดเฉพาะแห่งโลก metaverse
ที่ดินเสมือนจริงเหล่านี้มักจะมีราคาสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมยอดนิยม โดย Investing.com ได้รายงานเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ที่ดินแปลงหนึ่งถูกขายใน The Sandbox ด้วยมูลค่าถึง 4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การผสานเข้ากับเหรียญคริปโตเคอเรนซี่
แพลตฟอร์ม metaverse ก็ได้ประโยชน์จากการรวบรวมเข้ากับโลกเหรียญคริปโต แทนการใช้เงิน สกุลดั้งเดิม แพลตฟอร์ม metaverse จะใช้โทเค็นคริปโตในการซื้อและแจกจ่ายรางวัล
สิ่งนี้มีประโยชน์มากมาย เช่น การให้ผู้ใช้สลับโทเค็นเป็นอีกโทเค็นหนึ่งอย่างง่ายดาย และผู้ใช้ยังได้รับประโยชน์จากการขึ้นราคาของโทเค็นคริปโตที่พวกเขาได้รับในเกม ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
บทสรุป – แพลตฟอร์ม Metaverse ที่ดีที่สุด
บทความนี้อธิบายภาพรวมทั้งหมดของ 7 อันดับแพลตฟอร์ม metaverse ในตอนนี้ โดยเจาะลึกว่าแต่ละแพลตฟอร์มเป็นอย่างไร เหตุใดจึงได้รับความสนใจอย่างสูงในหมู่นักลงทุน ด้วยคาดการณ์ตลาด metaverse ว่าจะมีมูลค่าถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่แพลตฟอร์มพวกนี้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ส่วนการเล่นเกมให้สนุกที่สุดต้องเล่นผ่านหนึ่งในแอป Metaverse ที่ดีที่สุด
RobotEra เป็นโปรเจกต์เมตาเวิร์สใหม่ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งช่วยให้ผู้เล่นเข้าถึงโลกเสมือนจริงในฐานะ Robots ซึ่งสร้างเป็น NFT
TARO โทเค็นหลักทำหน้าที่เป็นระบบเศรษฐกิจในเกม ด้วย TARO ผู้เล่นสามารถสร้างและแลกเปลี่ยนที่ดินเสมือนจริง รับรางวัลและแม้แต่เข้าสู่ DAO ในขณะที่ความสามารถ VR/AR กำลังได้รับการพัฒนา
ขณะนี้อยู่ในช่วงพรีเซลแรก TARO มีราคาอยู่ที่ 0.02 ดอลลาร์
RobotEra - เกม Metaverse สุดปังมาใหม่!
- สนับสนุนโดย LBank Labs
- ซื้อ แลกเปลี่ยน และพัฒนาที่ดิน NFT
- ทีมงานมืออาชีพ Doxxed
- โทเค็น TARO เปิดตัวขายพรีเซลแล้ว - robotera.io