ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาระบบการเงินแบบกระจายอำนาจ (Defi) ได้เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก กระดานซื้อขาย DeFi เป็นอีกทางเลือกของระบบการเงินแบบดั้งเดิมบนกระดานแลกเปลี่ยน DeFi เทรดเดอร์สามารถซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่กันได้โดยไม่ต้องพึ่งพาส่วนกลาง
ในบทความนี้ เราจะมาตอบคำถามเกี่ยวกับกระดานเทรด DeFi ที่ดีที่สุดในปี 2024 ซึ่งจะเน้นมาทางคุณสมบัติที่ควรมีในกระดานเทรดแบบ decentralized ที่ควรทราบก่อนเริ่มต้นการซื้อขาย DeFi
กระดานซื้อขาย DeFi ที่ดีที่สุดแห่งปี 2024
ถ้าคุณกำลังต้องการซื้อเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดแบบไม่ต้องผ่านส่วนกลาง สามารถซื้อได้ที่กระดานเทรด DeFi คุณสามารถแลกเปลี่ยนคริปโตต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและราคาถูกอีกด้วย
- DeFi Swap – กระดานแลกเปลี่ยน DeFi โดยรวมดีที่สุด
- Aqru – แลกเปลี่ยน DeFi พร้อมบัญชีคริปโตแบบออมทรัพย์
- PrimeXBT – แพลตฟอร์มการซื้อขาย DeFi คุณภาพสูง ใช้งานง่าย
- Nexo – แลกเปลี่ยนคริปโตและกู้ยืมเงินดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย
- Youhodlr – ซื้อขาย DeFi แบบไฮบริด และบริการสินเชื่อคริปโต
- PancakeSwap – กระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralizedค่าธรรมเนียมต่ำ
- Uniswap – กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบ decentralized ชั้นนำในแบบไม่ต้องเปิดเผยตัวตน
คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
รีวิวกระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized ยอดนิยม
การลงทุน DeFi นั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหม่สำหรับตลาดในปัจจุบัน และเป็นเหมือนการปฏิวัติวงการคริปโตในด้านการสร้างผลตอบแทน วันนี้เราจะมาศึกษากันว่ากระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจที่ดีที่สุดต้องเป็นแบบไหน มีค่าธรรมเนียม คุณสมบัติพิเศษ และสินทรัพย์อะไรให้เลือกบ้าง
1. DeFi Swap – กระดานแลกเปลี่ยน DeFi โดยรวมดีที่สุด
จากการตรวจสอบข้อมูล เราพบว่า DeFi Swap นั้นเป็นทั้งแพลตฟอร์มซื้อขาย DeFi ที่ดีที่สุด เป็นหนึ่งในแอพ DeFi ที่ดีที่สุด และยังเป็นแพลตฟอร์ม DeFi staking ที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน
DeFi Swap เป็นกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX) ที่มีบริการมากมาย รองรับ DEX Coins ที่ดีที่สุดได้อย่างหลากหลาย มีทั้งการแลกเปลี่ยนโทเค็น การ staking และการทำฟาร์มคริปโตเพื่อรับผลตอบแทนโดยใช้ DeFi Coin (DEFC) ซึ่งเป็นโทเค็นดั้งเดิมของแพลตฟอร์ม
DeFi Swap สามารถเปิดใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ได้ง่ายและรวดเร็ว รวมถึงยังสร้างอยู่บนเครือข่าย Binance Smart Chain (BSC) ซึ่งจะทำให้คุณซื้อ Binance Coin และแลกเปลี่ยนเป็นโทเค็นที่ DeFi Swap รองรับได้ด้วยเช่นกัน ในปัจจุบัน DeFi Swap รองรับโทเค็นมากกว่า 50 รูปแบบ ตัวอย่างเช่น DAI, USDC, USDT และ ANKR
คุณสามารถรับผลตอบแทนจากกองทุนสภาพคล่องของกระดานแลกเปลี่ยนซึ่งใช้สัญญาอัจฉริยะเป็นตัวกำหนดคุณจะได้รับดอกเบี้ยในอัตราคงที่จากสกุลเงินดิจิทัลที่คุณถือครองเอาไว้ ดอกเบี้ยจาก DeFi ที่ดีที่สุดจะมีมูลค่าสูงกว่าที่ได้รับจากธนาคารตามระบบเก่า นั่นหมายความว่าการทำ yield farming แบบนี้ให้ความคุ้มค่าสำหรับคุณในระยะยาวเลยทีเดียว
DeFi Swap ยังมีบริการ staking ที่ผู้ใช้งานสามารถทำการล็อคโทเค็นเอาไว้ในช่วงเวลาที่กำหนดเพื่อรับผลตอบแทน ซึ่งเป็นระบบการทำงานเดียวกับกองทุนสภาพคล่องโดยที่คุณจะไม่สามารถเข้าถึงคริปโตของคุณได้จนกว่าจะครบระยะเวลาที่กำหนด
สำหรับเทรดเดอร์ที่ถือครอง DEFC ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของ DeFi Swap เอาไว้ก็ยังสามารถสร้าง passive income ได้ผ่านระบบการจัดเก็บภาษีที่จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 10% ทุกครั้งที่มีการซื้อขาย DEFC โดยที่ครึ่งหนึ่งของค่าธรรมเนียมที่รวบรวมมาได้จะถูกแบ่งจ่ายกลับไปยังผู้ถือโทเค็นรายอื่นในรูปแบบของ ’เงินปันผล’ จากคุณสมบัติที่ได้กล่าวมา DeFi Swap จึงเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดของปีนี้เลยทีเดียว
จำนวนโทเค็น DeFi | 50+ |
โครงสร้างราคา | N/A |
ฟีเจอร์หลัก |
|
เงินฝากขั้นต่ำ | N/A |
ข้อดี
- เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้งานง่าย
- มีโทเค็น 50+
- โฮสต์บน Binance Smart Chain
- สร้าง passive income ผ่านการลงทุน DEFC ได้
- มีกลไกการ Staking และ yield farming
ข้อเสีย
- แอปบนมือถือยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา
คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
2. Aqru แลกเปลี่ยน DeFi พร้อมบัญชีคริปโตแบบออมทรัพย์
Aqru เป็นแพลตฟอร์มการลงทุน DeFi ที่ก่อตั้งขึ้นมาในปี 2019 ด้วยวัตถุประสงค์ในการให้ผลตอบแทนกับนักลงทุนอย่างเท่าเทียมกันไม่ว่าจะมีประสบการณ์ในการเทรดมามากหรือน้อยแค่ไหน สามารถแลกเปลี่ยนคริปโตต่าง ๆ ได้ด้วยระบบการกระจายอำนาจและยังสามารถสร้าง passive income ได้โดยไม่ต้องมีการล็อคคริปโตเหมือนแพลตฟอร์มอื่น
คุณสามารถแลกเปลี่ยนคริปโตแบบ DeFi กับ Aqru ได้ด้วยสกุลเงินที่หลากหลายทั้ง Bitcoin (BTC) และ Ethereum (ETC) รวมถึงทาง Aqru ยังมีฟีเจอร์บัญชีคริปโตแบบออมทรัพย์ที่ช่วยให้นักลงทุนมี passive income ได้โดยการฝากเงินดิจิทัลต่าง ๆ เข้ามาที่ Aqru แล้วรับดอกเบี้ยปันผลได้เป็นวินาทีโดยไม่ต้องมีการล็อคโทเค็นเอาไว้ในกระบวนการสร้างรายได้นี้อีกด้วย
จำนวนโทเค็น DeFi | 10+ |
โครงสร้างราคา | ค่าธรรมเนียม 0.35% ต่อการเทรด |
ฟีเจอร์หลัก |
|
เงินฝากขั้นต่ำ | N/A |
ข้อดี
- ใช้งานง่าย
- มีบัญชีคริปโตแบบออมทรัพย์
- กู้ยืมสินเชื่อคริปโตได้
ข้อเสีย
- จำนวนโทเค็น Defi ที่รองรับมีน้อย
คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
3. PrimeXBT – แพลตฟอร์มการซื้อขาย DeFi คุณภาพสูง ใช้งานง่าย
PrimeXBT เป็นกระดานซื้อขาย DeFi ที่มีประสิทธิภาพสูง เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2018 สามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ เหมาะทั้งสำหรับเทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพ มีสินทรัพย์ต่าง ๆ ให้ซื้อขายได้มากกว่า 100 รายการทั้งคริปโต ฟอเร็กซ์ หุ้น รองรับโทเค็นหลากหลายสกุลทั้ง BTC, ETH, USDT, USDC และยังสามารถฝากเงินได้แบบไม่มีขั้นต่ำ
ความปลอดภัยของ PrimeXBT ก็นับว่าอยู่ในขั้นสูง ไม่เคยมีรายงานว่าผู้ใช้งานถูกโจรกรรม มีแอพคริปโตให้ใช้งานได้ฟรีพร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่มีวันหยุด ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมีมากกว่า 545 ล้านดอลลาร์ PrimeXBT จึงเป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย DeFi ที่มีคุณภาพสูงและยังใช้งานง่ายสำหรับนักลงทุนทุกคน
จำนวนโทเค็น DeFi | 50+ |
โครงสร้างราคา | ค่าธรรมเนียม 0.0001% ต่อการเทรด |
ฟีเจอร์หลัก |
|
เงินฝากขั้นต่ำ | ไม่มี |
ข้อดี
- ค่าธรรมเนียมต่ำมาก
- มีแอพคริปโต
- รองรับหลายโทเค็น
- ฝากไม่มีขั้นต่ำ
ข้อเสีย
- ไม่มีบัญชีออมทรัพย์คริปโต
คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
4. Nexo – แลกเปลี่ยนคริปโตและกู้ยืมเงินดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย
Nexo เปิดตัวขึ้นมาในเดือนกุมภาพันธ์ของปี 2018 ซึ่งมีทั้งคุณสมบัติในการแลกเปลี่ยนคริปโตสกุลต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย และยังเป็นผู้นำของวงการสินเชื่อคริปโตที่มีชื่อเสียง มีบัตร Nexo Card ที่เป็นบัตรแบบเข้ารหัสซึ่งใช้ได้ทุกที่ที่รองรับบัตร Master Card
ผู้ใช้งานทุกคนสามารถซื้อคริปโตได้ภายในการคลิกแค่ไม่กี่ครั้ง และยังฝากคริปโตเข้ามาที่ Nexo เพื่อรับเงินปันผลได้ในช่วงปลายปี ในส่วนของฟีเจอร์การกู้ยืมสินเชื่อนั้นจะมีวงเงินผันแปรตามมูลค่าของคริปโตที่คุณถือครองเอาไว้ ยิ่งคริปโตที่เป็นหลักประกันมีมูลค่าสูงก็ยิ่งมีสินเชื่อให้มากด้วยเช่นกัน
จำนวนโทเค็น DeFi | 40+ |
โครงสร้างราคา | N/A |
ฟีเจอร์หลัก |
|
เงินฝากขั้นต่ำ | N/A |
ข้อดี
- ใช้งานง่าย
- มีบัตร Nexo Card
- กู้ยืมสินเชื่อคริปโตได้
- รองรับหลายโทเค็น
ข้อเสีย
- มีการล็อคโทเค็นในการสร้างรายได้
คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
5. – ซื้อขาย DeFi แบบไฮบริด และบริการสินเชื่อคริปโต
Youhodler เปิดตัวขึ้นมาในปี 2018 ในลักษณะไฮบริดซึ่งสามารถลงทะเบียนซื้อขายคริปโตตามปกติได้ และยังสามารถซื้อขายแบบ DeFi ได้ด้วยเช่นกัน ถ้าคุณต้องการถือครองคริปโตต่าง ๆ ในระยะยาว Youhodler สามารถสร้างรายได้แบบ passive income ให้กับคุณได้ และยังมีบริการสินเชื่อคริปโตให้ใช้งานได้อย่างสะดวกทั้งการใช้งานผ่านแอปพลิเคชั่นและหน้าเว็บไซต์หลัก
Youhodler มีบัญชีคริปโตแบบออมทรัพย์ให้นักลงทุนเข้ามาฝากเพื่อรับดอกเบี้ยได้โดยจะจ่ายเป็นเงินในสกุลเดียวกัน ไม่ต้องมีการล็อคโทเค็น เปิดถอนออกได้ทุกเวลาที่ต้องการ นอกจากบริการทางด้านสินเชื่อแล้วยังมีฟีเจอร์ Multi HODL ที่ช่วยรักษาอัตราดอกเบี้ยรายวัน และยังมีฟีเจอร์ Turbocharge ที่ใช้โคลนคริปโตหลักประกันเพื่อเพิ่มวงเงินสินเชื่อได้อีกด้วย
จำนวนโทเค็น DeFi | 50+ |
โครงสร้างราคา | N/A |
ฟีเจอร์หลัก |
|
เงินฝากขั้นต่ำ | N/A |
ข้อดี
- ใช้งานง่าย
- มีแอพคริปโต
- กู้ยืมสินเชื่อคริปโตได้
- มีบัญชีคริปโตแบบออมทรัพย์
ข้อเสีย
- มีค่าเสียโอกาสจากการฟาร์มเหรียญ
คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
6. PancakeSwap – กระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized ค่าธรรมเนียมต่ำ
อีกหนึ่งกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจที่เหมาะสำหรับการซื้อเหรียญคริปโตมากที่สุดก็คือ PancakeSwap ซึ่งเป็นกระดานแลกเปลี่ยน P2P ที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ คุณสามารถสลับโทเค็นที่ต้องการได้ภายในไม่กี่วินาทีเช่นเดียวกับ DeFi Swap ทาง PancakeSwap เปิดใช้งานมาตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2020 และโฮสต์อยู่บน Binance Smart Chain
PancakeSwap รองรับคริปโตหลากหลายสกุล สามารถค้นหาและเพิ่มสกุลคริปโตที่ต้องการด้วยตัวเองได้โดยใช้ contract address แค่เชื่อมต่อกระเป๋าคริปโตของคุณเข้ากับแพลตฟอร์มก็สามารถแลกเปลี่ยน BNB ให้เป็นโทเค็นอื่นได้ รวมถึง PancakeSwap ยังรองรับกระเป๋าเงินดิจิทัลได้อย่างหลากหลายทั้ง MetaMask และ Binance Wallet ด้วยเช่นกัน
ในด้านของค่าธรรมเนียมนั้น PancakeSwap จะมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น 0.25% ของการซื้อขายทั้งหมด ซึ่งแบ่งสำหรับเป็นกองทุนสภาพคล่อง และกองคลังเพื่อซื้อคืน CAKE ซึ่งเป็นโทเค็นหลักของแพลตฟอร์มและทำการเผาเหรียญทิ้ง นอกจากนี้ PancakeSwap ยังมี ‘Syrup Pools’ ที่เปิดให้ผู้ใช้งานลงทุนกับ CAKE เพื่อรับผลตอบแทนเป็นโทเค็นเดียวกันหรือโทเค็นอื่นได้อีกด้วย
กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบกระจายอำนาจแห่งนี้ยังมีบริการเฉพาะในด้านอื่น ๆ อีกเช่น PancakeSwap Lottery ซึ่งมีชื่อเสียงว่าเป็นหนึ่งในเว็บลอตเตอรี่คริปโตที่ดีที่สุด ผู้ใช้งานสามารถซื้อสลากและรับรางวัลแจ็คพอตได้มากถึง 90,000 ดอลลาร์ แม้ว่าจะยังมีโอกาสขาดทุนอยู่บ้างจาก กองทุนสภาพคล่อง แต่ก็นับว่า PancakeSwap ยังเป็นหนึ่งในกระดานเทรด DeFi ที่ดีที่สุดในตลาดเลยทีเดียว
จำนวนโทเค็น DeFi | 50+ |
โครงสร้างราคา | ค่าธรรมเนียม 0.25% ต่อการเทรด |
ฟีเจอร์หลัก |
|
เงินฝากขั้นต่ำ | N/A |
ข้อดี
- ค่าธรรมเนียมต่ำ
- ใช้งานง่าย
- รองรับหลายโทเค็น
- มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านรายในปัจจุบัน
ข้อเสีย
- มีค่าเสียโอกาสจากการฟาร์มเหรียญ
7. Uniswap – กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบ decentralized ชั้นนำในแบบไม่ต้องเปิดเผยตัวตน
ถ้าคุณกำลังมองหาการแลกเปลี่ยน DeFi ที่ดีที่สุดและมีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุด Uniswap นับว่ามีค่าควรแก่การนำมาพิจารณาเป็นอย่างมาก CoinMarketCap ได้ให้ข้อมูลว่า Uniswap มีปริมาณการซื้อขายมากกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน จึงมีส่วนแบ่งตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ DEX เลยทีเดียว
Uniswap เป็นที่รู้จักกันในชื่อผู้ดำเนินการตลาดแบบอัตโนมัติ (AMM) ซึ่งจะทำการกระจายอำนาจและอำนวยความสะดวกในการเทรดผ่าน smart contract ผู้ใช้งาน Uniswap สามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นหรือ stake DeFi ของคุณใน liquidity pool ได้อย่างสะดวก และมีผลตอบแทนที่ใกล้เคียงหรืออาจจะดีกว่าการถือหุ้นปันผลที่ดีที่สุดเอาไว้อีกด้วย
เนื่องจาก Uniswap โฮสต์อยู่บน Ethereum blockchain จึงรองรับโทเค็นเป็นจำนวนมาก และยังมีข้อดีตรงที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ เลย นั่นหมายถึงคุณสามารถใช้งาน Uniswap ได้แบบไม่ระบุตัวตน รวมถึงยังสามารถซื้อ Uniswap เพื่อใช้โทเค็นในการเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อกำกับดูแลต่าง ๆ ของทางแพลตฟอร์มได้
Uniswap จะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม 0.3% ของธุรกรรมทั้งหมด ซึ่งจะจ่ายกลับไปยัง liquidity pool อีกที แต่ก็ยังคงมีค่าธรรมเนียม GAS ซึ่งอาจจะค่อนข้างสูงในกรณีที่เครือข่ายมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม Uniswap นับว่าเป็นกระดานซื้อขายที่ปลอดภัยและได้การยอมรับอย่างสูงจนเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์ม DeFi ที่ยอดเยี่ยมที่สุดอีกแห่งด้วยเช่นกัน
จำนวนโทเค็น DeFi | 400+ |
โครงสร้างราคา | ค่าธรรมเนียม 0.3% ต่อการเทรด |
ฟีเจอร์หลัก |
|
เงินฝากขั้นต่ำ | N/A |
ข้อดี
- รองรับโทเค็น ERC-20 เป็นจำนวนมาก
- ใช้งานแบบไม่ระบุตัวตนได้
- รองรับกระเป๋าเงินคริปโตได้อย่างหลากหลาย
- มีสภาพคล่องสูง
ข้อเสีย
- ค่าธรรมเนียม GAS ค่อนข้างสูง
คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง
เปรียบเทียบแพลตฟอร์ม DeFi ที่ดีที่สุด
ตอนนี้คุณน่าจะมีความรู้และความเข้าใจกันแล้วว่าการซื้อขายแบบกระจายอำนาจคืออะไร ตารางนี้คือตัวเปรียบเทียบว่าในแต่ละแพลตฟอร์มจะมีโครงสร้างราคา คุณสมบัติพิเศษ และต้องใช้จำนวนเงินฝากขั้นต่ำเท่าไหร่บ้าง
แพลตฟอร์ม | จำนวนโทเค็น Defi | โครงสร้างราคา | ฟีเจอร์หลัก | เงินฝากขั้นต่ำ |
DeFi Swap | 50+ | N/A |
|
N/A |
Aqru | 10+ | ค่าธรรมเนียม 0.35% ต่อการเทรด |
|
100 ดอลลาร์ |
PrimeXBT | 50+ | ค่าธรรมเนียม 0.0001% ต่อการเทรด |
|
N/A |
Nexo | 40+ | N/A |
|
N/A |
Youhodler | 50+ | N/A |
|
N/A |
PancakeSwap | 50+ | ค่าธรรมเนียม 0.25% ต่อการเทรด |
|
N/A |
Uniswap | 400+ | ค่าธรรมเนียม 0.3% ต่อการเทรด |
|
N/A |
วิธีการเลือกกระดานซื้อขาย DeFi ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
การเลือกกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจอาจจะเป็นเรื่องที่ดูซับซ้อน โดยเฉพาะการใช้งานในครั้งแรก เราจึงจะมาพูดถึงแต่ละปัจจัยที่คุณควรพิจารณาเพื่อตัดสินใจว่าควรเลือกแพลตฟอร์มไหนดี
ระเบียบข้อบังคับ
เมื่อคุณต้องการสร้างรายได้จากคริปโตด้วยกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ ระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับหนึ่งด้วยเช่นกัน แม้ว่าระบบการแลกเปลี่ยนจะไม่มีการพึ่งพาส่วนกลางแต่ก็ยังคงมีกฎระเบียบต่าง ๆ คอยกำกับเอาไว้เพื่อความปลอดภัยในการเทรดสำหรับคุณ
แม้ว่ากฏหมายเกี่ยวกับคริปโตและแพลตฟอร์มแบบกระจายอำนาจนั้นจะยังมีความคลุมเครืออยู่บ้าง เพราะในด้านของการจัดการหลักทรัพย์นั้นสร้างความปลอดภัยได้ค่อนข้างยาก นักกฏหมายหลายคนจึงมองว่าการกำกับดูแลกระดานแลกเปลี่ยนต่างๆนั้นเป็นเรื่องยากรวมถึงนักกฏหมายหลายคนก็ไม่ได้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง การศึกษาในด้านความปลอดภัยของแต่ละแพลตฟอร์มจึงเป็นสิ่งที่คุณควรทำก่อนเริ่มการซื้อขายทุกครั้ง
จำนวนโทเค็น DeFi ที่สามารถแลกเปลี่ยนได้
จำนวนของโทเค็น DeFi ที่แพลตฟอร์มนั้นมีก็นับว่าเป็นอีกเรื่องสำคัญที่ควรนำมาพิจารณา ซึ่ง DeFi Swap นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะมีโทเค็นคริปโตมากกว่า 50 โทเค็นที่เปิดให้แลกเปลี่ยนกันได้ อีกทั้งยังมีสินทรัพย์ยอดนิยมอย่าง USDT และ DAI รวมทั้งสินทรัพย์ที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันอย่าง ALPHA และ SPELL อีกด้วย
คุณควรเลือกกระดานแลกเปลี่ยนที่มีเหรียญที่คุณสนใจตัวอย่างเช่น กระดานแลกเปลี่ยนที่สร้างบน Binance Smart Chain (BSC) ก็จะทำงานกับโทเค็น BEP-20 และ กระดานแลกเปลี่ยน ที่สร้างบน Ethereum ก็จะทำงานกับโทเค็น ERC -20
ข้อเสนอพิเศษในการสมัครสมาชิก
คุณสมบัติโดยทั่วไปคือคุณไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกในการใช้งานกระดานแลกเปลี่ยน สิ่งที่ต้องทำมีแค่การเชื่อมโยงกระเป๋าเงินดิจิทัลของคุณเข้ากับแพลตฟอร์มก็เริ่มซื้อขายกันได้โดยไม่ต้องตรวจสอบ KYC ดังนั้นข้อเสนอพิเศษในการสมัครสมาชิกจึงไม่ได้มีผลกับระบบ กระดานแลกเปลี่ยน แต่ก็ควรจับตามองข้อเสนอต่าง ๆ ของทางแพลตฟอร์มเอาไว้เพื่อไม่ให้พลาดโปรโมชั่นพิเศษด้วยเช่นกัน
ค่าธรรมเนียม
การแลกเปลี่ยน DeFi ก็มักจะมีการคิดค่าธรรมเนียมแบบเดียวกับการซื้อขายผ่านแอพคริปโตต่าง ๆ ด้วย แต่ก็จะมีความแตกต่างกันตรงที่ค่าธรรมเนียมเหล่านั้นมีโอกาสที่จะถูกจ่ายคืนให้กับนักลงทุนได้ผ่านกองทุนสภาพคล่อง หรือผู้ที่ถือโทเค็นหลักของกระดานเทรดเอาไว้
นอกเหนือจากค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้กับกระดานเทรดโดยตรงแล้ว คุณยังต้องคอยดูค่าธรรมเนียมของเครือข่ายพร้อมกันไปด้วย ตัวอย่างเช่นกระดานเทรดที่สร้างบน Ethereum ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียม GAS เมื่อมีการแลกเปลี่ยนเกิดขึ้น ซึ่งค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะมากหรือน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความแออัดภายในเครือข่าย
คุณสมบัติและเครื่องมือต่าง ๆ
มีหลายกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจที่เสนอบริการพิเศษให้กับนักลงทุนนอกเหนือจากการแลกเปลี่ยนโทเค็นกันแบบทั่วไป และนี่คืออีกปัจจัยที่ทำให้ DeFi Swap เป็นกระดานแลกเปลี่ยน DeFi ที่ดีที่สุด เพราะมีบริการทั้ง liquidity pool และกลไกในการ staking ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับการลงทุนในบัญชีคริปโตที่มีดอกเบี้ย แค่ฝากคริปโตเข้าไปแล้วรับผลตอบแทนกันได้เลย
กลไกการ Staking DeFi จะมอบผลตอบแทนให้เมื่อคุณทำการล็อคโทเค็นเอาไว้ภายในเวลาที่กำหนด รวมถึงบางแพลตฟอร์มยังมีบริการเฉพาะทาง ตัวอย่างเช่น บริการลอตเตอรี่คริปโตของ PancakeSwap ที่ผู้ใช้งานสามารถซื้อตั๋วลุ้นรับแจ็คพอตใหญ่กันได้อีกด้วย
วิธีการชำระเงิน
ระบบการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจนั้นจะไม่ได้พึ่งพาส่วนกลาง การชำระเงินของแพลตฟอร์มเหล่านี้จึงเป็นการใช้กระเป๋าเงินคริปโต สิ่งที่คุณต้องทำคือการตั้งค่ากระเป๋าเงินของคุณกับบล็อคเชนของกระดานแลกเปลี่ยนนั้น เพียงเท่านี้ก็สามารถแลกเปลี่ยนโทเค็นของคุณให้เป็นสินทรัพย์ทางเลือกอื่นได้แล้ว
แต่นั่นก็หมายถึงคุณจะต้องมีคริปโตเก็บเอาไว้ก่อนการซื้อขาย เพราะการแลกเปลี่ยน DeFi ไม่สามารถใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือโอนเงินผ่านธนาคารเพื่อซื้อคริปโตได้โดยตรง แต่ดีที่คุณสามารถสร้างบัญชีบนกระดานแลกเปลี่ยนคริปโต ซื้อเหรียญคริปโต แล้วโอนย้ายไปยังวอลเล็ทภายนอก ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับกระดานแลกเปลี่ยนที่คุณเลือกได้
การบริการลูกค้า
แม้ว่าการซื้อขาย DeFi จะเป็นระบบที่ตรงตามความต้องการของคุณมากที่สุด แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ระบบการแลกเปลี่ยนนี้ไม่มีทีมงานบริการลูกค้าของแพลตฟอร์ม เพราะโครงสร้างหลักเป็นการกระจายอำนาจให้กับผู้ซื้อขายรายย่อย และเทรดเดอร์จะต้องบริหารจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง แพลตฟอร์มเหล่านี้จึงไม่มีแชทสดหรือบริการโทรศัพท์สอบถามข้อมูล แต่ก็จะมีบางแพลตฟอร์มที่มีการตอบคำถามที่พบบ่อยหรือศูนย์ช่วยเหลืออยู่ด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณอาจจะหาข้อมูลเพิ่มเติมจากคู่มือวิธีลงทุนใน DeFi ของเราก่อนได้
วิธีใช้งานกระดานแลกเปลี่ยน
เมื่อคุณเข้าใจแล้วว่ากระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบกระจายอำนาจคืออะไร รวมถึงรู้จักปัจจัยทั้งหมดที่ควรพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจกันไปแล้ว อย่างที่เราได้แนะนำไปว่า DeFi Swap เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับมือใหม่ และยังแลกเปลี่ยนคริปโตต่าง ๆ กันได้ภายในเวลาแค่ไม่กี่วินาทีโดยมี 4 ขั้นตอนที่ต้องทำดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 – ตั้งค่ากระเป๋าเงินคริปโต
DeFi Swap โฮสต์อยู่บน Binance Smart Chain (BSC) จึงต้องทำการตั้งค่ากระเป๋าคริปโตที่เข้ากันได้กับเครือข่ายบล็อคเชนนี้ แม้จะมีกระเป๋าเงินดิจิทัลมากมายที่เข้ากันได้ แต่เราขอแนะนำ MetaMask ที่ใช้ได้ง่ายและเปิดใช้งานได้ฟรีอีกด้วย
ขั้นตอนที่ 2 – ซื้อ Binance Coin (BNB)
เมื่อคุณตั้งค่ากระเป๋าเงินคริปโตของคุณเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถซื้อ Binance Coin (BNB) เพื่อแลกเปลี่ยนกับโทเค็นอื่น ๆ ได้เลยทันที BNB นั้นสามารถซื้อได้จากกระดานแลกเปลี่ยนคริปโตที่ดีที่สุดได้หลายแห่ง เมื่อคุณซื้อ BNB ได้แล้ว ให้คุณทำการโอนย้าย BNB เข้าไปในกระเป๋าเงินตามขั้นตอนที่ผ่านมา
ขั้นตอนที่ 3 – เชื่อมต่อกระเป๋าคริปโตเข้ากับ DeFi Swap
ให้คุณไปที่หน้าแรกของ DeFi Swap แล้วกดที่ปุ่ม ‘Connect to a Wallet’ แล้วเลือกกระเป๋าคริปโตที่คุณใช้อยู่ จากนั้นเมื่อทำตามขั้นตอนที่แนะนำเอาไว้อีกเล็กน้อยเพื่อทำการเชื่อมต่อให้สมบูรณ์
ขั้นตอนที่ 4 – แลกเปลี่ยนโทเค็น
ตอนนี้คุณก็จะพร้อมในการแลกเปลี่ยนโทเค็นของคุณแล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอยู่ในขั้นตอนการ ‘Swap’ แล้วเลือกโทเค็นที่ต้องการรับ ตัวอย่างเป็นการแลกเปลี่ยน BNB ให้เป็น DeFi Coin (DEFC)
ให้คุณระบุจำนวน BNB ที่ต้องการแลกเปลี่ยนลงในกล่องข้อความ และคุณยังสามารถคลิกที่ปุ่มรูปเฟืองที่มุมบนขวาเพื่อตรวจสอบ slippage tolerance หรือกำหนดเวลาของการแลกเปลี่ยนได้ เมื่อกำหนดค่าต่าง ๆ เรียบร้อยแล้วให้กดยืนยันการทำธุรกรรม จากนั้นโทเค็นใหม่ก็จะถูกโอนย้ายไปยังกระเป๋าเงินคริปโตของคุณเมื่อการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น
กระดานซื้อขาย DeFi ที่ดีที่สุด – บทสรุป
โดยสรุปแล้วบทความนี้กล่าวถึงกระดานซื้อขาย DeFi ที่ดีที่สุดในตลาดรวมไปถึงขั้นตอนการเริ่มต้นซื้อขายในระบบการกระจายอำนาจ และอย่างที่เราได้แนะนำไปว่ากระดานแลกเปลี่ยนคริปโตแบบกระจายอำนาจที่ดีที่สุดก็คือ DeFi Swap ซึ่งใช้งานได้ง่าย คุณสามารถสลับโทเค็นที่ต้องการและยังมีบริการ Stake DeFi ที่ช่วยให้คุณลงทุนกับ DEFC พร้อมรับผลตอบแทนแบบ passive income ได้โดยการถือโทเค็นไว้เท่านั้นเอง
หลักจากที่ทราบกันไปทั้งหมดแล้วว่า DeFi เล่นยังไง มีปัจจัยอะไรที่ควรต้องศึกษาก่อนบ้าง เมื่อคุณเลือกกระดานซื้อขาย DeFi ที่เหมาะสมสำหรับคุณได้แล้ว ก็ยังต้องมีการศึกษาแต่ละแพลตฟอร์มและคริปโตสกุลต่าง ๆ ให้ละเอียดก่อนการลงทุน DeFi ทุกครั้ง เพราะตลาดอาจมีการผันผวนได้เป็นอย่างมาก และควรลงทุนเฉพาะในส่วนที่ไม่เดือดร้อนเท่านั้นจึงจะเป็นการเทรด DeFi อย่างปลอดภัยมากที่สุด
คริปโตเคอเรนซี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีการควบคุมซึ่งมีความผันผวนสูง