แม้ว่าอุตสาหกรรมคริปโตเคอเรนซี่ตอนนี้อยู่ในช่วงขาลง แต่ก็ยังมีโอกาสการลงทุนมากมายให้ค้นหา
คู่มือนี้จะช่วยบอก 10 เคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเพิ่มผลตอบแทนในปี 2024 ได้
10 เคล็ดลับการลงทุนคริปโตปี 2024
ด้านล่างนี้คือภาพรวมคร่าว ๆ ของ 10 เคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่ควรพิจารณาในวันนี้:
- เข้าร่วมกลุ่ม Discord ที่น่าเชื่อถือ – เรียนรู้การเทรดคริปโตจากผู้เชี่ยวชาญ
- มองหาเหรียญคริปโตพรีเซล – ลงทุนในเหรียญคริปโตพรีเซลที่เพิ่งเปิดตัวใหม่
- เข้าร่วมกลุ่มติดตามสัญญาณซื้อขาย – รับคำแนะนำและแนวทางการเทรดคริปโตแบบเรียลไทม์
- ใช้เครื่องมือ Copy Trading – เทรดคริปโตให้ได้กำไรโดยการเลียนแบบนักลงทุนที่มีประสบการณ์
- DeFi Yield Farming – สร้างรายได้แบบพาสซีฟในกองทุนสภาพคล่อง
- ใช้กลยุทธ์ Buy the Dip – ลงทุนในเหรียญคริปโตชั้นนำตอนที่ราคาตก
- การเทรดคริปโต CFD – การเทรดคริปโตที่มีเลเวอเรจด้วยการขายชอร์ต
- ซื้อที่ดินใน Metaverse – กระจายความเสี่ยงใน Metaverse Land
- จัดการความเสี่ยง – ลงทุนคริปโตภายใต้การบริหารความเสี่ยง
- ฝากคริปโตรับดอกเบี้ย – ฝากโทเค็นคริปโตที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟ
อธิบายเคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่ดีที่สุด
เคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่กล่าวถึงในคู่มือนี้ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการต่าง ๆ ที่นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนสูงสุดจากอุตสาหกรรมนี้ได้
เพราะแม้ว่าตลาดคริปโตจะกำลังอยู่ในช่วงซบเซา ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีโอกาสในการลงทุน
ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายถึง 10 เคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่ดีที่สุด ที่ควรพิจารณาในตอนนี้
1. เข้าร่วมกลุ่ม Discord ที่น่าเชื่อถือ – เรียนรู้การเทรดคริปโตจากผู้เชี่ยวชาญ
หนึ่งในเคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่ควรพิจารณาในวันนี้ คือ การติดตามนักลงทุนที่น่าเชื่อถือ ที่มีประสบการณ์ในด้านสินทรัพย์ดิจิทัล สิ่งนี้จะช่วยให้มือใหม่รู้ข่าววงในเกี่ยวกับเหรียญคริปโตออกใหม่ที่ดีที่สุด นอกเหนือจากการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญในเหรียญดังกล่าว ซึ่งอาจมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป
ตัวอย่างที่โดดเด่น คือ Jacob Bury อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในวงการคริปโต เขามีผู้ติดตามที่เพิ่มขึ้นทั้งใน YouTube และ Discord โดย Jacob Bury ใช้แนวทางที่ยืดหยุ่นในการเทรดคริปโต เขาคอยศึกษาตลาด เพื่อหาโอกาสในการซื้อขายที่เหมาะสม และแบ่งปันข้อมูลเหล่านี้ให้กับผู้ติดตามของเขา
บ่อยครั้งที่ Jacob Bury จะค้นหาเหรียญ ICO คริปโตที่ดีที่สุดที่มีโอกาสการเติบโตสูงสุด ตัวอย่างเช่น Jacob Bury จะเป็นหนึ่งในยูทูปเบอร์คริปโตรายแรก ๆ ที่มองเห็นว่าเหรียญ Tamadoge จะกลายเป็นหนึ่งในการขายคริปโตที่ดีที่สุดในปี 2024 นอกจากนี้ Jacob Bury ยังแนะนำ Battle Infinity ให้แก่ผู้ติดตามของเขา ซึ่งตอนนี้ก็เป็นหนึ่งใน เหรียญคริปโตใหม่ที่ดีที่สุดบน Pancakeswap
นอกจากการค้นหาเหรียญที่เพิ่งเปิดตัวในช่วงเริ่มต้นแล้ว Jacob Bury ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ที่มีทักษะการวิเคราะห์ทางเทคนิคอีกด้วย โดย Bury จะมองหาจุดเริ่มต้นที่เหมาะกับการเทรดคริปโตใหม่ โดยพิจารณาจากสัญญาณการซื้อขายที่ครอบคลุม และตัวชี้วัดทางเทคนิค สิ่งนี้ทำให้ผู้ติดตามของเขาสามารถลงทุนได้แบบไม่มีความเสี่ยง โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์คริปโตมาก่อน
แม้ว่าเนื้อหาส่วนใหญ่ของ Jacob Bury จะสามารถรับชมได้ฟรีบน YouTube แต่ช่อง Discord เป็นแหล่งของเนื้อหาพรีเมียม ที่ต้องสมัครสมาชิก 7.50 ดอลลาร์ต่อเดือน เพื่อรับชมบทวิเคราะห์พิเศษ ก่อนที่จะเผยแพร่สู่บุคคลทั่วไป
ผู้ที่ต้องการได้รับการแจกทริคคริปโตแบบเรียลไทม์ของ Bury ต้องจ่ายค่าสมัคร 11.50 ดอลลาร์ต่อเดือน และจะได้รับเทคนิคการซื้อเหรียญคริปโตพรีเซลมาใหม่ทั้งหมดที่ Bury แนะนำ นอกเหนือจากการลงทุนคริปโตในตลาดระยะสั้น
2. มองหาเหรียญคริปโตพรีเซล – ลงทุนในเหรียญคริปโตพรีเซลที่เพิ่งเปิดตัวใหม่
Wall Street Memes (WSM) – เหรียญมีมในช่วงพรีเซลล์จากแบรนด์ใหญ่ พร้อมผู้ติดตามโปรเจกต์กว่า 1 ล้านคน
ในช่วงที่เหรียญมีมกำลังเป็นกระแสแรงแบบนี้ จึงทำให้ผุดโปรเจกต์ใหม่ๆ ออกมาอยู่เป็นประจำ แต่โปรเจกต์เหล่านั้นกลับไร้ซึ่งทีมงานที่มีประสบการณ์และชุมชนที่มั่นคงแข็งแรง นั่นทำให้ Wall Street Memes กลายเป็นเหรียญมีมพรีเซลล์ที่น่าสนใจ โดยมีต้นกำเนิดมาจากช่วงที่ราคาหุ้นของ GameStop พุ่งขึ้นเมื่อปี 2021
Wall Street Memes เป็นโทเค็นที่กำลังอยู่ในช่วงพรีเซลล์และมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียรวมกันกว่า 1 ล้านคน
พรีเซลล์ $WSM ระดมทุนได้แล้วมากกว่า 14 ล้านดอลลาร์เพียงหนึ่งเดือนหลังจากเปิดตัว และอยู่ในรอบท้ายๆ จากทั้งหมด 30 รอบของการพรีเซลล์แล้ว
โทเค็น WSM สามารถซื้อได้ในราคา $0.0316 โดยราคาจะเพิ่มขึ้นตลอดช่วงพรีเซลล์ นี่จึงถือเป็นโอกาสซื้อโทเค็นในราคาถูกก่อนที่จะลิสต์ลงกระดานแลกเปลี่ยน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเหรียญในช่วงพรีเซลล์นั้นมาพร้อมกับความเสี่ยง แต่เหรียญใหม่ๆ ก็สร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญเนื่องด้วยมูลค่าตลาดที่ยังไม่สูงนัก Wall Street Memes ก็เป็นหนึ่งในนั้น เป็นหนึ่งในเหรียญที่มีโอกาสเติบโตสูงในอนาคต
ทางเว็บไซต์ของ Wall Street Memes ได้ระบุว่าจะทำให้ ‘การขับเคลื่อนกลายเป็นโทเค็น’ และส่งเสริมให้ผู้คนทั่วไปได้รับโอกาสกลายเป็นมหาเศรษฐีจาก ‘เหรียญมีมที่ไม่มีมูลค่าจริง’ ได้นั่นเอง
โดยจากกระแส GameStop เราคงทราบกันแล้วว่านักลงทุนหลายคนจาก Reddit ต่างร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อทำให้ราคาหุ้นของ GameStop พุ่งขึ้นในช่วงที่นักลงทุน Wall Street ต่างเทขายโทเค็นลงในตลาด
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่นักลงทุนรายย่อยได้เปรียบเหนือนักลงทุนสถาบัน และนั่นทำให้นักลงทุนหลายคนพยายามที่จะทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมในรูปแบบคล้ายกันนับตั้งแต่นั้นมาก โดยเมื่อไม่นานมานี้ การขับเคลื่อนดังกล่าวก็เปลี่ยนมาขับเคลื่อนเหรียญคริปโตมีมแทน นั่นเป็นเหตุผลที่ Wall Street Memes เปิดตัวโทเค็นของตน
โทเค็นมีจำนวนทั้งหมด 2,000,000,000 ซึ่งจะไม่มีการเก็บไว้ให้กับทางทีมงานแต่อย่างใด สิ่งนี้ช่วยลดโอกาสการฉ้อโกงหรือ Rug Pull จากทางทีมงาน และด้วยรอบพรีเซลล์ที่เยอะแบบนี้ก็ทำให้มีการกระจายจำนวนของเหรียญไปตามจุดราคาต่างๆ เพื่อทำให้ราคาเหรียญมีความผันผวนต่ำและมีความยั่งยืนสูง
เป้าระดมทุนของเหรียญ 30,577,000 ดอลลาร์ และ 50% ของโทเค็นก็เปิดขายในช่วงพรีเซลล์ ซึ่งแปลว่ามูลค่าตลาดของโทเค็นเมื่อเปิดตัวจะเท่ากับ 61,144,000 ดอลลาร์นั่นเอง
ถือได้ว่า Wall Street Memes ได้รับการพูดถึงอย่างมากบนโซเชียล ซึ่งแม้แต่ Elon Musk ก็ได้ทวีตข้อความจากทาง Wall Street Memes เมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย
คุณสามารถศึกษาพรีเซลล์ Wall Street Memes ได้เพิ่มเติมในกลุ่ม Telegram หรือ Twitter
เพดานเงินทุน | $30,577,000 |
โทเค็นทั้งหมด | 2 พันล้าน |
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์ | 1 พันล้าน |
Blockchain | เครือข่าย Ethereum |
ประเภทโทเค็น | ERC-20 |
ซื้อขั้นต่ำ | 100 โทเค็น |
วิธีการชำระเงิน | USDT, ETH |
Thug Life – เหรียญมีมที่จัดสรรโทเค็น 15% ไว้เพื่อเป็นรางวัลแก่ชุมชน พร้อมระดมทุนไปแล้วกว่า $991,000 ในเวลาไม่กี่สัปดาห์
Thug Life ($THUG) เป็นเหรียญมีมที่มุ่งเน้นไปที่ชุมชนเป็นหลัก โดยตั้งเป้าหมายที่จะมอบโอกาสใหม่ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่พลาดช่วงขาขึ้นของเหรียญมีมครั้งก่อนๆ ได้สร้างผลกำไรแบบทวีคูณ
โทเค็น Thug Life นั้นใช้พลังจากความเป็นเหรียญมีมและอาจกลายเป็นเหรียญยอดนิยมในตลาดมีมอีกด้วย โดยทางเว็บไซต์ของเว็บระบุไว้ชัดเจนว่า $THUG ในตอนนี้นั้นยัง ‘ไม่มียูทิลิตี้’ และกำลังมุ่งเน้นไปที่การสร้างชุมชนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
แต่เหตุผลแบบนั้นก็ไม่ได้รั้งให้เหรียญมีมอื่นๆ ทำกำไรได้อย่างสูงในปี 2024 โดยได้สร้างผลตอบแทนแบบทวีคูณและทำกำไรเหนือ BTC และ ETH จนถึงตอนนี้ ซึ่งคล้ายกันกับเหตุการณ์ในเหรียญ Pepe ซึ่งภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังเปิดตัว $THUG ก็ได้ระดมทุนไปแล้วกว่า 100,000 ดอลลาร์ แสดงถึงการสนับสนุนจากชุมชนที่แข็งแกร่ง
โปรเจกต์จัดสรร 70% (2.94 พันล้าน) ของอุปทานทั้งหมด 4.2 พันล้านเหรียญไว้ในช่วงพรีเซลล์ โดยคงราคาโทเค็นไว้ที่ $0.0007 USDT ในรอบพรีเซลล์เพียงรอบเดียว เทคนิคแบบนี้ทำให้นักลงทุนทุกคนได้มีโอกาสอย่างเท่าเทียมกันที่จะซื้อราคาเดียวกันนั่นเอง โดยตั้งเพดานเงินทุนเอาไว้ที่ $2.058 ล้าน
นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรโทเค็น 15% ของอุปทานทั้งหมดไว้สำหรับการตลาดและอีก 15% ไว้สำหรับเป็นรางวัลชุมชน โดยวางแผนหลังลิสต์เหรียญลง Decentralized Exchange เอาไว้แล้วเรียบร้อย ซึ่งของรางวัลเหล่านี้ ได้แก่ การแจก Airdrop และการแจกเหรียญไว้เป็นรางวัลที่ถือเหรียญเอาไว้
หลังจากช่วงพรีเซลล์ โทเค็น $THUG ก็จะถูกลิสต์ลงบน Decentralized Exchange โดยเพื่อรักษาความมั่นคงของราคาและเพื่อให้เติบโตได้ในระยะยาว ทางโปรเจกต์ก็ได้ตัดสินใจล็อกกองรางวัลไว้ในช่วง 3 เดือนแรกหลังเปิดเทรดบนกระดาน
สิ่งสำคัญคือทีมที่อยู่เบื้องหลังโทเค็น Thug Life ไม่ได้จัดสรรให้ตัวเอง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการหลอกลวงหรือ Rug Pull ลงไปอีกด้วย
ผู้ซื้อสามารถเข้าร่วมช่อง Thug Life Telegram เพื่อรับข้อมูลอัพเดตล่าสุด
เพดานเงินทุน | $2,058,000 |
โทเค็นทั้งหมด | 4.2 พันล้าน |
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์ | 2.94 พันล้าน |
Blockchain | เครือข่าย Ethereum |
ประเภทโทเค็น | ERC-20 |
ซื้อขั้นต่ำ | ไม่มี |
วิธีการชำระเงิน | USDT, ETH |
3. เข้าร่วมกลุ่มติดตามสัญญาณซื้อขาย – รับคำแนะนำและแนวทางการเทรดคริปโตแบบเรียลไทม์
เคล็ดลับการลงทุนคริปโตข้อต่อไปที่ควรพิจารณาในปี 2024 คือ การเข้าร่วมกลุ่มติดตามสัญญาณซื้อขายคริปโต สำหรับผู้ที่ไม่รู้จัก สัญญาณซื้อขายคริปโตที่ดีที่สุด คือกลุ่มที่จะมีคำแนะนำจากเทรดเดอร์มากประสบการณ์ และบอกว่าเราควรลงทุนคริปโตตอนไหน ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจแนะนำให้ซื้อ Ethereum ที่ 1,400 ดอลลาร์และถือยาว
นอกจากนี้ สัญญาณเทรดจะแนะนำการ stop-loss และ take-profit เพื่อให้แน่ใจว่าสมาชิกสามารถเข้าซื้อเหรียญที่ต้องการและเข้าสู่การเทรดที่ต้องการได้ จากมุมมองของนักลงทุน สัญญาณเทรดเหล่านี้เป็นการเทรดคริปโตกึ่งพาสซีฟ เนื่องจากมีคนช่วยวิเคราะห์เทคนิคพื้นฐานให้แล้ว
หนึ่งในผู้ให้บริการที่ดีที่สุดในตลาด คือ CryptoSignals.org ผู้ให้บริการรายนี้ มีทีมนักวิเคราะห์ภายในที่ศึกษาตลาดคริปโตตลอดเวลา ด้วยการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการวิเคราะห์พื้นฐานระดับสูง ทำให้ CryptoSignals.org สามารถทำกำไรและสร้างโอกาสการซื้อขายแบบ swing trading ให้แก่สมาชิกได้
CryptoSignals.org มีให้เลือกใช้งานทั้งแบบฟรีและแบบ VIP ทั้งสองตัวเลือกจะให้สมาชิกเลือกคู่สกุลเงินดิจิทัล ที่ต้องการถือยาวหรือเทรดระยะสั้น นอกจากนี้ยังแนะนำจุด entry, stop-loss หรือ take-profit อย่างไรก็ตาม สมาชิกฟรีในกลุ่ม Telegram จะได้รับเพียง 3 สัญญาณต่อสัปดาห์ แต่สมาชิกวีไอพีจะได้รับ 2-3 สัญญาณต่อวัน
สมาชิกวีไอพีของ CryptoSignals.org จะต้องจ่ายค่าสมาชิก 42 ปอนด์ต่อเดือน และการสมัครแผนระยะยาวจะคุ้มกว่า ทั้งนี้ ลูกค้าใหม่ทุกคนสามารถยกเลิกการสมัครและขอเงินคืนได้ภายใน 30 วัน หากการบริการไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ให้นักลงทุนสามารถทดลองใช้ CryptoSignals.org ได้ก่อนสมัครสมาชิก
4. ใช้เครื่องมือ Copy Trading – เทรดคริปโตให้ได้กำไรโดยการเลียนแบบนักลงทุนที่มีประสบการณ์
การเทรดคริปโตเกิดขึ้นทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น จึงมีโอกาสมากมายในการสร้างผลกำไร นอกจากนี้ ยังมีตลาดหลายพันแห่งในโลกคริปโตที่ดึงดูดสภาพคล่องได้อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการเทรดคริปโตตลอดเวลา และทำกำไรอย่างสม่ำเสมอไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ท้ายที่สุด นักลงทุนจำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค นอกเหนือจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ และเครื่องมือวาดแผนภูมิ ยังมีฟีเจอร์ Copy Trading ของ eToro สามารถช่วยได้ ซึ่งฟีเจอร์นี้ให้นักลงทุนทุกงบประมาณ สามารถ ‘คัดลอก’ การซื้อและขายจากการเทรดรายวันของนักลงทุนที่มีประสบการณ์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่ได้ผลดี
หลังจากยืนยันแล้ว ตำแหน่งการซื้อและขายทั้งหมดจะถูกคัดลอกไปยังบัญชีผู้ใช้งาน eToro โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นไปตามสัดส่วนของขนาดการลงทุน ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้งาน eToro ตัดสินใจลงทุนขั้นต่ำ 200 ดอลลาร์ เพื่อเลียนแบบนักลงทุนที่เลือกไว้ ซึ่งนักลงทุนท่านนั้นได้ลงทุนในเหรียญ Shiba Inu 30 %
ผู้ใช้งาน eToro จะได้รับโทเค็น Shiba Inu มูลค่า 60 ดอลลาร์ (30% ของการลงทุน 200 ดอลลาร์) ในพอร์ตของเขาโดยอัตโนมัติ และไม่กี่สัปดาห์ต่อมา ถ้าราคาของ Shiba Inu เพิ่มขึ้น 400% ผู้ใช้งาน eToro สามารถขายเหรียญ ซึ่งหมายความว่าการที่เขาใช้เงินทุน 60 ดอลลาร์ จะสร้างรายได้ได้ถึง 240 ดอลลาร์จากการเทรดแบบพาสซีฟนี้
คีย์เวิร์ดสำคัญคือ ‘พาสซีฟ’ เนื่องจากฟีเจอร์ Copy Trading ของ eToro นักลงทุนไม่จำเป็นต้องทำการศึกษาหรือวางคำสั่งซื้อใด ๆ นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ควรทราบ คือ นักลงทุนต้นแบบบน eToro ผ่านการตรวจสอบแล้วทั้งหมด สามารถจะคัดลอกการเทรดคริปโตได้จริงด้วยเงินทุนของท่านเอง สิ่งนี้ช่วยลดความเสี่ยงให้นักลงทุนที่มักจะตัดสินใจลงทุนโดยประมาท
eToro เป็นโบรกเกอร์ซื้อขายหลักทรัพย์ที่ได้รับการควบคุม ซึ่งได้รับอนุญาตจาก SEC, ASIC, CySEC และ FCA แพลตฟอร์มนี้รองรับการฝากเงินในสกุลดอลลาร์สหรัฐโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ผ่าน e-wallets การโอนเงินผ่านธนาคาร และบัตรเดบิต/บัตรเครดิต ที่มีนักลงทุนที่ผ่านการตรวจสอบแล้วหลายพันรายให้เลือกใช้บริการ และไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากเครื่องมือ Copy Trading แต่อย่างใด
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
5. DeFi Yield Farming – สร้างรายได้แบบพาสซีฟในกองทุนสภาพคล่อง
หนึ่งในเคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการรายได้แบบพาสซีฟ คือ DeFi Yield Farming แม้ว่าการทำฟาร์มเหรียญที่ให้ผลตอบแทนอาจดูค่อนข้างซับซ้อนในตอนแรก แต่เมื่อนักลงทุนเข้าใจพื้นฐานแล้วจะทราบว่า การทำฟาร์มเหรียญที่ให้ผลตอบแทนเป็นการออมคริปโต ที่ช่วยให้นักลงทุนคนอื่น ๆ เข้ามายืมคริปโตบน decentralized exchange ได้
โทเค็นคริปโตจะถูกนำไปใช้บนกระดานแลกเปลี่ยนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนสามารถแลกเปลี่ยนคริปโตบนกระดานแลกเปลี่ยนโดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ขายปลายทาง การแลกเปลี่ยนนี้มาจากการสะสมโทเค็นใน liquidity pools (กองทุนเพื่อสภาพคล่อง) จากนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทน
เห็นได้ชัดว่า มีแรงจูงใจทางการเงินจาก Yield Farming เพราะท้ายที่สุดแล้ว นักลงทุนจะไม่ให้บุคคลที่สามยืมโทเค็นของตนหากไม่ได้รับผลตอบแทนทางการเงิน สิ่งนี้จะช่วยให้นักลงทุนสร้างรายได้แบบพาสซีฟจากโทเค็นที่พวกเขาให้ยืม หรือเป็นการฝากคริปโตรับดอกเบี้ยที่จัดการโดยกระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized
สิ่งสำคัญคือ ต้องทราบด้วยว่าการทำฟาร์มเหรียญที่ให้ผลตอบแทน ต้องใช้คู่สกุลเงินเฉพาะ ตัวอย่างเช่น เหรียญ BNB/BUSD ก็จะต้องมีจำนวนเงินที่เท่ากันของแต่ละโทเค็น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถสลับ BNB เป็น BUSD หรือ BUSD เป็น BNB ได้ โดยไม่ต้องผ่านการซื้อขายแบบ centralized
หนึ่งในกระดานแลกเปลี่ยนแบบ decentralized ที่ดีที่สุดในการทำฟาร์มคือ DeFi Swap กระดานแลกเปลี่ยนนี้เสนอส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมการเทรดคริปโต และนักลงทุนสามารถถอนโทเค็นของตนได้ตลอดเวลา ในฐานะผู้ให้บริการแบบ decentralized ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนบัญชีกับ DeFi Swap หรือให้รายละเอียดส่วนบุคคลใด ๆ และการทำฟาร์มเหรียญนี้สามารถเข้าถึงได้เพียงแค่เชื่อมต่อกระเป๋าเงิน
หมายเหตุ: DeFi Coin (DEFC) เป็นโทเค็นหลักบนกระดานแลกเปลี่ยน DeFi Swap อ่านเพิ่มเติมว่าทำไม DEFC อาจเป็นหนึ่งในเหรียญ DeFi ที่ดีที่สุดในการลงทุน
6. ใช้กลยุทธ์ Buy the Dip – ลงทุนในเหรียญคริปโตชั้นนำตอนที่ราคาตก
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ้น, ETF, ทอง หรือคริปโต ก็คือช่วงตลาดเป็นขาลง เหตุผลก็คือ ตลาดขาลงให้คุณสามารถซื้อสินทรัพย์ได้ในราคาลดพิเศษ ยกตัวอย่างเช่น ตลาดคริปโตที่ซบเซาในปัจจุบัน
หลังจากช่วงที่ตลาดคริปโตเติบโตสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2021 สินทรัพย์คริปโตเกือบทั้งหมดค่อย ๆ มีมูลค่าลดลงเป็นอย่างมาก โทเค็นขนาดใหญ่เช่น บิทคอยน์ และ Ethereum มีมูลค่าซื้อขายลดลง 70% เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่เกือบ 69,000 ดอลลาร์ และ 5,000 ดอลลาร์ ตามลำดับ
เหรียญคริปโตขนาดกลางก็มีราคาลดลงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Decentraland, Sandbox, Axie Infinity และอื่น ๆ อีกมากมายที่ซื้อขายในราคาที่ลดลง 80-90% จากราคาสูงสุดครั้งก่อน ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถซื้อสินทรัพย์คริปโตที่ต้องการได้ในราคาถูกมาก และคาดหวังว่าตลาดจะฟื้นตัวในอนาคต
ตัวอย่างเช่น สมมติว่านักลงทุนเลือกซื้อ BNB ซึ่งแตะระดับต่ำสุดในปี 2022 ที่ 184 ดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับระดับสูงสุดที่ 669 ดอลลาร์ นั่นหมายความว่านักลงทุนสามารถซื้อโทเค็น BNB เข้าพอร์ตการลงทุนโดยได้รับส่วนลดถึง 72% และหากราคา BNB กลับไปที่ระดับ 669 ดอลลาร์ในช่วงตลาดขาขึ้นครั้งต่อไป เท่ากับคุณได้กำไรมากกว่า 260%
เพชรเม็ดเล็กที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ให้คุณค่าที่มากขึ้นไปกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น Lucky Block แพลตฟอร์มจับรางวัล NFT ซึ่งมีโทเค็น LBLOCK ที่ราคาลดลง 95% จากราคาสูงสุดที่ 0.09 ดอลลาร์ ตลาดที่ซบเซาลงในปัจจุบัน จะช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อโทเค็นยอดนิยมอย่าง LBLOCK ได้ในราคาที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก
ผู้ที่ต้องการซื้อสินทรัพย์คริปโตในราคาที่ลดลง สามารถซื้อที่ eToro ในราคาขั้นต่ำเพียง 10 ดอลลาร์ต่อการซื้อขาย
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
7. การเทรดคริปโต CFD – การเทรดคริปโตที่มีเลเวอเรจด้วยการขายชอร์ต
หนึ่งในเคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ คือ การเทรดด้วย CFD หรือสัญญาการซื้อขายส่วนต่าง ซึ่งเป็นตราสารอนุพันธ์ที่แสดงมูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลแบบเรียลไทม์ ไม่เหมือนกับ Bitmex, Bybit และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ในตลาดนี้ โดยโบรกเกอร์ CFD เป็นหน่วยงานที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด
ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะมั่นใจได้ว่า พวกเขากำลังเก็งกำไรในตลาด คริปโตที่ปลอดภัยและมีใบอนุญาต เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมนี้ Capital.com เป็นแพลตฟอร์มการเทรด CFD ชั้นนำและรองรับคู่เงินดิจิทัลเกือบ 500 คู่ ซึ่งสามารถเทรดได้โดยไม่มีค่าคอมมิชชั่น และลูกค้าที่มีสิทธิเทรดคริปโตด้วยเลเวอเรจได้
ข้อกำหนดเลเวอเรจจะขึ้นอยู่กับการเทรดแต่ละประเทศ ตามระเบียบตราสารอนุพันธ์ CFD ไม่เพียงแค่นั้น แพลตฟอร์ม Capital.com ยังให้นักลงทุนสามารถซื้อหรือขายในตลาดคริปโตที่ต้องการได้ ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถเทรดคริปโตให้ได้กำไรแม้อยู่ในตลาดซบเซา
โปรดทราบว่า CFD ไม่สามารถซื้อขายได้ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ crypto-centric CFD ก็ไม่สามารถซื้อขายในสหราชอาณาจักรได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ประเทศอื่น ๆ ยังสามารถใช้ CFD ได้
80.61% ของบัญชีนักลงทุนรายย่อยขาดทุนเมื่อทำการเทรด CFD กับ Capital.com
8. ซื้อที่ดินใน Metaverse – กระจายความเสี่ยงใน Metaverse Land
metaverse เป็นหนึ่งในการลงทุนคริปโตที่ร้อนแรงที่สุดบนเทคโนโลยีบล็อกเชน อันที่จริงปรากฏการณ์นี้ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงการลงทุนแบบดั้งเดิมแล้ว เห็นได้จากการที่ Facebook เพิ่งเปลี่ยนชื่อเป็น Meta Platforms ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้นำในแวดวงโซเชียลมีเดีย เริ่มลงทุนใน metaverse ไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม metaverse ในปัจจุบันถูกใช้โดยแพลตฟอร์ม crypto-centric ไม่กี่โครงการ นั่นคือ Decentraland และ Sandbox โครงการดังกล่าวเป็นโลก metaverse ที่สามารถเข้าถึงได้จากทั่วมุมโลก เพียงแค่เชื่อมต่อ Crypto Wallet กับแพลตฟอร์ม ผู้ใช้งานสามารถสร้างตัวละครส่วนตัว และสำรวจระบบนิเวศ metaverse ที่เกี่ยวข้องได้
ยิ่งไปกว่านั้น ทั้ง Decentraland และ Sandbox ให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อที่ดิน NFT เสมือนจริง ซึ่งเป็นเจ้าของได้ 100% โดยที่ดินแต่ละที่จะได้รับการรักษาความปลอดภัยโดย NFT ที่ทำงานบนเครือข่ายบล็อคเชน เพื่อให้เห็นภาพความยิ่งใหญ่ของพื้นที่อสังหาริมทรัพย์บน metaverse ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ให้นึกดูว่าที่ดินหลายแปลงถูกขายไปแล้วในราคาเจ็ดหลัก
ตัวอย่างเช่น ในช่วงปลายปี 2021 มีรายงานว่า บริษัทที่ชื่อ Republic Realm ซื้อที่ดินเสมือนจริงที่มีมูลค่ากว่า 4.3 ล้านดอลลาร์ใน Sandbox และ Republic Realm ยังวางแผนที่จะสร้างเกาะ 100 แห่งภายใน Sandbox metaverse เนื่องด้วยตลาดซบเซาในปัจจุบัน ทำให้ที่ดินเสมือนจริงทั้งใน Decentraland และ Sandbox พร้อมขายในราคาที่ถูกลงมาก
หมายเหตุ: การซื้อที่ดินเสมือนจริงบน metaverse นักลงทุนจะต้องเข้าถึงเหรียญ metaverse ที่ดีที่สุดก่อน เช่น MANA (Decentraland), SAND (The Sandbox) และ AXS (Axie Infinity) ซึ่งสามารถซื้อได้ที่ eToro ในราคาเริ่มต้นเพียง 10 ดอลลาร์
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
9. จัดการความเสี่ยง – ลงทุนคริปโตภายใต้การบริหารความเสี่ยง
หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของการลงทุนคริปโตครั้งแรก คือ การที่นักลงทุนไม่ทำตามหลักการบริหารความเสี่ยงขั้นพื้นฐาน ดังนั้น หนึ่งในเคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ ก็คือการใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง ซึ่งขั้นแรกจะต้องประเมินว่าจะใช้กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว
ผู้ที่เลือกใช้กลยุทธ์ระยะยาว ควรเลือกการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน ซึ่งหมายความว่าแทนที่จะลงเงินก้อนโตก้อนเดียวให้กับคริปโตเหรียญใดเหรียญหนึ่ง ให้เปลี่ยนมาเป็นการลงทุนในจำนวนที่น้อยลง แต่บ่อยครั้ง ตัวอย่างเช่น อาจลงทุน 200 ดอลลาร์ในทุกสิ้นเดือน นอกจากนี้ นักลงทุนระยะยาวควรตรวจสอบด้วยว่า พอร์ตการลงทุนคริปโตของพวกเขามีการกระจายความเสี่ยงในหลาย ๆ เหรียญ
ผู้ที่ต้องการเทรดคริปโตให้ได้กำไรในระยะสั้น โดยใช้ประโยชน์จากสภาวะตลาดที่ผันผวน ควรมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการเงินทุนอย่างดี สิ่งนี้จะช่วยกำหนดวงเงินการ stake สูงสุดในการเทรดคริปโต ตามสัดส่วนของเงินลงทุนทั้งหมด และนักลงทุนระยะสั้นควรรู้จักการใช้งานคำสั่ง stop-loss และ take-profit อีกด้วย
สินทรัพย์คริปโตเป็นผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีความผันผวนสูง เงินทุนของคุณมีความเสี่ยง
10. ฝากคริปโตรับดอกเบี้ย – ฝากโทเค็นคริปโตที่ไม่ได้ใช้งานเพื่อสร้างรายได้แบบพาสซีฟ
ตัวเลือกสุดท้ายที่ควรพิจารณาใน 10 เคล็ดลับการลงทุนคริปโตยอดนิยม คือ การเปิดบัญชีฝากคริปโตรับดอกเบี้ยที่มีความเฉพาะเจาะ คอนเซปต์นี้เป็นการฝากโทเค็นในแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม เพื่อนำไปใช้ในการกู้ยืม และแน่นอนว่าผู้ที่ยืมโทเค็นก็จะต้องจ่ายดอกเบี้ยเป็นค่าตอบแทน
ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนสามารถสร้างรายได้แบบพาสซีพด้วยการออมคริปโต ซึ่งดีกว่าการปล่อยทิ้งไว้เฉย ๆ ในกระเป๋าเงินส่วนตัว หนึ่งในผู้ให้บริการบัญชีคริปโตที่น่าสนใจที่สุด คือ Crypto.com ทั้งในแง่ของความปลอดภัยและผลตอบแทน โดยที่ Crypto.com สามารถให้ผลตอบแทนต่อปีสูงถึง 14.5%
นักลงทุนสามารถรับดอกเบี้ยจาก Stablecoin เพื่อลดความผันผวน โดยสามารถสร้างรายได้สูงถึง 8.5% ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม บัญชีดอกเบี้ยที่รองรับทั้งหมดมี 3 ทางเลือก โดยอัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุดต้องมีระยะเวลาการฝากขั้นต่ำ 3 เดือน นอกจากนี้ ยังมีบัญชีการฝาก 1 เดือน เพิ่มเติมจากแผนที่ยืดหยุ่น โดยไม่มีข้อจำกัดในการถอน
Crypto.com จะจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นการฝากคริปโตรับดอกเบี้ยแบบทบต้น และสามารถรับรางวัลเพิ่มเติมได้ถ้า staking โทเค็น CRO ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในระบบนิเวศของ Crypto.com
บทสรุป
คู่มือนี้ได้กล่าวถึง 10 เคล็ดลับการลงทุนคริปโตที่ดีที่สุด เพื่อใช้ประโยชน์จากตลาดซบเซาในปัจจุบันได้อย่างเต็มที่
เคล็ดลับการลงทุนคริปโตอันดับต้น ๆ ของเรา มีทั้งการค้นหาเหรียญที่ขายพรีเซล การเข้าร่วมติดตามสัญญาณซื้อขาย และการสร้างรายได้แบบพาสซีฟผ่านการทำฟาร์มผลตอบแทน
เรายังพูดถึงประโยชน์จากการติดตามนักวิเคราะห์ชื่อดัง Jacob Bury ในช่อง Discord เพื่อศึกษาเหรียญคริปโตที่โดดเด่น การลงทุนในเหรียญ ICO คริปโต และการขายพรีเซลที่กำลังจะเกิดขึ้น