Crypto ETF คือโอกาสทำกำไรจากเหรียญคริปโตด้วยเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่ง ETF ส่วนใหญ่ในตลาดได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ส แต่ว่ากองทุนหลายแห่งที่อยู่นอกสหรัฐอเมริกาสนับสนุน Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่นๆ
ในบทความนี้เราจะรีวิว 10 ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ ราคาถูก ศักยภาพสูง และปัจจัยอื่นๆ
จัดอันดับ 10 ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด 2024 – ลิสต์อันดับ Crypto ETF
ลิสต์ด้านล่างคือ 10 อันดับ ETF คริปโตเคอเรนซี่ที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้
- Bitcoin ETF Token (BTCETF) – ETF เหรียญคริปโต ทางเลือกที่มาพร้อมกับสิทธิประโยชน์ทุกด้าน และมีข้อเสียเพียงเล็กน้อยจากการลงทุนโดยตรง ผลตอบแทนต่อปีอยู่ที่ 11,500% พร้อมราคาในช่วงพรีเซลล์ที่ถูกลง และมียูทิลิตี้ที่มีคุณค่าในโลกจริง
- ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) – ETF คริปโตมูลค่าสูงที่สุด
- Bitwise Crypto Industry Innovators ETF (BITQ) – ทำกำไรจากหุ้นคริปโต
- ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) – กระจายการลงทุนใน Bitcoin และสินทรัพย์มาใหม่มากมาย
- Fidelity Advantage Bitcoin ETF (FBTC) – ทางเลือกกองทุนรวมที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin
- Grayscale Bitcoin Trust (BTC) – Bitcoin ETF ที่เน้นนักลงทุนรายใหญ่
- ProShares Short Bitcoin Strategy ETF (BITI) – Bitcoin ETF สำหรับการขายชอร์ตเหรียญคริปโต
- 21Shares Ethereum ETP (AETH) – ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนใน Ethereum
- Siren Nasdaq NexGen Economy ETF (BLCN) – กองทุนระยะยาวเพื่อติดตามดัชนี NASDAQ Blockchain Economy
- Cryptos by Market Cap Smart Portfolio – ลงทุนใน 20 เหรียญคริปโตชั้นนำจากมูลค่าตลาด
อ่านต่อเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกองทุนข้างต้นในลิสต์ Crypto ETF ด้านบน
เจาะลึกกับ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด
Crypto ETF ช่วยให้นักลงทุนทำกำไรจาก Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ผ่านบัญชีโบรกเกอร์แบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนไม่จำเป็นต้องใช้งานกระดานเทรดคริปโต เพื่อเก็งกำไรมูลค่าในอนาคตของเหรียญคริปโต
ด้านล่างนี้เราจะรีวิวและวิเคราะห์ผู้ให้บริการ Crypto ETF ที่ดีที่สุด 10 อันดับแรกในตลาดตอนนี้
1. Bitcoin ETF Token (BTCETF) – ETF เหรียญคริปโตทางเลือก พร้อมผลตอบแทนต่อปีที่สูงและการเผาโทเค็นทิ้งแบบเชิงรุก
Bitcoin ETF Token (BTCETF) เป็น ETF เหรียญคริปโตที่น่าซื้อ และอาจสามารถทำกำไรได้มากขึ้น เป็นโปรเจกต์ที่อิงมาจากการอนุมัติ Bitcoin ETF และอาจได้รับประโยชน์จากการเชื่อมโยงหากทาง ก.ล.ต. อนุมัติ ETF ดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
การอนุมัติ ETF เหรียญคริปโตถูกคาดการณ์ว่าจะส่งผลดีต่อราคาและปริมาณการซื้อขายในอุตสาหกรรมคริปโตเป็นวงกว้าง
Bitcoin ETF Token มีแผนการพัฒนาที่ทะเยอทะยานและนโยบายการเผาโทเค็นทิ้งแบบเชิงรุก โดยจะมีการเสียภาษีการเผาเหรียญที่ 5% ในแต่ละธุรกรรม ซึ่งจะลดลงเหลือ 4% เมื่อโทเค็นหลักมีปริมาณการซื้อขายถึง 100 ล้านดอลลาร์ และจะลดลงเหลือ 3% เมื่อ ก.ล.ต. อนุมัติ ETF เหรียญคริปโต โดยภาษีจะลดลงเหลือ 2% เมื่อ ETF เปิดให้เทรดอย่างเป็นทางการ และจะลดลงเหลือ 1% เมื่อ AUM รวมของ Bitcoin ETF ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสุดท้ายจะเหลือ 0% หาก BTC มีมูลค่าแตะที่ 100,000 ดอลลาร์
โดยรวมแล้ว 25% ของการจัดสรรโทเค็น 2.1 พันล้านโทเค็นถูกกำหนดไว้สำหรับการเผาทิ้งไป ซึ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูง ส่วนที่เหลือ 40% เปิดขายในช่วงพรีเซลล์ 25% ใช้ในการ Staking และ 10% ใช้เป็นสภาพคล่อง นี่คือพรีเซลล์แบบ 10 รอบโดยจะมีราคาเพิ่มขึ้นในแต่ละรอบ ซึ่งในรอบที่ 1 ราคาจะอยู่ที่ 0.005 ดอลลาร์ แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเป็น 0.0068 ดอลลาร์ในช่วงสุดท้ายก็ตาม
นอกเหนือจากนโยบายการเผาโทเค็นแบบเชิงรุกเพื่อส่งเสริมให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้นและการปรับราคาพรีเซลล์เพิ่มขึ้นในแต่ละรอบแล้ว แคมเปญนี้ยังเสนอผลตอบแทนต่อปี 11,500% ในปัจจุบัน ดังนั้นจึงถือเป็นแรงจูงใจที่ชัดเจนสำหรับการลงทุนที่ไม่สามารถทำได้แบบ ETF เหรียญคริปโต และนอกเหนือจากสิ่งจูงใจเหล่านี้แล้ว เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว โปรเจกต์นี้ก็อาจมีมูลค่ามากขึ้นแบบทวีคูณ โดยนักวิเคราะห์บางคนยังระบุว่านี่อาจเป็นเหรียญที่จะเติบโตได้อีก 10 เท่าเลยทีเดียว
อีกทั้งโปรเจกต์ยังได้รับการตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะจากบุคคลที่สามอย่าง Coinsult ซึ่งก็ไม่พบไม่มีปัญหาระดับปานกลางหรือมีความเสี่ยงสูงอยู่ภายในโค้ดแต่อย่างใด
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bitcoin ETF ทางเลือก คุณสามารถอ่าน Whitepaper และเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ได้ที่นี่
นี่อาจเป็นเหรียญที่สมบูรณ์แบบที่ควรถือเอาไว้สำหรับใครที่คาดว่า ETF เหรียญคริปโตจะได้รับการอนุมัติในอีกไม่ช้า
เพดานเงินทุน | $4.956 ล้าน |
โทเค็นทั้งหมด | 2.1 พันล้าน |
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์ | 840 ล้าน |
Blockchain | เครือข่าย Ethereum |
ประเภทโทเค็น | ERC-20 |
ซื้อขั้นต่ำ | ไม่มี |
ซื้อด้วย | USDT, ETH, BNB, MATIC, บัตรเครดิต |
2. ProShares Bitcoin Strategy ETF (BITO) – ETF คริปโตมูลค่าสูงที่สุด
ใครที่กำลังมองหา ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดอาจต้องการพิจารณา ProShares Bitcoin Strategy ซึ่งเป็นกองทุนที่สามารถทำกำไรจากการขึ้นและลงของราคา Bitcoin โดยตรง และเป็นกองทุนแรกที่ได้รับการอนุมัติในตลาดสหรัฐฯ
แม้กองทุนจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากเหรียญคริปโต แต่ ProShares จะซื้อและขายฟิวเจอร์ส Bitcoin เพื่ออิงตามประสิทธิภาพของราคาสินทรัพย์ดิจิทัลให้มากที่สุด
กองทุนบรรลุเป้าหมายนี้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในเดือนตุลาคม 2021 ในช่วง 12 เดือน ราคา ProShares Bitcoin Strategy ETF ลดลง 68% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาสปอตของ Bitcoin ที่ลดลง 66% โดยกองทุนจะคิดอัตราส่วนค่าใช้จ่าย 0.95% และ ETF ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ทำให้ซื้อขายได้อย่างง่ายดาย
3. Bitwise Crypto Industry Innovators ETF (BITQ) – ทำกำไรจากหุ้นเหรียญคริปโต
สำหรับใครที่ต้องการทำกำไรจากหุ้นคริปโต เราก็ขอแนะนำ Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ซึ่งจะลงทุนในบริษัทมหาชนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเติบโตของเหรียญคริปโตหรือเทคโนโลยี Blockchain
กองทุนนี้ถือหุ้น 29 หุ้นและมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงที่ 0.85% การถือครองที่มูลค่าสูงที่สุดของ Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ได้แก่ Microstrategy และ Coinbase ซึ่งคิดเป็น 14.28% และ 12.28% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีการถือครองใน Silvergate Capital, Hut 8 Mining, Marathon Digital, Riot Blockchain และ Galaxy Digital Holdings อีกด้วย
สิ่งสำคัญคือกองทุนข้างต้นยังมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมเหรียญคริปโต ซึ่งกองทุนนี้ไม่ได้ให้ทำกำไรได้โดยตรงต่อราคาเหรียญคริปโตเพียงเท่านั้น แต่มูลค่าของหุ้นแต่ละหุ้นจะสะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจ เช่น รายได้ รายได้จากการดำเนินงาน และราคาหุ้นต่อกำไรเช่นกัน
4. ARK Next Generation Internet ETF (ARKW) – กระจายการเข้าถึง Bitcoin และสินทรัพย์มาใหม่มากมาย
อีกหนึ่ง ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดที่ควรพิจารณาคือ ARK Next Generation Internet ซึ่งมุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์
การถือครองที่ใหญ่ที่สุดของ ETF นี้คือ Tesla และ Zoom Video Communications ซึ่งมากกว่า 8% ต่อบริษัท โดยถือ Coinbase ที่ 7% และ Block ที่ 6% ในพอร์ตการลงทุน ARK Next Generation Internet ETF ยังถือสถานะ 5.6% ใน Greyscale Bitcoin Trust ส่วนกองทุน ETF อื่นๆ ได้แก่ Roku, Shopify และ Twilio
ด้วยตลาดหุ้นเทคโนโลยีเป็นช่วงขาลงตลอดทั้งปี 2022 ทำให้ Crypto ETF นี้ขาดทุนทั้ง 12 เดือน ณ ขณะเขียนกว่า 66% แต่เมื่อตอนก่อตั้งกองทุนในปี 2014 กองทุน ARK ได้สร้างผลกำไรไปถึง 180%
5. Fidelity Advantage Bitcoin ETF (FBTC) – ทางเลือกกองทุนรวมที่ลงทุนโดยตรงใน Bitcoin
Fidelity Advantage Bitcoin ETF มุ่งเน้นไปที่นักลงทุนสถาบันซึ่งเป็นการลงทุนในโทเค็น BTC โดยตรง โดยกองทุนถือ Bitcoin ไว้ถึง 99.8% ทำให้มูลค่าของเหรียญจึงสัมพันธ์กับราคาสปอตทั่วโลก Fidelity เป็นกองทุนที่ค่อนข้างเล็ก โดยมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการเพียง 23.5 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
นอกจากนี้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายของกองทุนสูงถึง 0.96% ซึ่งเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการลงทุนใน Bitcoin ในระยะยาวโดยไม่ผ่านกระดานเทรด ซึ่งจะแจกจ่ายปันผลเป็นประจำทุกปี และกองทุนจะซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ Toronto ทำให้ Fidelity Advantage Bitcoin ETF จะกำหนดราคาโดยอิงตามดอลลาร์แคนาดานั่นเอง
6. Grayscale Bitcoin Trust (BTC) – Bitcoin ETF ที่เน้นนักลงทุนรายใหญ่
Greyscale Bitcoin Trust เปิดตัวในปี 2013 และเป็น ETF คริปโตที่ยืนยาวที่สุดในตลาด ทั้งยังสร้างผลตอบแทนไปมากกว่า 13,000% นับตั้งแต่ก่อตั้งกองทุน แต่ในระยะเวลา 12 เดือน มูลค่าของกองทุนได้ลดลง 75% ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงที่ตลาดคริปโตซบเซา
แม้ว่า Greyscale Bitcoin Trust จะเป็นหนึ่งใน ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุด แต่ก็มีสิ่งสำคัญสองข้อที่ต้องพิจารณาก่อน ข้อแรก ETF นี้มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อปีสูงถึง 2% และข้อสอง การลงทุนขั้นต่ำใน Crypto ETF นี้คือ $50,000
ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ต้องการลงทุนอาจพบว่า Greyscale Bitcoin Trust มีราคาที่ไกลเกินเอื้อม โดยอีกปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือ Greyscale Bitcoin Trust ซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะเข้าถึงได้ยากสำหรับนักเทรดทั่วไปนั่นเอง
7. ProShares Short Bitcoin Strategy ETF (BITI) – Bitcoin ETF สำหรับการขายชอร์ตเหรียญคริปโต
ผู้ที่ต้องการขายชอร์ตเหรียญคริปโต ควรพิจารณา Bitcoin Strategy ซึ่งเป็น ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในจุดประสงค์ดังกล่าว โดยกองทุนนี้จะให้นักลงทุนทำกำไรได้เมื่อราคา Bitcoin ลดลง ผ่านการซื้อขายฟิวเจอร์ส Bitcoin บนตลาด CME
ที่สำคัญ Crypto ETF มาใหม่นี้ทำให้การขายชอร์ต Bitcoin ราบรื่นและคุ้มค่ามากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องจัดการกับตัวเลือกลงทุนทางการเงินทั่วไป ซึ่งจะไม่เหมือนกับกับการขายชอร์ตฟิวเจอร์ส Bitcoin โดยตรง และกองทุนจะไม่ทำให้นักลงทุนเสียเงินมากกว่าเงินที่ลงทุนไปในตอนแรก
อย่างไรก็ตาม ProShares Short Bitcoin Strategy ETF ไม่เหมาะสำหรับกลยุทธ์การขายชอร์ตในระยะยาว แต่ Crypto ETF นี้จะเน้นไปที่เทรดเดอร์ที่ต้องการเข้าและออกจากสถานะในระยะสั้น ดังที่เห็นได้ว่าราคา ETF นี้ลดลง 9% ในช่วง 12 เดือน แม้ว่าตลาดสปอต Bitcoin จะลดลง 66% ในช่วงเวลาเดียวกันก็ตาม
8. 21Shares Ethereum ETP (AETH) – ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนใน Ethereum
ETF ส่วนใหญ่ที่เรารีวิวล้วนมุ่งเน้นไปที่ Bitcoin ETF เพียงอย่างเดียว แต่การลงทุนใน Ethereum ก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน โดย 21Shares Ethereum ETP อาจเป็น ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในจุดประสงค์นี้ ซึ่งถูกลิสต์ในยุโรปและได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญ Ethereum
หมายความว่ามูลค่าของกองทุนจะสอดคล้องกับราคาสปอต Ethereum ทั่วโลก โดยทางผู้ให้บริการกองทุนระบุว่า 100% ของบมูลค่าถูกเก็บไว้ในโทเค็น ETH และ Cold Wallet โดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายของ 1Shares Ethereum ETP คือ 1.49% ซึ่งก็ถือว่าแพงเช่นกัน
แต่กองทุนมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารมูลค่ามากกว่า 213 ล้านดอลลาร์ ณ ตอนนี้ แม้มูลค่ากองทุน Ethereum นี้จะลดลง 65% ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2022 แต่ในปี 2020 และปี 2021 กองทุนก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 442% และ 397% ตามลำดับ
9. Siren Nasdaq NexGen Economy ETF (BLCN) – กองทุนระยะยาวเพื่อติดตามดัชนี NASDAQ Blockchain Economy
อีกหนึ่ง ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดของเราคือ Siren Nasdaq NexGen Economy ซึ่งมีจุดประสงค์ในการติดตามประสิทธิภาพของดัชนี NASDAQ Blockchain Economy ซึ่งหมายความว่าพอร์ตการลงทุนจะประกอบไปด้วยหุ้น Crypto ETF ที่หลากหลายซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงหรือโดยอ้อมในการเติบโตของสินทรัพย์ Blockchain และเหรียญคริปโต
ในขณะที่เขียน การถือครองสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดใน ETF นี้ ได้แก่ JPMorgan Chase, GMO Internet Group, SAP, IBM, Oracle, MasterCard และ Paypal เมื่อคำนึงถึงสิ่งนี้ ETF ดัชนีคริปโตนี้จึงน่าจะเหมาะสำหรับนักลงทุนเชิงอนุรักษนิยมที่ไม่ต้องการสร้างผลกำไรหลักจากเหรียญคริปโตนั่นเอง
10. Cryptos by Market Cap Smart Portfolio – ลงทุนใน 20 เหรียญคริปโตจากการประเมินมูลค่าตลาด
ตัวเลือกสุดท้ายที่ควรพิจารณาคือ ‘Cryptos by Market Cap’ Smart Portfolio จาก eToro แม้อาจจะไม่ใช่ ETF แต่ก็มีความคล้ายคลึงกันอยู่มาก นั่นเป็นเพราะการลงทุนเพียงครั้งเดียว นักลงทุนก็จะสามารถทำกำไรได้จากเหรียญคริปโตได้กว่า 20 สกุลด้วยพอร์ตการลงทุนที่อิงตามมูลค่าตลาด
ซึ่งหมายความว่าพอร์ตการลงทุนจะลงทุนในเหรียญคริปโตโดยอิงตามมูลค่าตลาดเพื่อเพิ่มโอกาสการเก็งกำไรในตลาด ซึ่ง eToro จะบริหารจัดการปรับสมดุลเหรียญคริปโตด้วย Market Cap Smart Portfolio ในนามของนักลงทุน
นักเทรดทั่วไปจะสนใจอัตราขั้นต่ำในการใช้งาน Smart Portfolio ซึ่งมีราคาเพียงแค่ $500 ยิ่งไปกว่านั้น eToro จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนจะจ่ายค่าคอมมิชชั่นซื้อขายโดยอ้อมๆ เพียง 1% สำหรับธุรกรรมที่ดำเนินการผ่าน Smart Portfolio นั่นเอง
Crypto ETF คืออะไร?
Crypto ETF ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้นักลงทุนได้ทำกำไรจากตลาดคริปโตผ่านเครื่องมือการลงทุนแบบดั้งเดิม ซึ่งหมายความว่านักลงทุนสามารถเก็งกำไรมูลค่าในอนาคตของเหรียญคริปโตได้โดยไม่ต้องซื้อบิทคอยน์และ altcoins ผ่านกระดานแลกเปลี่ยน
ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนที่ช่ำชองหลายคนรู้สึกไม่สบายใจนักที่จะใช้กระดานแลกเปลี่ยนคริปโตเพื่อซื้อและขายสินทรัพย์ แต่จะชื่นชอบ Crypto ETF จากผู้ให้บริการที่มีการกำกับดูแลแทน เช่น ProShares, ARK และ Fidelity
- Crypto ETF มีมากมายและแตกต่างกันไป
- ตัวอย่างเช่น Crypto ETF ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่บิทคอยน์โดยเฉพาะ
- ยิ่งไปกว่านั้น ETF บิทคอยน์ที่เข้าถึงได้ในตลาดสหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้รับการสนับสนุน
- แต่ผู้ให้บริการ ETF จะซื้อและขาย Bitcoin Futures ในนามของนักลงทุน
- นี่เป็นปัญหาในการลงทุน เนื่องจากจะมีความแตกต่างเสมอระหว่างมูลค่าของตลาดสปอต Bitcoin และ ETF ที่เกี่ยวข้อง
นอกตลาดสหรัฐฯ ก็มี ETF จำนวนหนึ่งที่ได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญคริปโต แม้ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนโดย Bitcoin แต่ก็มี ETF ที่ลงทุนโดยตรงลงใน Ethereum ด้วยเช่นกัน
บางทีประโยชน์หลักของ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือสามารถทำกำไรได้ผ่านบัญชีโบรกเกอร์ทั่วไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว Crypto ETF จะซื้อขายในกระดานแลกเปลี่ยนตราสารทุนสาธารณะ ซึ่งหมายความว่าการเข้าและออกจากตลาดก็ไม่แตกต่างจากการใช้งานแพลตฟอร์มการซื้อขายหุ้นทั่วไปนัก
Crypto ETF ยังมีความปลอดภัยกว่าสำหรับนักลงทุนบางราย เนื่องจากไม่มีข้อกำหนดสำหรับนักลงทุนที่ต้องไว้วางใจกระดานแลกเปลี่ยนที่ไม่มีการควบคุมเพื่อจัดเก็บเหรียญคริปโตของตน การดูแลจะเป็นความรับผิดชอบของผู้ให้บริการ ETF แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งจะดำเนินงานภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด
Crypto ETF ทำงานอย่างไร?
ควรทำความเข้าใจว่า Crypto ETF ทำงานอย่างไรก่อนที่จะเริ่มลงทุน
โดยเราจะแจกแจงปัจจัยพื้นฐานโดยละเอียด ดังนี้
Crypto ETF ซื้อขายบนกระดานเทรด
Crypto ETF ซื้อขายบนกระดานเทรดหุ้น ซึ่งสามารถลงทุนได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกับการซื้อและขายหุ้น
มูลค่าของ Crypto ETF จะเพิ่มขึ้นและลดลงเช่นเดียวกับหุ้นทั่วไป ขึ้นอยู่กับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของ ETF ณ วันซื้อและขายแต่ละวัน โดยจะอิงกับสินทรัพย์ทั้งหมดที่ถือครองโดย Crypto ETF ตามราคาตลาดปัจจุบัน
Crypto ETF ที่ได้รับการสนับสนุน
ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดคือกองทุนที่ได้รับการสนับสนุนโดยเหรียญคริปโต คล้ายกันกับ ETF ทองคำแบบดั้งเดิมที่ได้รับการสนับสนุนจากแท่งทองคำจริง แต่มูลค่าของ ETF จะสอดคล้องกับอัตราแลกเปลี่ยนทั่วโลกของเหรียญคริปโตนั้นๆ
แม้ตลาดสหรัฐฯ จะไม่มี ETF คริปโตที่ได้รับการสนับสนุนที่ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. แต่ ETF คริปโตในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะได้รับการสนับสนุนและทำธุรกรรมโดยตัวเลือกการลงทุนทางการเงินอย่าง Bitcoin Futures แต่ก็มี ETF คริปโตจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากเหรียญคริปโตนอกจากประเทศสหรัฐฯ
ตัวอย่างคือ 21Shares Ethereum ETP ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยโทเค็น ETH ทำให้ ETF เป็นโอกาสที่ดีที่สุดในการติดตามราคา Ethereum โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอเหรียญคริปโตอื่นๆที่ซับซ้อนและมีราคาแพง
ฟิวเจอร์ Crypto ETF
ETF คริปโตเคอเรนซี่ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งจำกัดการกระจายความเสี่ยงอย่างมาก เพราะตลาดฟิวเจอร์สคริปโตที่มีการควบคุมเพียงแห่งเดียวในสหรัฐอเมริกาคือ Bitcoin
นักลงทุนจะไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียจริงๆ ในมูลค่าของ Bitcoin เมื่อลงทุนใน ETF ฟิวเจอร์สและตราสารตัวเลือกลงทุนอื่น
โดยเหตุผลคือจะมีความแตกต่างในการกำหนดราคาระหว่างราคาบิทคอยน์กับราคาของ ETF บิทคอยน์นั่นเอง
หุ้น Crypto ETF
อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนคือการลงทุนใน ETF ที่ได้รับการสนับสนุนจากหุ้น Crypto ก่อนหน้านี้เราได้กล่าวถึง Bitwise Crypto Industry Innovators ETF ที่ให้เข้าถึงบริษัทคริปโตมากมาย ได้แก่ Coinbase, Marathon Digital และ Riot Blockchain
สำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยง Siren Nasdaq NexGen Economy ETF ก็ให้การเข้าถึงหุ้น คริปโตอย่างอิสระ ซึ่งรวมถึง Paypal, IBM, Oracle และ JPMorgan Chase
แต่การเลือก Crypto ETF ชั้นนำที่ได้รับการสนับสนุนโดยหุ้นซึ่งตรงข้ามกับเหรียญคริปโตหรือฟิวเจอร์สนั้นให้ประโยชน์หลักอย่างหนึ่งคือเงินปันผล หากหุ้นปันผลทำการแจกจ่ายเงินปันผล นักลงทุนก็จะได้รับสิทธิ์ในส่วนแบ่งของตนนั่นเอง
Crypto ETF เป็นการลงทุนที่ดีหรือไม่?
ความเห็นมักจะแตกต่างกันไปเมื่อพูดถึงวิธีที่ดีที่สุดที่จะลงทุนในคริปโตเคอเรนซี่ แม้นักลงทุนส่วนใหญ่จะใช้กระดานเทรดคริปโตแบบดั้งเดิม แต่คนอื่นๆ ก็รู้สึกสบายใจมากขึ้นที่จะใช้งานผู้ให้บริการ ETF แทน
ตอนนี้เราจะอธิบายถึงปัจจัยหลักๆ บางประการที่ต้องพิจารณาก่อนทำกำไรจาก Crypto ETF
หลีกเลี่ยงกระดานเทรดคริปโต
หนึ่งในเหตุผลหลักว่าทำไมนักลงทุนบางคนจึงตามหา ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดเพื่อลงทุนในเหรียญคริปโต นั่นก็เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงกระดานเทรดคริปโต
เหรียญคริปโตซื้อขายต่างจากตลาดหุ้น ซึ่งเป็น Centralized Exchange เช่น NYSE และ NASDAQ หมายความว่าระบบการกำหนดราคาที่ให้นักลงทุนจากทั่วโลกสามารถดูประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์ของหุ้นที่เลือกจะมีการกำกับดูแลอย่างชัดเจน
แต่ราคาเหรียญคริปโตจะถูกกำหนดจากกระดานแลกเปลี่ยน โดยราคาของ Bitcoin จะมีความแตกต่างอยู่มากในกระดานแลกเปลี่ยนแต่ละประเทศ การลงทุนใน Crypto ETF จึงทำให้นักลงทุนทำกำไรได้จาก Bitcoin โดยไม่จำเป็นต้องเสี่ยงลงทุนในกระดานแลกเปลี่ยนที่ไม่มีการกำกับดูแลนั่นเอง
การดูแล
ประโยชน์สูงสุดของ Crypto ETF คือการกำกับดูแล เมื่อนักลงทุนซื้อเหรียญคริปโตออนไลน์ก็จะมีสองตัวเลือกด้วยกัน
- ตัวเลือกแรก พวกเขาสามารถเก็บโทเค็นไว้ใน Crypto Wallet ที่ได้รับการดูแลจากกระดานเทรดคริปโต
- แต่ถ้ากระดานเทรดโดนแฮ็ก นักลงทุนก็จะสูญโทเค็นใน Wallet ไปทั้งหมด
- ทางเลือกที่สองคือถอนโทเค็นไปยัง Private Wallet
- หมายความว่านักลงทุนสามารถควบคุมเหรียญคริปโตของตนได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีการแฮ็กเกิดขึ้น สิ่งนี้ก็อาจส่งผลให้สูญเสียเหรียญไปได้เช่นกัน
การเลือกใช้ Crypto ETF ทำให้นักลงทุนแทบไม่มีความเสี่ยง เนื่องจาก ETF จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ให้บริการที่ได้รับการควบคุม เช่น Fidelity หรือ ProShares
ผู้ให้บริการ ETF จะมีการประกันและการควบคุมความปลอดภัยระดับสถาบันในนามของนักลงทุน
หมายความว่านักลงทุนสามารถทำกำไรจากเหรียญคริปโตโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับวิธีการทำงานด้านปลอดภัยของ Wallet
สภาพคล่อง
แม้ว่า ETF คริปโตจะถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างสภาพคล่องในตลาด แต่ในทางตรงกันข้าม กลับมีสภาพคล่องมากกว่าอย่างมากในกระดานเทรดคริปโตหลักๆ อย่าง Binance
ตัวอย่างเช่น ในช่วง 24 ชั่วโมงของการซื้อขาย เหรียญคริปโตมูลค่ามากกว่า 18 พันล้านดอลลาร์ได้ถูกแลกเปลี่ยนในกระดานเทรด Binance ซึ่งสูงกว่าคู่แข่งอย่าง ETF อยู่มาก
ในช่วงขาขึ้นก็มีการทำธุรกรรมใน Binance ในปริมาณกว่า 70 พันล้านดอลลาร์
การขายชอร์ต
อีกหนึ่งข้อดีของ ETF คริปโตเคอเรนซี่คือช่วยให้นักลงทุนขายชอร์ต Bitcoin ได้อย่างง่ายดาย โดยปกติแล้วนักลงทุนจะต้องมีส่วนร่วมกับตัวเลือกลงทุนทางการเงินที่ซับซ้อนเพื่อขาย เช่น crypto futures หรือ option หรือนักลงทุนจะต้องใช้กระดานเทรดคริปโตที่ไม่ได้รับการควบคุมเช่น Bitmex
แต่ ProShares Short Bitcoin Strategy ETF นั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อขายชอร์ตโดยเฉพาะ นักลงทุนเพียงแค่ต้องซื้อ ETF ซึ่งซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กเพื่อทำกำไรจากการลดลงของราคา Bitcoin
ProShares Short Bitcoin Strategy ETF เหมาะสำหรับสถานะระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยฟิวเจอร์ส ด้วยเหตุนี้เมื่อพิจารณาจากกราฟราคา ETF จึงทำให้เห็นความแตกต่างกันอย่างมากในความสัมพันธ์ระหว่างราคา ETF กับตลาดสปอต Bitcoin
ทำไมพรีเซลล์เหรียญคริปโตจึงดีกว่า Crypto ETF?
ก่อนหน้านี้ในคู่มือเปรียบเทียบนี้ เราได้สังเกตเห็นว่ามีทางเลือกที่ดีกว่ามากสำหรับ Crypto ETF อย่างน้อยก็ในรูปแบบปัจจุบัน โดยสิ่งที่เห็นได้ชัด หลักๆ คือโปรเจกตืเหล่านี้เป็นเหรียญคริปโตในช่วงพรีเซลล์ โดย Bitcoin ETF Token เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในฐานะ ETF เหรียญคริปโตทางเลือก โดยนำเสนอสิทธิประโยชน์มากมายของการลงทุนใน ETF เหรียญคริปโตซึ่งเชื่อมโยงกับการอนุมัติของ ก.ล.ต. โดยมีข้อเสียเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
พรีเซลล์นั้นเหมาะกับนักลงทุนที่ไม่เพียงแต่ต้องการทำกำไรจากเหรียญคริปโตเท่านั้น แต่ยังต้องต้องการอยู่เหนือตลาดอีกด้วย เนื่องจากพรีเซลล์เสนอราคาที่ถูกที่สุดของเหรียญคริปโตก่อนถูกลิสต์ในกระดานแลกเปลี่ยน
นอกเหนือจาก Bitcoin ETF Token ก็ยังมีเหรียญทางเลือกในช่วงพรีเซลล์อีกสองสกุลที่อาจเป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้กัน
Bitcoin Minetrix
Bitcoin Minetrix ($BTCMTX) เป็นโซลูชั่นที่นำเสนอวิธีการขุด Bitcoin บนคลาวด์ในรูปแบบใหม่
โดยจะสามารถทำได้โดยการ Staking โทเค็น ERC-20 เพื่อแลกกับเครดิตการขุด Bitcoin ที่ไม่สามารถโอนได้ โดยเครดิตเหล่านี้จะถูกเผาทิ้งไปเพื่อแลกกับ Bitcoin
นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่เรียบง่ายแต่ถือว่าทำได้ดีสำหรับปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการขุด Bitcoin ซึ่งต้องใช้การลงทุนล่วงหน้าอย่างจริงจังและความเชี่ยวชาญทางเทคนิคในระดับสูง แม้แต่อุตสาหกรรมการขุดบนคลาวด์ Bitcoin ก็ขึ้นชื่อในเรื่องค่าใช้จ่ายล่วงหน้าที่สูงและมีผู้ให้บริการอีกมากมายที่มีการฉ้อโกงการขุดบนคลาวด์
แต่ด้วยการลงทุนล่วงหน้าเพียง 10 ดอลลาร์ใน Bitcoin Minetrix ที่ผู้ใช้จะได้ควบคุมทรัพย์สินของตนอย่างเต็มที่ ด้วยความสะดวกสบายของแดชบอร์ดแบบรวมศูนย์ แดชบอร์ดนี้ให้ภาพรวมของรางวัลรายวัน รายเดือน และรายสัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีตัวชี้วัดสำคัญ เช่น ‘เครดิตการขุดที่ได้รับ’ และ ‘พลังงานการขุดที่ซื้อไป’ โดยแอพพลิเคชันบนมือถือยังอยู่ระหว่างการพัฒนา
โปรเจกต์จะเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถขุดได้ทันทีเพียงคลิกแค่ปุ่มเดียว เมื่อเชื่อมต่อกับ Web 3.0 Wallet เข้ากับหน้าพรีเซลล์แล้ว นักลงทุนก็จะสามารถ Stake ได้อย่างง่ายดาย นี่เป็นโมเดลแบบ Stake to Mine แห่งแรกของโลก ที่อาจจะเข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมได้อีกด้วย โดยไม่จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์เพิ่มเติมในการขุด BTC บนคลาวด์ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อตลอดอย่างมากจาก Bitcoin Halving ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แคมเปญนี้นำเสนอผลตอบแทนต่อปี PoS ที่ 170% ในปัจจุบัน และโทเค็นปัจจุบันเปิดขายในราคา 0.0114 ดอลลาร์ และจะจบที่ 0.0148 ดอลลาร์ในรอบที่ 39 ซึ่งเป็นรอบสุดท้าย อุปทานโดยรวมอยู่ที่ 4 พันล้านและมี 2.8 พันล้านโทเค็นที่เปิดขายในช่วงพรีเซลล์ ตัวโปรเจกต์สามารถระดมทุนได้กว่า 3.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังเหลือหนทางอีกยาวไกลเพื่อให้ถึงเป้าระดมทุนสูงสุดที่ 33 ล้านดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ผู้ใช้จะสามารถหาอ่านได้ใน Bitcoin Minetrix Whitepaper อย่างเป็นทางการ
ช่องทางโซเชียลของโปรเจกต์ (Twitter และ Telegram) ถือเป็นช่องทางหลักที่ช่วยในการติดตามการอัพเดทและการพัฒนาของโปรเจกต์
เพดานเงินทุน | $33.46 ล้าน |
โทเค็นทั้งหมด | 4 พันล้าน |
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์ | 2.8 พันล้าน |
Blockchain | เครือข่าย Ethereum |
ประเภทโทเค็น | ERC-20 |
ซื้อขั้นต่ำ | $10 |
ซื้อด้วย | USDT, ETH, BNB |
Meme Kombat
Meme Kombat ($MK) เป็นอีกทางเลือกที่มาในรูปแบบเหรียญมีมพรีเซลล์ที่มุ่งเน้นไปที่การต่อสู้ของเหล่าเหรียญมีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดของโลก
Meme Kombat อาจได้รับประโยชน์จากกระแสที่ว่านี้ด้วยการเปิดให้เหล่ามีมได้เข้ามาต่อสู้กัน ด้วยวิธีนี้ โปรเจกต์จึงมีเหล่ามีมมากเสน่ห์หลายรูปแบบ มากกว่าการใช้มีมเพื่อดึงดูดเพียงตัวเดียว
Meme Kombat ดูเหมือนจะเป็นพรีเซลล์แรกที่อยู่ในประเภทนี้ แต่ยังเสนอสิ่งจูงใจของตัวเองเช่น ผลตอบแทนต่อปีที่มั่นคงและตัวเลือกการเดิมพันว่าใครจะชนะการต่อสู้ มาพร้อมกับรูปแบบการเดิมพันสามรูปแบบที่ผู้เล่นสามารถเข้าร่วมเล่นได้ ได้แก่ Direct, P v P และ P v Game P v P ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้เดิมพันแข่งกับเพื่อนของตน ซึ่งเพิ่มระดับความเป็นส่วนตัว ส่วนการเดิมพันข้าง (Side Bet) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถวางเดิมพันในด้านใดๆ เป็นพิเศษของการต่อสู้ในรูปแบบไดนามิก
ในซีซันที่ 1 มีเหล่ามีมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกถึง 11 ไอคอน และคาดว่าจะมีมีมเพิ่มเข้ามาอีกในอนาคต รวมถึงรูปแบบการเดิมพันและรูปแบบการต่อสู้หลังจากจบซีซันและจะนำความคิดเห็นของผู้ใช้มาพิจารณาด้วย ส่วนรางวัลจะถูกแจกจ่ายไปยังที่อยู่ของ Wallet ที่ถูกต้องโดยอัตโนมัติโดยใช้เทคโนโลยีBlockchain ส่วนการต่อสู้ก็จะได้รับการปรับปรุงด้วย AI พร้อมฉากการต่อสู้ที่สดใสเพื่อให้น่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น
Meme Kombat ยังเป็นพรีเซลล์ที่มีความโปร่งใสในระดับสูง ด้วยผู้สร้างที่ได้รับการตรวจสอบต่อสาธารณะและการตรวจสอบสัญญาอัจฉริยะที่ชัดเจน โดยพรีเซลล์ระดมทุนได้แล้วกว่า 1.25 ล้านดอลลาร์
ทีมงานตั้งเป้าระดมทุนสูงสุดในช่วงพรีเซลล์เอาไว้ที่ 10 ล้านดอลลาร์ และเปิดขายโทเค็นในรอบพรีเซลล์ที่ 60 ล้านโทเค็น จาก 120 ล้านโทเค็น ในราคา 0.1667 ดอลลาร์
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหรียญคริปโตพรีเซลล์นี้ ผ้ใช้สามารถอ่านต่อได้ใน Meme Kombat Whitepaper และเข้าร่วมกับ Twitter อย่างเป็นทางการได้ที่นี่
เพดานเงินทุน | $10,000,000 |
โทเค็นทั้งหมด | 120 ล้าน |
โทเค็นในช่วงพรีเซลล์ | 60 ล้าน |
Blockchain | เครือข่าย Ethereum |
ประเภทโทเค็น | ERC-20 |
ซื้อขั้นต่ำ | $5 |
ซื้อด้วย | USDT, ETH |
บทสรุป
บทความนี้ได้วิเคราะห์และจัดอันดับ ETF เหรียญคริปโตที่ดีที่สุดในตลาดวันนี้
แม้ ETF คริปโตจะได้รับการออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการลงทุนอย่างปลอดภัยในตลาด Bitcoin แต่ ETF ส่วนใหญ่ก็ได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาซื้อขายฟิวเจอร์ส แทนที่จะเป็นเหรียญคริปโต ดังนั้น ทางเลือกที่ดีกว่ามากที่ต้องพิจารณาในวันนี้คือเหรียญคริปโตที่อยู่ในช่วงพรีเซลล์
Bitcoin ETF Token เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโต ETF ที่ดีที่สุดที่น่าลงทุนในตอนนี้ โดยเชื่อมโยงกับอุตสาหกรรม ETF เหรียญคริปโตและอาจส่งผลให้ราคาเหรียญเพิ่มขึ้นมากกว่าการลงทุนใน ETF โดยตรง
นอกจากนี้เหรียญยังให้สิทธิประโยชน์ในช่วงพรีเซลล์มากมาย เช่น ราคาเหรียญที่ถูกลงสำหรับคนซื้อรอบแรกๆ อัตราผลตอบแทนต่อปีที่สูง และการเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งสิทธิประโยชน์เหล่านี้จะไม่สามารถหาได้จาก Crypto ETF ทั่วๆ ไปอย่างแน่นอน